คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของ ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติเอกฉันท์ ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.50% สู่ระดับ 0.75-1.00% ในการประชุมวานนี้ (4 พ.ค.ตามเวลาสหรัฐ) ตามที่ตลาดการเงินคาดการณ์ไว้ นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟดส่งสัญญาณว่า เฟดอาจจะปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.50% ในการประชุม 2 ครั้งข้างหน้า อย่างไรก็ดี ขณะนี้คณะกรรมการเฟดยังไม่ได้พิจารณาเรื่องการปรับขึ้นดอกเบี้ยรุนแรงถึง 0.75%
ทั้งนี้ การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ดังกล่าว นับเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนพ.ค.2543 และเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งใหญ่ที่สุดในรอบกว่า 20 ปี
นอกจากนี้ เฟดยังเปิดเผย แผนทยอยปรับลดขนาดงบดุล (Quantitative Tightening : QT) โดยจะเริ่มดำเนินการตั้งแต่เดือนมิ.ย. ซึ่งงบดุลดังกล่าวประกอบด้วยพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐและตราสารหนี้ที่มีสินเชื่อที่อยู่อาศัยเป็นหลักประกันการจำนอง (MBS) โดยขณะนี้มีมูลค่ารวม 8.9 ล้านล้านดอลลาร์
เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย. เฟดจะลดขนาดงบดุลในวงเงิน 47,500 ล้านดอลลาร์/เดือน โดยจะปล่อยให้พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐวงเงิน 30,000 ล้านดอลลาร์ และตราสารหนี้ MBS วงเงิน 17,500 ล้านดอลลาร์ครบอายุในแต่ละเดือนโดยไม่มีการซื้อเพิ่มเติม และหลังจากนั้น 3 เดือน เฟดจะเพิ่มการลดขนาดงบดุลเป็น 95,000 ล้านดอลลาร์/เดือน โดยจะปล่อยให้พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐวงเงิน 60,000 ล้านดอลลาร์ และตราสารหนี้ MBS วงเงิน 35,000 ล้านดอลลาร์ครบอายุในแต่ละเดือนโดยไม่มีการซื้อเพิ่มเติม
แถลงการณ์ของเฟดระบุว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจของสหรัฐได้ชะลอตัวลงในไตรมาสแรก แต่การใช้จ่ายของภาคครัวเรือนและการลงทุนในสินทรัพย์คงที่ของภาคธุรกิจยังคงมีความแข็งแกร่ง ขณะที่เงินเฟ้อยังคงดีดตัวขึ้น
นอกจากนี้ การที่จีนใช้มาตรการล็อกดาวน์เศรษฐกิจเพื่อสกัดการแพร่ระบาดของโควิด-19 มีแนวโน้มที่จะทำให้ปัญหาชะงักงันของห่วงโซ่อุปทานมีความรุนแรงขึ้น นอกเหนือจากการที่รัสเซียส่งกำลังทหารโจมตียูเครน และเหตุการณ์อื่นๆที่เกี่ยวข้อง ซึ่งได้ทำให้เกิดแรงกดดันเพิ่มขึ้นต่อเงินเฟ้อ และมีแนวโน้มถ่วงกิจกรรมทางเศรษฐกิจ
ในการแถลงข่าวภายหลังการประชุม FOMC นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟด กล่าวว่า ตลาดแรงงานของสหรัฐอยู่ในภาวะตึงตัวอย่างมากและอัตราเงินเฟ้อก็อยู่ในระดับที่สูงเกินไป ซึ่งเฟดจะเร่งดำเนินการให้อัตราเงินเฟ้อชะลอตัวลง พร้อมกับส่งสัญญาณว่าเฟดอาจจะปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.50% ในการประชุม 2 ครั้งข้างหน้า อย่างไรก็ดี นายพาวเวลกล่าวว่า ขณะนี้คณะกรรมการเฟดยังไม่ได้พิจารณาเรื่องการปรับขึ้นดอกเบี้ยรุนแรงถึง 0.75%
สำหรับ การประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของเฟดประจำปี 2565 ครั้งต่อไป มีกำหนดดังนี้