รายงานข่าวของหนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียล ไทมส์ สื่อใหญ่ของอังกฤษ ซึ่งอ้างอิงแหล่งข่าววงในถึง 6 คนระบุว่า นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎร และคณะผู้แทนจากสหรัฐอเมริกา จะเดินทางเยือน ไต้หวัน อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น มาเลเซีย สิงคโปร์ รวมทั้งการเยือนสำนักงานใหญ่ของหน่วยบัญชาการอินโด-แปซิฟิกของสหรัฐที่เกาะฮาวาย ในเดือนสิงหาคมนี้
เกี่ยวกับรายข่าวดังกล่าว นายจ้าว ลี่เจียน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน ได้ออกมาแถลงว่า การเดินทางเยือนไต้หวันของนางเพโลซี หากเป็นจริงตามที่สื่อรายงาน จะเป็นการทำลายอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของจีน โดยจีนนั้นถือว่า ไต้หวันเป็นเขตปกครองพิเศษของจีนภายใต้นโยบาย “หนึ่งประเทศ สองระบบ”
นายจ้าวกล่าวว่า หากสหรัฐยังดื้อแพ่งจะทำตามนั้น จีนจะใช้มาตรการขั้นเด็ดขาดอย่างแน่นอน เพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติและบูรณภาพแห่งดินแดนอย่างเต็มที่ ซึ่งสหรัฐจะต้องรับผิดชอบผลจากการกระทำทั้งหมดนี้
สื่อรายงานว่า ก่อนหน้านี้ นางเพโลซีเคยมีกำหนดเยือนไต้หวันครั้งหนึ่งแล้วในเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา แต่ต้องถูกยกเลิกไปเนื่องจากนางเพโลซีติดโควิด-19 นอกจากนี้ เธอยังเคยประชุมออนไลน์กับนายวิลเลียม ไล รองประธานาธิบดีไต้หวันเมื่อเดือนม.ค.ที่ผ่านมา ก่อนที่นายไลจะเดินทางเยือนสหรัฐและฮอนดูรัส
ในตอนนั้นจีนกล่าวว่า การเยือนไต้หวันของนางเพโลซี (ที่ถูกยกเลิกไปเสียก่อน) จะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ของจีนและสหรัฐอย่างรุนแรง
ทั้งนี้ นางเพโลซีเป็นนักการเมืองสหรัฐคนหนึ่งที่วิพากษ์วิจารณ์จีนมาโดยตลอด นักวิเคราะห์กล่าวว่าจังหวะเวลาการเยือนไต้หวันในช่วงเดือนสิงหาคมอาจถูกมองเป็นประเด็นจุดชนวนปัญหาระหว่างสหรัฐกับจีนได้ เพราะ วันที่ 1 สิงหาคมเป็นวันครบรอบการก่อตั้งกองทัพปลดปล่อยประชาชน หรือ People's Liberation Army ของจีน ซึ่งนอกจากจะเป็นกองทัพของสาธารณรัฐประชาชนจีนแล้ว ยังเป็นกองทัพที่ใหญ่ที่สุดในโลกอีกด้วย