จากกรณีประเทศไทยลงมติงดออกเสียง กรณีการลงมติต่อกรณีรัสเซียพยายามผนวก 4 ดินแดนยูเครนอย่างผิดกฎหมาย ในการประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ (UN)เมื่อวันที่12 ต.ค.65
โดยผลการลงมติมีชาติสมาชิก 143 ประเทศลงมติเห็นด้วยกับการประณามรัสเซียที่พยายามผนวกดินแดนในยูเครนอย่างผิดกฎหมาย และเรียกร้องทุกประเทศให้ไม่รับรองความเคลื่อนไหวดังกล่าว
ขณะที่มี 5 ชาติที่ลงมติไม่เห็นด้วย ได้แก่ รัสเซีย นิการากัว ซีเรีย เกาหลีเหนือและเบลารุส
ขณะเดียวกันมี 35 ชาติงดออกเสียง เช่น จีน อินเดีย รวมถึงไทยก็ลงมติงดออกเสียงต่อกรณีนี้
ล่าสุดนายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงเหตุผลการลงมติงดออกเสียงของไทยต่อข้อมติเกี่ยวกับการผนวกดินแดนยูเครนของรัสเซียในที่ประชุมสมัชชาสหประชาชาติเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาว่าไทยยึดมั่นในหลักการของสหประชาชาติและไม่เห็นด้วยกับการใช้กำลังผนวกดินแดนของรัฐอื่น
แต่ที่ไทยงดออกเสียงต่อข้อมตินี้เพราะเห็นว่าสถานการณ์ที่เป็นอยู่ในตอนนี้มีความอ่อนไหวและพลุ่งพล่านอย่างมาก ความพยายามหาทางแก้ไขปัญหาด้วยการเจรจาแทบไม่ปรากฎ มีแต่คิดจะประณามกันซึ่งรังแต่จะผลักให้คู่ขัดแย้งหันไปใช้ความรุนแรงมากขึ้น เสี่ยงกับการใช้อาวุธนิวเคลียร์ทำลายล้างกัน
"ไทยรู้สึกเศร้าใจกับความสูญเสียที่เกิดขึ้นกับประเทศและประชาชนชาวยูเครน จึงเรียกร้องให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับความขัดแย้งลดใช้ความรุนแรงและหันหน้ามาเจรจากัน และเรียกร้องให้สหประชาชาติหาทางแก้ไขปัญหาอย่างสันติเพื่อนำความปกติสุขกลับคืนมาสู่ประชาชนยูเครนและชาวโลก”นายดอนกล่าว