นายจอห์น เคอร์บี โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐระบุว่า การที่ ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซียสั่ง ระดมกำลังพลสำรอง จำนวน 300,000 นาย เป็นสัญญาณว่า รัสเซีย กำลังเผชิญปัญหาในการ ทำสงคราม ใน ยูเครน
นายเคอร์บีให้สัมภาษณ์ในรายการ "Good Morning America" ของสถานีโทรทัศน์เอบีซีวานนี้ (22 ก.ย.) ระบุว่า การประกาศระดมกำลังพลเมื่อวันพุธ (21 ก.ย.) ของประธานาธิบดีปูตินแสดงให้เห็นว่า รัสเซียกำลังเผชิญปัญหากับสงครามในยูเครน และกำลังทำบางสิ่งที่น่าแปลกใจ ซึ่งนั่นก็คือการระดมกำลังพลสำรอง
"เราคาดการณ์เรื่องนั้นไว้แล้ว และกำลังพล 300,000 นายที่ระดมในครั้งนี้ก็เป็นจำนวนเกือบสองเท่าของที่ปธน.ปูตินใช้ในตอนเริ่มสงครามกับยูเครนซึ่งเริ่มในเดือนก.พ.ที่ผ่านมา” นายเคอร์บีเสริมว่า รัสเซียสูญเสียกำลังทหารไปแล้วหลายหมื่นนาย โดยเวลานี้ ทหารรัสเซียขาดกำลังใจและความสามัคคี นอกจากนี้ รัสเซียยังเผชิญกับปัญหาการหนีทหารด้วย
"นี่เป็นสัญญาณชัดเจนว่า ปธน.ปูตินกำลังดิ้นรน และเขารู้สึกว่ากำลังเสียเปรียบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภูมิภาคดอนบาสทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศยูเครน"
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ปธน.ปูตินได้ยกประเด็นนิวเคลียร์ขึ้นมาข่มขู่อีกครั้ง ทำให้หลายฝ่ายวิตกกังวลว่า รัสเซียอาจใช้การทำประชามติผนวกดินแดนยูเครนเป็นข้ออ้างในการตอบโต้ยูเครนอย่างหนักมือมากขึ้น เสมือนว่าไม่ได้โจมตีดินแดนต่างชาติ แต่เป็นการโจมตีดินแดนในเขตอธิปไตยของรัสเซียเอง
ด้านนายดมิทรี เพสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลิน ไม่ปฏิเสธต่อรายงานที่ว่า ชาวรัสเซียจำนวนมากที่ออกมาชุมนุมต่อต้านการประกาศระดมพลของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ได้ถูกตำรวจจับกุมตัวนับพันคน พร้อมกันนี้พวกเขายังถูกหมายเรียกให้เข้ารับการเกณฑ์ทหารด้วย ซึ่งเพสคอฟยืนยันว่า การที่ทางการรัสเซียทำเช่นนี้ ไม่ถือว่าผิดกฎหมายแต่อย่างใด
ทั้งนี้ ข้อมูลจาก OVD-Info ซึ่งเป็นกลุ่มสิทธิมนุษยชนในรัสเซีย เปิดเผยว่า ผู้ประท้วงราว 1,310 คนได้ถูกตำรวจจับกุม และหลายคนได้รับหมายเรียกให้ไปแสดงตัวต่อทางกองทัพเพื่อเข้ารับการเกณฑ์ทหาร หากผู้ใดปฏิเสธหมายเรียกดังกล่าวจะต้องโทษจำคุกสูงสุดถึง 10 ปี
ภายใต้กฎหมายรัสเซีย เจ้าหน้าที่ตำรวจมีอำนาจจับกุมตัวผู้ที่หลบหนีทหาร โดยกฎหมายบัญญัติว่า ผู้ที่หลบหนีการเกณฑ์ทหารโดยไม่มีเหตุอันควร จะต้องโทษทั้งจำทั้งปรับ โดยจะถูกจำคุกหลายปี พร้อมกับถูกปรับเป็นเงินจำนวนมาก
สำหรับการประกาศระดมกำลังพลจำนวน 300,000 นายเพื่อยกระดับการทำสงครามกับยูเครนนั้น เป็นคำสั่งของปธน.ปูติน เมื่อวันพุธที่ผ่านมา (21 ก.ย.) ถือเป็นการเรียกระดมกำลังพลสำรองครั้งใหญ่ครั้งแรกของรัสเซียนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นต้นมา
ถึงแม้ปธน.ปูตินจะระบุว่าจำเป็นต้องทำเพื่อปกป้องประชาชนและประเทศชาติ แต่ก็มีชาวรัสเซียจำนวนมากที่ไม่เห็นด้วยกับการทำสงคราม และพวกเขาก็ออกมาประท้วงต่อต้านคำสั่งดังกล่าวจนทำให้มีผู้ถูกจับกุมแล้วนับพันคนดังที่เป็นข่าวข้างต้น