หุ้นทวิตเตอร์พุ่งกว่า 5% หลัง "อีลอน มัสก์" เดินหน้าเทคโอเวอร์กิจการ

26 พ.ค. 2565 | 04:18 น.
อัปเดตล่าสุด :26 พ.ค. 2565 | 12:53 น.

ราคาหุ้นทวิตเตอร์พุ่งขึ้น 5.62% ในการซื้อขายนอกเวลาทำการที่ตลาดหุ้นนิวยอร์กช่วงเช้านี้ (26 พ.ค.) หลังมีรายงานว่า นายอีลอน มัสก์ วางแผนจะเพิ่มวงเงินส่วนตัวเพื่อซื้อกิจการทวิตเตอร์เป็นเงิน 33,500 ล้านดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นข่าวในเชิงบวก

หลังจากที่ก่อนหน้านี้ นายอีลอน มัสก์ มหาเศรษฐีอันดับ1 ของโลก ผู้ก่อตั้ง บริษัท เทสลา ยักษ์ใหญ่ผู้ผลิตยานยนต์ไฟฟ้าของสหรัฐ ได้ประกาศ “พักชั่วคราว” การเจรจาข้อตกลง ซื้อกิจการ “ทวิตเตอร์” แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียยอดนิยม ล่าสุดมีข่าวดี โดยนายมัสก์ ออกมายืนยัน “ไม่ถอดใจ” ที่จะซื้อทวิตเตอร์ นอกจากนี้เขายังรายงานต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (SEC) ของสหรัฐว่า เขามีแหล่งเงินทุนซื้อทวิตเตอร์เพิ่มเติมเป็นเงิน 33,500 ล้านดอลลาร์ ซึ่งจากข่าวนี้ ทำให้ราคาหุ้นทวิตเตอร์เด้งขึ้นทันที 5.6%

 

สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า นายมัสก์ กำลังเจรจากับนายแจ็ค ดอร์ซีย์ ผู้ก่อตั้งและอดีตซีอีโอของทวิตเตอร์ รวมทั้งเจ้าหน้าที่คนอื่น ๆ ของทวิตเตอร์ เพื่อช่วยเหลือในการบรรลุข้อตกลงซื้อกิจการทวิตเตอร์วงเงิน 44,000 ล้านดอลลาร์

อีลอน มัสก์

ทั้งนี้ นายมัสก์เสนอซื้อกิจการทวิตเตอร์ครั้งแรกในเดือนเม.ย. 2565 ส่งผลให้ราคาหุ้นทวิตเตอร์ดิ่งลงต่ำกว่าราคาเสนอซื้อกิจการที่ 54.20 ดอลลาร์ต่อหุ้น ซึ่งบ่งชี้ว่านักลงทุน “ไม่มั่นใจ” ว่านายมัสก์จะซื้อกิจการทวิตเตอร์ที่ราคาดังกล่าว ต่อมาในช่วงต้นเดือนพ.ค. ราคาหุ้นทวิตเตอร์ดิ่งลงอย่างหนัก หลังจากที่นายมัสก์ออกมาเปิดเผยว่า เขาจะ “พัก” การเจรจาข้อตกลงซื้อกิจการทวิตเตอร์เป็นการชั่วคราว จนกว่าเขาจะได้รับข้อมูลมากขึ้นเกี่ยวกับจำนวนบัญชีปลอมบนทวิตเตอร์ โดยนายมัสก์กล่าวว่าภารกิจแรกของเขาคือการกวาดล้าง "spam bots" ออกจากทวิตเตอร์นั่นเอง

 

นอกจากนี้ นายมัสก์ยังกล่าวในที่ประชุม All In Summit Tech Conference ในเมืองไมอามีเมื่อไม่นานมานี้ว่า ข้อตกลงซื้อกิจการทวิตเตอร์ควรจะต่ำกว่า 44,000 ล้านดอลลาร์ เมื่อพิจารณาถึงข้อกังวลเกี่ยวกับ spam bots

 

ที่ผ่านมาสังคมรับรู้ว่า ทวิตเตอร์กำลังมีเจ้าของคนใหม่คือ อีลอน มัสก์ ซึ่งกระบวนการเข้าซื้อนั้นใช้เวลานาน แต่ก็ถือเป็นเรื่องปกติของการเข้าซื้อกิจการ 

 

อย่างไรก็ตาม ดีลนี้อาจใช้เวลานานขึ้น เพราะจู่ ๆ นายมัสก์ก็มาบอกว่าจะพักชั่วคราวดีลการซื้อทวิตเตอร์ไปก่อน เพราะอยากตรวจสอบบัญชีปลอม หรือที่ผู้คนเรียกกันติดปากว่า “แอคบอท” เขายังตั้งข้อสังเกตด้วยว่า มูลค่าทวิตเตอร์ อาจไม่มากเท่าราคาที่เสนอซื้อตอนแรกคือ 44,000 ล้านดอลลาร์

หลายคนเริ่มสงสัยว่า มัสก์อยากล้มดีลนี้รึเปล่า แต่เขาก็ยืนยันมั่นเหมาะว่า จะซื้อต่อ แต่ต้องหลังจากทวิตเตอร์กำจัดบัญชีปลอม-บัญชีสแปมออกหมด

 

ทางด้านทวิตเตอร์ได้ออกมาระบุในรายงานผลประกอบการไตรมาสแรกปีนี้แล้วว่า ได้ทำการตรวจสอบบัญชีปลอมแล้ว ประเมินว่ามีสัดส่วนน้อยกว่า 5% (วัดจาก mDAUs หรือ monetizable Daily Active Users นับเฉพาะผู้ใช้งานที่ล็อกอิน และสามารถแสดงโฆษณาได้)

 

นอกจากนี้ ในองค์กรของทวิตเตอร์เองก็ยังมีความไม่ลงตัวเรื่องบอร์ดคณะกรรมการ ซึ่งล่าสุด นายแจ็ค ดอร์ซีย์ ผู้ก่อตั้งทวิตเตอร์ ได้ลาออกจากบอร์ดไปแล้วอย่างเป็นทางการ และสดๆ ร้อนๆ คือวันนี้ (26 พ.ค.) FTC หรือคณะกรรมาธิการการค้าของสหรัฐอเมริกา (Federal Trade Commission) สั่งปรับทวิตเตอร์เป็นเงิน 150 ล้านดอลลาร์  ด้วยข้อกล่าวหาว่า ทวิตเตอร์ใช้ที่อยู่อีเมลและหมายเลขโทรศัพท์มากำหนดเป้าหมายการโฆษณาหรือ ad targeting

 

รายงานระบุว่า ค่าปรับดังกล่าวคิดเป็น 13% ของรายได้ไตรมาสแรกปีนี้ (Q1/2022) ของทวิตเตอร์

 

ขณะเดียวกัน ในส่วนของนายอีลอน มัสก์ ยังมีดราม่าส่วนตัว โดยเขาถูกกล่าวหาเรื่อง Sexual Misconduct ซึ่งเป็นการประพฤติผิดทำนองครองธรรม โดยเขาขอมีอะไรกับพนักงานบนเครื่องบิน SpaceX เป็นคดีเก่าในปี 2016 และเพิ่งมีการแฉออกมา ซึ่งล่าสุดอีลอน มัสก์ ได้ออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหานี้แล้ว เรียกได้ว่า นี่เป็นอีกปีหนึ่งที่มีทั้งดีลสำคัญที่อยู่ระหว่างดำเนินการ และยังเป็นปีแห่งความวุ่นวายของชายที่ชื่ออีลอน มัสก์ เลยก็ว่าได้