IEA ออกรายงานเตือนภาวะตึงตัวรุนแรงในตลาดน้ำมัน

22 มี.ค. 2565 | 00:56 น.
อัปเดตล่าสุด :22 มี.ค. 2565 | 08:10 น.

มาตรการคว่ำบาตรที่นานาประเทศมีต่อรัสเซียจะทำให้รัสเซียไม่สามารถส่งออกน้ำมันดิบและผลิตภัณฑ์น้ำมันอื่นๆ ส่งผลโดยตรงต่ออุปทานน้ำมันในตลาดโลก IEAออกรายงานเตือนเกี่ยวกับภาวะตึงตัวปริมาณน้ำมัน พร้อมคำแนะนำผู้บริโภคประหยัดการใช้น้ำมันท่ามกลางราคาที่พุ่งแรง

สำนักงานพลังงานสากล (IEA) ออกรายงานเตือนเกี่ยวกับ ภาวะตึงตัวในตลาดน้ำมัน โดยระบุว่า มาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซีย จะส่งผลให้ รัสเซีย ไม่สามารถส่งออกน้ำมันดิบและผลิตภัณฑ์น้ำมันอื่นๆ รวม 3 ล้านบาร์เรล/วันในเดือนเม.ย. นี้ ขณะที่มีการคาดการณ์ว่าอุปสงค์น้ำมันจะลดลงเพียง 1 ล้านบาร์เรล/วัน

 

พร้อมกันนี้ IEA ได้ออกคำแนะนำให้ผู้บริโภคทั่วโลกเดินทางให้น้อยลง ใช้รถยนต์ร่วมกัน และขับขี่ให้ช้าลงเพื่อเป็นการประหยัดน้ำมัน หลังการบุกโจมตียูเครนของรัสเซียได้ก่อให้เกิดความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาอุปทานน้ำมันโลก

 

IEA ซึ่งมีสมาชิกเป็นประเทศอุตสาหกรรม 31 ประเทศ แต่ไม่รวมถึงรัสเซีย ย้ำเตือนว่า ภาวะอุปทานน้ำมันขาดแคลนเป็น “ปัญหาเร่งด่วน” อันเกิดจากมาตรการคว่ำบาตรที่มีต่อรัสเซีย และการที่ผู้ซื้อหลีกเลี่ยงการนำเข้าน้ำมันจากรัสเซีย ซึ่งได้ส่งผลให้ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นอย่างมาก

IEA ออกรายงานเตือนภาวะตึงตัวรุนแรงในตลาดน้ำมัน

คำแนะนำของ IEA ต่อผู้ใช้น้ำมันทั่วโลก เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบจากราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้น ยังครอบคลุมถึง

  • การจำกัดความเร็วในการขับขี่รถยนต์
  • ส่งเสริมการทำงานจากที่บ้าน (Work from Home)
  • กำหนดวันงดใช้รถยนต์ในพื้นที่เมือง
  • ลดค่าบริการระบบขนส่งสาธารณะ
  • รณรงค์ให้มีการใช้รถยนต์ร่วมกัน

 

ทั้งนี้ IEA คาดว่า แผนการดังกล่าวจะสามารถลดอุปสงค์น้ำมันได้ 2.7 ล้านบาร์เรลต่อวันภายในระยะเวลา 4 เดือน

ราคาน้ำมันพุ่ง อียูเตรียมคว่ำบาตรรัสเซียรอบที่ 5

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 7% ในวันจันทร์ (21 มี.ค.) หลังมีรายงานข่าวว่า ประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป (EU) กำลังพิจารณาคว่ำบาตรน้ำมันรัสเซียตามรอยสหรัฐ ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในวันพรุ่งนี้ (23 มี.ค.)

 

ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 7.42 ดอลลาร์ หรือ 7.09% ปิดที่ 112.12 ดอลลาร์/บาร์เรล ขณะที่ สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 7.69 ดอลลาร์ หรือ 7.12% ปิดที่ 115.62 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

รัฐบาลของประเทศต่าง ๆ ในสหภาพยุโรป (อียู) กำลังพิจารณาว่าจะใช้มาตรการคว่ำบาตรต่อการนำเข้าน้ำมันจากรัสเซียหรือไม่ โดยในสัปดาห์นี้บรรดาผู้นำในอียูจะร่วมหารือกับประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ เกี่ยวกับนโยบายที่จะใช้ตอบโต้รัสเซียซึ่งใช้กำลังทหารบุกโจมตียูเครนเมื่อเดือนที่แล้ว

 

เจ้าหน้าที่ทูตอาวุโสของอียู เปิดเผยว่า อียูกำลังอยู่ในระหว่างกำหนดมาตรการคว่ำบาตรรอบที่ 5 ต่อรัสเซีย โดยรัฐมนตรีต่างประเทศของอียูได้ร่วมหารือกันเมื่อวานนี้ ก่อนที่จะเปิดฉากการประชุมร่วมกับปธน.ไบเดนในวันพฤหัสฯ (24 มี.ค.) รวมถึงชาติสมาชิกองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) 30 ประเทศ ชาติสมาชิกสหภาพยุโรป และกลุ่มประเทศ G7 ซึ่งรวมถึงญี่ปุ่น

 

ทั้งนี้ แม้รัสเซียถูกอียูคว่ำบาตรไปแล้วถึง 4 รอบ แต่ยังไม่มีทีท่าว่าจะถอนกำลังออกจากยูเครน ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวส่งผลให้อียูเริ่มพิจารณาว่าอาจต้องใช้ทางเลือกที่รุนแรงขึ้น เช่นการคว่ำบาตรน้ำมันของรัสเซีย ซึ่งสหรัฐและอังกฤษได้ดำเนินการนำร่องไปแล้วก่อนหน้านี้

 

นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสหรัฐ โดยสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวในวันพรุ่งนี้ เวลา 21.30 น.ตามเวลาไทย