ทำเนียบขาว แถลงวานนี้ (28 ก.พ.) ว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่ง สหรัฐอเมริกา จะเป็นเจ้าภาพจัด การประชุมสุดยอด ผู้นำประเทศสมาชิกสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ที่กรุงวอชิงตัน ดีซี ในวันที่ 28-29 มี.ค.ที่จึงนี้
การประชุมดังกล่าวเป็นการยืนยันถึงพันธกรณีของสหรัฐที่มีต่ออาเซียน และเพื่อเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 45 ปีแห่งการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างสหรัฐและอาเซียน
ส่วนในกรณีของเมียนมานั้น เจ้าหน้าที่สหรัฐรายหนึ่งคาดว่า อาเซียนจะยังคงดำเนินนโยบายระงับการมีส่วนร่วมในการประชุมของตัวแทนจากรัฐบาลทหารของเมียนมา โดยจะให้ตัวแทนที่ไม่เกี่ยวข้องทางการเมืองเข้าร่วมการประชุมเท่านั้น
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 26 ต.ค. 2564 ผู้นำสหรัฐได้กลับเข้าร่วมการประชุมสุดยอดของกลุ่มอาเซียน (อาเซียนซัมมิต) เป็นครั้งแรกหลังจากที่ห่างหายไปนานถึง 4 ปีในยุคสมัยของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ปธน.ไบเดนกลับเข้าสู่เวทีประชุมของอาเซียนพร้อมกับแผนให้ความสนับสนุน 102 ล้านดอลลาร์ สำหรับขยายความร่วมมือทางยุทธศาสตร์สหรัฐ-อาเซียนในหลากหลายมิติ
ไบเดนกล่าวในระหว่างการร่วมประชุมทางไกลกับบรรดาผู้นำอาเซียนในครั้งนั้น ว่า ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐกับกลุ่มอาเซียนถือว่าเป็นสิ่งจำเป็น
"ผมต้องการให้ทุกท่านได้ยินจากผมโดยตรงถึงความสำคัญของความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐกับอาเซียน สามารถคาดหวังได้ว่าจะได้เห็นผมเข้าร่วมและติดต่อกับพวกท่านด้วยตัวเองเพื่อทำให้ความร่วมมือของสหรัฐลึกซึ้งยิ่งขึ้น และแสวงหาหนทางใหม่สำหรับการเจรจาในภูมิภาค”
ผู้นำสหรัฐระบุว่า เป้าหมายของเขาก็คือ ภูมิภาคที่ทุกประเทศสามารถแข่งขันและประสบความสำเร็จในสนามแข่งขันที่เท่าเทียมกัน และทุกประเทศ ไม่ว่าจะใหญ่หรือมีอำนาจเพียงใด จะต้องปฏิบัติตามกฎหมายและกฎกติกา
ในการประชุมอาเซียนซัมมิตครั้งล่าสุดในเดือนต.ค.2564 นั้น ปธน.ไบเดนได้ประกาศแผนการที่จะให้เงินสนับสนุน 102 ล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อขยายความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ของสหรัฐ กับอาเซียน โดยจะมุ่งให้เกิดประโยชน์สำหรับโครงการด้านสาธารณสุข ด้านการดูแล-รับมือสภาวะอากาศ ด้านเศรษฐกิจ และการศึกษา
โดยสำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ในวงเงินจำนวนดังกล่าว นั้น
นักวิเคราะห์กล่าวว่า การเข้ามีส่วนร่วมในการประชุมครั้งสำคัญของอาเซียนของปธน.ไบเดน สะท้อนให้เห็นว่า สหรัฐต้องการเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับบทบาทของสหรัฐในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกท่ามกลางบริบทการแผ่ขยายอิทธิพลของจีนที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ในฐานะที่เป็นคู่อริด้านความมั่นคงและเศรษฐกิจของประเทศสหรัฐ
ข้อมูลอ้างอิง
Biden to host Southeast Asian leaders in Washington in late March