สำนักข่าว RIA ของ รัสเซีย รายงานว่า ผลการนับคะแนนเบื้องต้นต่อ การลงประชามติ ใน 4 แคว้นของยูเครน ซึ่งได้แก่ โดเนตสก์, ลูฮันสก์, เคอร์ซอน และซาปอริซเซีย ซึ่งปิดหีบลงคะแนนเมื่อวานนี้ (27 ก.ย.) พบว่าประชาชนส่วนใหญ่ “เห็นชอบ” ต่อ การผนวกดินแดนเข้ากับรัสเซีย
ทั้งนี้ ผลการนับคะแนน 14% ในแคว้นเคอร์ซอนพบว่า ประชาชน 96.97% สนับสนุนการรวมดินแดนกับรัสเซีย และการนับคะแนน 18% ในซาปอริซเซีย พบว่า ประชาชน 98.19% ให้การสนับสนุนดังกล่าว
ขณะที่การนับคะแนนในแคว้นโดเนตสก์และลูฮันสก์ พบว่า ประชาชนให้การสนับสนุนราว 98% จากการนับคะแนน 14% และ 13% ตามลำดับ
อย่างไรก็ดี ชาติตะวันตกมองว่าการลงประชามติในครั้งนี้เป็นการจัดฉากและอ้างเหตุผลของฝ่ายรัสเซียเพื่อที่จะผนวกดินแดนดังกล่าว และจากนั้นประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ก็จะอ้างว่า หากยูเครนโจมตีดินแดน 4 แคว้นนี้ ก็จะถือเสมือนการโจมตีรัสเซีย และเขา (ปูติน) จะไม่ลังเลในการใช้อาวุธนิวเคลียร์ในการปกป้องดินแดนและอธิปไตยของรัสเซีย
นายวาเลนติโน มัตวิเยนโก ประธานวุฒิสภารัสเซีย กล่าวว่า หากผลการลงประชามติใน 4 แคว้นของยูเครนออกมาเป็นที่น่าพึงพอใจ ทางวุฒิสภารัสเซียก็จะพิจารณาประกาศการผนวกดินแดนดังกล่าวในวันที่ 4 ต.ค.2565 นี้
ด้านนายโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน ได้ออกมาปฏิเสธผลการลงประชามติดังกล่าวในทันที สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ผู้นำยูเครนได้ออกคำประณามและไม่ยอมรับอย่างเป็นทางการต่อผลการทำประชามติที่เขาระบุว่าเป็นการจัดฉากของรัสเซีย เซเลนสกีว่า การลงประชามติใน 4 แคว้นของยูเครนครั้งนี้เป็น “ละครตลก” ที่เขียนบทโดยรัสเซีย จึงไม่มีวันที่จะยอมรับให้เป็นการลงประชามติ (referendum)ที่มีความชอบธรรมตามกฎหมาย
“เรื่องตลกที่เกิดขึ้นในพื้นที่ที่ถูกยึดครองเหล่านี้ ไม่อาจแม้แต่จะถูกเรียกว่าเป็นลอกเลียนการลงประชามติด้วยซ้ำ” เขาย้ำว่า กองทัพยูเครนจะยืนหยัดปกป้องประชาชนใน 4 แคว้นที่ตกอยู่ภายใต้การยึดครองของรัสเซียซึ่งเป็นพื้นที่ที่การลงประชามติเกิดขึ้น รวมทั้งหลายพื้นที่ในภูมิภาคคาร์คีฟที่ยังคงถูกยึดครองโดยกองทัพรัสเซียในเวลานี้
เซเลนสกีประกาศผ่านการแถลงข่าวประจำวันทางโทรทัศน์ยูเครนเมื่อวันอังคาร (27 ก.ย.) ว่า กำลังจะมีข่าวดีจากแนวหน้า แต่ไม่ได้ให้รายละเอียด เพียงแต่เผยว่า กองทัพยูเครนกำลังมีความคืบหน้าในการศึกและจะประกาศยึดคืนพื้นที่ที่ถูก (รัสเซีย)ยึดครองในเร็วๆนี้
ทั้งนี้ การลงประชามติใน 4 แคว้นของยูเครนภายใต้การยึดครองของรัสเซีย อันประกอบด้วย
สองแคว้นทางภาคตะวันออก คือ
และ สองแคว้นทางภาคใต้ คือ
ว่าต้องการผนวกดินแดนเข้าเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซียหรือไม่นั้น เป็นการลงประชามติระยะเวลา 5 วัน เริ่มตั้งแต่วันศุกร์ที่ 23 ก.ย. ถึงวันอังคารที่ 27 ก.ย. ก่อนหน้านี้ รัสเซียเคยทำสำเร็จมาแล้วกับกรณีของแคว้นไครเมียในปี 2014 (พ.ศ. 2557)
ระหว่างการลงประชามติ 4 วันแรก (23-26 ก.ย.) มีการส่งเจ้าหน้าที่ไปเก็บการลงประชามติของประชาชนตามบ้านเรือน จากนั้นในวันสุดท้าย (อังคารที่ 27 ก.ย.) มีการเปิดหน่วยลงประชามติเพื่อให้ประชาชนของทั้ง 4 แคว้นออกมาใช้สิทธิ์ลงประชามติ นอกจากนี้ ยังเปิดให้มีการลงประชามติที่อาคารแห่งหนึ่งในกรุงมอสโก ซึ่งเป็นที่ตั้งสำนักงานตัวแทนของแคว้นโดเนตสก์ด้วย
นายเดนิส พุชชิลิน ผู้นํากลุ่มแบ่งแยกดินแดนฝักใฝ่รัสเซียในแคว้นโดเนตสก์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของภูมิภาคดอนบาส ได้ออกมาแสดงจุดยืนผ่านการโพสต์ทางโซเชียลมีเดียว่า “ภูมิภาคดอนบาสคือรัสเซีย เสียงของพวกคุณแต่ละคนจะยืนยันความจริง”
ย้อนกลับไปในอดีตเมื่อปี 2557 รัสเซียเคยเคลื่อนไหวในลักษณะเดียวกันนี้ และทำสำเร็จมาแล้วในการผนวก “ไครเมีย” ที่เคยเป็นดินแดนส่วนหนึ่งของยูเครน โดยในปี 2556 รัสเซียได้ส่งกองกำลังบุกเข้ายึดสถานที่สำคัญในไครเมีย และแต่งตั้งผู้นำคนใหม่ที่สนับสนุนรัสเซียขึ้นปกครองไครเมีย จากนั้นปีถัดมา วันที่ 16 มี.ค. 2557 มีการทำประชามติสถานะของไครเมีย ผลปรากฏว่า ประชาชน 96% โหวตต้องการเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซีย ทำให้วันที่ 18 มี.ค.ปีเดียวกันนั้น ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ลงนามผนวกไครเมียเข้าเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซียอย่างเป็นทางการ