กระทรวงพาณิชย์สหรัฐ เผยแพร่รายงานทางเศรษฐกิจ ระบุว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) สหรัฐ ประจำไตรมาส 4/2565 ขยายตัว 2.9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 2.8% แต่อัตราเติบโตชะลอลงจากไตรมาส 3/65 ที่ขยายตัว 3.2% ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดว่าเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ไตรมาสแรกของปีนี้ (ม.ค.-มี.ค.66) จะชะลอตัวต่อไปอีก และจะเข้าสู่ภาวะถดถอยในช่วงกลางปี
เศรษฐกิจสหรัฐฯในไตรมาส 4/2565 ได้รับแรงหนุนจากการใช้จ่ายผู้บริโภคในช่วงปลายปี และภาคธุรกิจมีการสั่งสินค้าเก็บสำรองไว้ในคลังเพิ่มขึ้น ประกอบกับการใช้จ่ายภาครัฐที่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ แต่ในเวลาเดียวกันการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อบ้าน ส่งผลให้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัยและการลงทุนในธุรกิจสร้างบ้านลดลงถึง 27% เป็นไตรมาสที่ 2 ติดต่อกัน
แครอล เชลฟ์ นักวิเคราะห์จากบริษัท BMO Family Office กล่าวว่า "ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 4/2565 ที่ออกมาดีเกินคาดสะท้อนให้เห็นว่า เศรษฐกิจสหรัฐยังแข็งแกร่ง แม้ถูกกระทบจากการที่เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเชิงรุกเพื่อสกัดเงินเฟ้อ ตลาดขานรับข้อมูลจีดีพี เพราะมองว่านี่เป็นหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่านโยบายการเงินของเฟดทำให้เศรษฐกิจสหรัฐชะลอตัวลงอย่างค่อยเป็นไป (ซอฟต์แลนดิ้ง) ไม่ใช่ถดถอยลง
การเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐช่วงครึ่งแรกปี 2565 ที่หดตัว 1.1% ทำให้ภาพรวมตลอดปี 2565 เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 2.1% เทียบกับที่ขยายตัว 5.9% ในปี 2564 แม้ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายเชิงรุกสู่ระดับ 4.25-4.50% ซึ่งเป็นอัตราสูงสุดนับตั้งแต่ช่วงปลายปี 2550