สัญญาณเตือนภัยแดงวาบ IMF-เวิลด์แบงก์ประสานเสียง เศรษฐกิจโลกถดถอยปีหน้า

11 ต.ค. 2565 | 00:09 น.
อัปเดตล่าสุด :11 ต.ค. 2565 | 08:21 น.

ทั้ง IMF-เวิลด์แบงก์ ออกโรงเตือน โลกสุ่มเสี่ยงมากขึ้นที่จะต้องเผชิญภาวะเศรษฐกิจถดถอยในปีหน้า (2566) ท่ามกลางเงินเฟ้อสูงและผลกระทบจากสงครามในยูเครน ขณะที่ซีอีโอธนาคาร "เจพีมอร์แกน" เตือนเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาจะถดถอยกลางปีหน้าเช่นกัน

นางคริสตาลินา จอร์เจียวา ผู้อำนวยการ กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) และนายเดวิด มัลพาส ประธาน ธนาคารโลก (เวิลด์แบงก์) กล่าวเตือนว่า เศรษฐกิจโลก มีความเสี่ยงมากขึ้นที่จะเผชิญ ภาวะถดถอย ในปีหน้า ขณะที่เงินเฟ้อยังคงส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ หลังจากที่รัสเซียส่งกำลังทหารเข้าโจมตียูเครนในเดือนก.พ.เป็นต้นมา

 

 แถลงการณ์ร่วมจากนางจอร์เจียวาและนายมัลพาสมีขึ้นก่อนการประชุมประจำปีแบบพบหน้ากันเป็นครั้งแรกระหว่าง IMF และธนาคารโลกนับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 "มีความเสี่ยงและอันตรายอย่างแท้จริงที่เศรษฐกิจโลกจะเผชิญภาวะถดถอยในปีหน้า" ส่วนหนึ่งของแถลงการณ์ระบุ

เดวิด มัลพาส ประธานธนาคารโลก (เวิลด์แบงก์)

ในส่วนของนายมัลพาสจากธนาคารโลกนั้น เขาแสดงความกังวลต่อเศรษฐกิจที่ชะลอตัวของกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้ว และการอ่อนค่าของสกุลเงินในประเทศกำลังพัฒนา รวมทั้งเงินเฟ้อที่ดีดตัวขึ้น

ขณะที่นางจอร์เจียวากล่าวว่า IMF จะเน้นย้ำในการประชุมสัปดาห์นี้ ให้ธนาคารกลางของชาติต่างๆยังคงใช้ความพยายามสกัดเงินเฟ้อต่อไป แม้ว่าการดำเนินการดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจก็ตาม โดยนางจอร์เจียวาอธิบายว่า หากบรรดาธนาคารกลางดำเนินการต่าง ๆอย่างไม่เพียงพอ ก็จะต้องเผชิญกับปัญหาจากเงินเฟ้อที่ควบคุมไม่ได้

คริสตาลินา จอร์เจียวา ผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF)

นอกจากนี้ ยังระบุว่า การใช้มาตรการทางการคลังควรจะมีเป้าหมายที่ชัดเจนเพื่อหลีกเลี่ยงการเติม "เชื้อเพลิงเข้าสู่กองไฟแห่งเงินเฟ้อ"

 

IMF จะเปิดเผย รายงานแนวโน้มเศรษฐกิจโลก (World Economic Outlook) ในวันนี้ (ตามเวลาท้องถิ่น) โดยคาดว่าจะมีการปรับลดตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปี 2566 ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อ การแพร่ระบาดของโควิด-19 การที่รัสเซียบุกโจมตียูเครน และผลกระทบจากภาวะโลกร้อนต่อเศรษฐกิจในทุกทวีป


ก่อนหน้านี้ ในการเปิดเผยรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจโลกในเดือนก.ค. IMF ได้ปรับลดตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปี 2565 และ 2566 สู่ระดับ 3.2% และ 2.9% ตามลำดับ

 

สหรัฐก็ไม่รอด ขณะที่ยุโรปไปล่วงหน้าแล้ว

ในวันเดียวกัน นายเจมี ไดมอน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารเจพีมอร์แกน เชส ให้ความเห็นไปในทิศทางเดียวกันว่า เศรษฐกิจสหรัฐอเมริกา และ เศรษฐกิจโลก มีแนวโน้มเข้าสู่ภาวะถดถอยกลางปีหน้า (2566) โดยได้รับผลกระทบจากปัจจัยหลายประการ

“แม้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐยังคงดูดีในขณะนี้ และผู้บริโภคยังคงมีสถานะที่ดีกว่าเมื่อเทียบกับในปี 2551 ซึ่งเป็นช่วงที่เกิดวิกฤตการเงินทั่วโลก แต่การพุ่งขึ้นของเงินเฟ้อ การดีดตัวของอัตราดอกเบี้ย และการที่รัสเซียส่งกำลังทหารบุกโจมตียูเครน จะทำให้เศรษฐกิจสหรัฐและเศรษฐกิจโลกเข้าสู่ภาวะถดถอยในช่วง 6-9 เดือนต่อจากนี้ ขณะที่เศรษฐกิจยุโรปได้ถดถอยไปล่วงหน้าแล้ว” นายไดมอนกล่าว และว่า

 

เขาไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่จะเกิดขึ้นทั่วโลก จะกินเวลายาวนานเท่าใด แต่สิ่งที่เขาแน่ใจคือ ปัจจัยดังกล่าวจะสร้างความผันผวนในตลาดอย่างแน่นอน