บอสตัน คอนซัลติ้ง กรุ๊ป (Boston Consulting Group) หรือ BCG ซึ่งเป็นบริษัทให้คำปรึกษาทางธุรกิจรายใหญ่ระดับโลกคาดการณ์ว่า ในช่วง 10 ปีข้างหน้านี้ การค้าระหว่างประเทศ จะขยายตัวช้ากว่าการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก (จีดีพีโลก) เสียอีก เนื่องจากสงครามรัสเซีย-ยูเครนส่งผลให้ การเป็นพันธมิตรด้านการค้า เปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง และยังส่งผลกระทบต่อการไหลเวียนของการค้าข้ามพรมแดน
สำนักข่าวบลูมเบิร์กเปิดเผยรายงานของ BCG วานนี้ (17 ม.ค.) ซึ่งระบุว่า อัตราการขยายตัวรายปีของการค้าโลกโดยเฉลี่ยจะอยู่ที่ 2.3% ไปจนถึงปี 2574 เมื่อเทียบกับผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ทั่วโลกซึ่งคาดว่าจะขยายตัว 2.5% โดยเฉลี่ยในทุก ๆ ปีไปจนถึงปี 2574
รายงานดังกล่าวอธิบายว่า ในช่วงเวลา 10 ปีก่อนโรคโควิด-19 แพร่ระบาด การค้าระหว่างประเทศปรับตัวไปในทิศทางเดียวกับอัตราการขยายตัวของ GDP ทั่วโลก แต่รายงานของ BCG คาดการณ์ว่า ระบบโลกาภิวัตน์ของการค้าโลกจะเผชิญภาวะชะงักงันที่ยืดเยื้อและรุนแรงที่สุดนับตั้งการองค์การการค้าโลก (WTO) ก่อตั้งขึ้นในช่วงกว่า 25 ปีที่ผ่านมา
ส่วนหนึ่งของรายงานระบุว่า หลังจากสภาพแวดล้อมด้านการค้าทั่วโลกมีความมั่นคงมาเป็นเวลาเกือบ 30 ปี ขณะนี้โลกกำลังอยู่ท่ามกลางพลวัตของสองขั้วแห่งโลกฝั่งตะวันออกและโลกฝั่งตะวันตกยุคใหม่ ซึ่งหมายถึงประชาคมที่นำโดยสหรัฐอเมริกาและสหภาพยุโรป (อียู) และประชาคมที่นำโดยจีนและรัสเซีย รวมทั้งการปรากฏขึ้นของประชาคมกลุ่มที่ 3 ซึ่งหมายถึงประเทศที่ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด"
นายนิโคลัส แลง กรรมการผู้จัดการของ BCG ซึ่งมีส่วนร่วมในการเขียนรายงานฉบับนี้ เปิดเผยว่า จะมีทั้งผู้ที่ได้เปรียบและเสียเปรียบ จากการเปลี่ยนแปลงของการค้าโลกในอีก 9 ปีข้างหน้า ดังนี้