สื่อต่างประเทศรายงาน ภาวะภัยแล้ง ใน อิตาลี ที่เริ่มมาเผชิญมาตั้งแต่ต้นปีจนถึงขณะนี้ สถานการณ์ดังกล่าวส่งผลกระทบต่อแหล่งน้ำต่างๆภายในประเทศ ทั้งนี้ ข่าวระบุว่า หลังจากฤดูหนาวที่ผ่านมามีหิมะตกบนเทือกเขาแอลป์น้อยกว่าปกติ ขณะที่ระดับน้ำในทะเลสาบการ์ดาทางตอนเหนือของอิตาลีก็ลดต่ำลงเป็นประวัติการณ์
ภาพรวมที่เกิดขึ้นได้สร้างความตื่นตระหนกให้แก่เกษตรกรที่เกรงว่าจะไม่มีน้ำเพียงพอใช้สำหรับพืชผลทางการเกษตร และที่สำคัญคือ ภัยแล้งครั้งนี้อาจส่งผลกระทบต่อปริมาณน้ำดื่มและการใช้น้ำในการผลิตพลังงานด้วย
ด้านเมือง เวนิส เมืองท่องเที่ยวชื่อดังซึ่งล้อมด้วยคลอง 150 สาย บริเวณชายฝั่งทางตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งตามปกติจะกังวลกับสถานการณ์น้ำท่วมมากกว่า แต่ปีนี้ สถานการณ์กลับตาลปัตร โดยเมืองเวนิสกำลังเผชิญกับภาวะภัยแล้ง-น้ำแห้ง เห็นชัดว่าระดับน้ำในคลองหลายสายลดระดับจนเกือบแห้งขอด ส่งผลให้ "เรือกอนโดลา" หรือ "แท็กซี่น้ำ" ที่เป็นเอกลักษณ์ของเมืองและเป็นจุดดึงดูดนักท่องเที่ยว รวมทั้งเรือพยาบาลที่ใช้คลองสัญจร ไม่สามารถใช้งานได้อีกต่อไป
ข่าวระบุว่า ปัญหาน้ำแห้งที่เวนิสเกิดจากหลายเหตุปัจจัย ซึ่งนอกจากปริมาณน้ำจากเทือกเขาที่มาน้อยกว่าปกติแล้ว ยังมีปัจจัยซ้ำเติมคือภาวะฝนตกน้อย และปัจจัยร่วมอื่นๆ ได้แก่ เรื่องของความกดอากาศสูง พระจันทร์เต็มดวง และกระแสน้ำในมหาสมุทรด้วย
ในปีที่ผ่านมา (2565) ภาวะภัยแล้งในอิตาลีส่งผลให้ทางการต้องประกาศภาวะฉุกเฉิน โดยเฉพาะในพื้นที่เพาะปลูกริมแม่น้ำโป ซึ่งเป็นแม่น้ำที่ยาวที่สุดในอิตาลีที่ได้รับผลกระทบอย่างหนัก ส่วนปีนี้ (2566) ระดับน้ำในแม่น้ำโปที่รับน้ำมาจากเทือกเขาแอลป์อยู่ที่ราว 1 ใน 3 ของระดับปกติเท่านั้น ทำให้เชื่อว่า อิตาลีต้องรับมือกับภัยแล้งรุนแรงอีกครั้งในปีนี้
ข้อมูลอ้างอิง