ทางการ ยูเครน เปิดเผยว่า รัสเซีย ได้ยิงขีปนาวุธใส่เมืองแชปลิน ทางภาคตะวันออกของประเทศยูเครนเมื่อวานนี้ (24 ส.ค.) ซึ่งตรงกับ วันชาติยูเครน และยังเป็นวันครบรอบ 6 เดือนนับตั้งแต่ที่ รัสเซียบุกยูเครน ด้วย (ปฏิบัติการทางการทหารของรัสเซียเริ่มขึ้นในวันที่ 24 ก.พ.ที่ผ่านมา) โดยสื่อระบุว่า การโจมตีครั้งล่าสุดนี้ส่งผลให้มีพลเรือนยูเครนเสียชีวิต 22 ราย
ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครนกล่าวผ่านระบบวิดีโอทางไกลว่า เมืองแชปลินถูกรัสเซียโจมตี และรัสเซียจะต้องรับผิดชอบการกระทำดังกล่าว โดยเมืองแชปลินเป็นเมืองขนาดเล็ก อยู่ห่างจากแคว้นโดเนตสก์ทางภาคตะวันออกของยูเครนไปประมาณ 145 กิโลเมตร
ด้านนายคิริโล ทิโมเชนโก ผู้ช่วยประจำตัวปธน.เซเลนสกีเปิดเผยว่า รัสเซียได้ยิงถล่มเมืองแชปลิน 2 ครั้ง ซึ่งครั้งแรกทำให้มีเด็กผู้ชายเสียชีวิต 1 ราย เนื่องจากถูกขีปนาวุธถล่มบ้าน จากนั้นยังมีอีก 21 รายเสียชีวิตหลังจากขีปนาวุธตกใส่สถานีรถไฟจนทำให้ตู้โดยสารรถไฟลุกไหม้
ทั้งนี้ เนื่องในวันชาติปี 2022 ยูเครนครบรอบปีที่ 31 ของการแยกตัวจากอดีตสหภาพโซเวียต โดยปธน.เซเลนสกีกล่าวเมื่อวานนี้ (24 ส.ค.) เนื่องในวันชาติว่า "ชาติใหม่ได้ปรากฏขึ้นบนโลกในเวลา 04.00 น.ของวันที่ 24 ก.พ. โดยเป็นชาติที่เกิดใหม่ และจะไม่ยอมพ่ายแพ้ เราจะไม่ยอมนั่งลงที่โต๊ะเจรจากับรัสเซียด้วยความกลัว ขณะที่มีปืนจ่อหัว และเราหวังว่าจะประสบชัยชนะเมื่อสงครามสิ้นสุดลง"
ในวันเดียวกันกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกาออกแถลงการณ์เตือนชาวอเมริกันให้รีบเดินทางออกจากยูเครนในทันที หลังมีแนวโน้มว่ารัสเซียจะเพิ่มความรุนแรงในการโจมตียูเครน
แถลงการณ์ของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐระบุว่า กระทรวงฯได้รับข้อมูลว่า รัสเซียกำลังเพิ่มความพยายามในการโจมตีโครงสร้างพื้นฐานของพลเรือนและที่ทำการของรัฐบาลยูเครนในช่วงหลายวันข้างหน้านี้ จึงขอเตือนชาวอเมริกันทุกคนให้รีบเดินทางออกจากยูเครนโดยเร็วที่สุด