โครงการก่อสร้างทางรถไฟ ดังกล่าว จะเชื่อมต่อ มณฑลยูนนานของจีน กับ อ่าวเบงกอลในเมียนมา ด้วยเครือข่าย ทางรถไฟแพน-เอเชีย (Pan-Asian Railway Network) ที่พาดผ่านตั้งแต่เมียนมา ไทย ลาว กัมพูชา ไปจนถึงเวียดนาม ถือเป็นส่วนหนึ่งของโครงการความริเริ่ม 'หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง' ที่เป็นโครงการลงทุนขนาดใหญ่ของจีนที่เชื่อมหลายประเทศในเอเชียและยุโรปเข้าด้วยกัน
สำนักข่าววีโอเอ สื่อใหญ่ของสหรัฐภาคภาษาเมียนมา รายงานว่า โครงการทางรถไฟในเมียนมานี้ครอบคลุมเส้นทางราว 1,000 กิโลเมตร และแยกเป็นสองส่วน
พลตรีจอว์ มิน ตัน โฆษกรัฐบาลทหารเมียนมา กล่าวกับวีโอเอภาคภาษาพม่าว่า โครงการทางรถไฟไปถึงเมืองเจ้าผิวก์ถูกรวมไว้ในข้อตกลงนี้ด้วย ซึ่งการสำรวจพื้นที่และจัดทำรายงานเรื่องนี้เสร็จสิ้นแล้ว ขณะนี้เหลือเพียงอยู่ระหว่างการหารือเพื่อกลับมาเดินหน้าก่อสร้างต่อไป
ปัจจุบัน รัฐบาลจีนต้องพึ่งพาน้ำมันจากประเทศในตะวันออกกลางเป็นหลัก แต่ผู้นำจีนต้องการเลี่ยงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการถูกต่างชาติขัดขวางกระบวนการขนส่งน้ำมันจากตะวันออกกลางด้วยการปิดช่องแคบมะละกา
ในการประชุมสมัชชาพรรคคอมมิวนิสต์จีนครั้งที่ 20 เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ได้กล่าวเน้นย้ำถึงความมั่นคงด้านพลังงานว่าเป็นหนึ่งในความกังวลหลักของจีน โดย 70% ของน้ำมันดิบที่จีนใช้ในประเทศ ต้องนำเข้าจากตะวันออกกลาง โดยส่วนใหญ่มาจากซาอุดิอาระเบีย
เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวงคมนาคมเมียนมาซึ่งไม่ขอเปิดเผยนาม ยืนยันกับสื่อว่า มีการประชุมเมื่อสัปดาห์ที่แล้วในกรุงเนปิดอว์ เมืองหลวงของเมียนมา ระหว่างผู้แทนของจีนและเมียนมา เพื่อหาทางฟื้นการก่อสร้างทางรถไฟร่วมกันระหว่างการรถไฟเมียนมา (Myanma Railways) และกลุ่ม China Railway Eryuan Engineering Group (CREEG) ของจีน
เจ้าหน้าที่ผู้นี้เปิดเผยว่า มีการระงับโครงการก่อสร้างไปก่อนเป็นการชั่วคราว เพราะการระบาดของโควิด-19 แต่ขณะนี้จีนกำลังหารือเพื่อกลับมารื้อฟื้นโครงการทางรถไฟไปยังเมืองเจ้าผิวก์อีกครั้ง
ทั้งนี้ การจัดทำบันทึกความเข้าใจ (MOU) ทวิภาคีระหว่างจีนกับเมียนมาว่าด้วยการก่อสร้างทางรถไฟคุนหมิง-เจ้าผิวก์ ซึ่งคาดว่ามีมูลค่าราว 9,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ได้เริ่มขึ้นเมื่อ 4 ปีก่อน และเป็นหนึ่งใน 33 โครงการที่ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ลงนามไว้ระหว่างการเดินทางเยือนเมียนมาเมื่อเดือนมกราคมปี ค.ศ. 2020 (พ.ศ.2563) โดยในครั้งนั้น ทั้งจีนและเมียนมาต่างเห็นชอบกับเส้นทางของทางรถไฟส่วนแรกที่ต้องผ่านพื้นที่หุบเขาห่างไกล รวมทั้งดินแดนที่กองกำลังชาติพันธุ์มีการต่อสู้กับกองทัพของรัฐบาลกลางเมียนมา มานานหลายทศวรรษ
หลังการรัฐประหารของกองทัพเมียนมาเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2021 นักวิทยาศาสตร์ของเมียนมาและจีนได้ร่วมกันสำรวจผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมจากโครงการนี้อีกครั้งและผ่านความเห็นชอบเมื่อปีที่ผ่านมา (2022) จากนั้นจึงได้มีการเตรียมสำรวจและก่อสร้างส่วนที่สองเมื่อปลายปีเดียวกันนั้น อ้างอิงจากรายงานในเว็บไซต์ของสื่อ Frontier Myanmar และได้รับการยืนยันจากโฆษกรัฐบาลทหารเมียนมา
ในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา นายเติ้ง สีจุ้น ผู้แทนพิเศษของจีนด้านกิจการเมียนมา ได้ประชุมร่วมกับผู้แทนของกองกำลังกลุ่มชาติพันธุ์ของเมียนมาที่รัฐฉาน ซึ่งรวมถึงกองกำลังปลดปล่อยคะฉิ่น (Kachin Independence Army - KIA) กองกำลังรวมแห่งรัฐว้า (United Wa State Army - UWSA) กองกำลังพันธมิตรประชาธิปไตยแห่งชาติ (National Democratic Alliance Army - NDAA) เพื่อหารือเรื่องความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้า โดยมุ่งเน้นไปที่โครงการก่อสร้างทางรถไฟจากยูนนานมาถึงเมืองเจ้าผิวก์
การประชุมดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อสานสัมพันธ์กับกองกำลังชาติพันธุ์ในพื้นที่ที่โครงการก่อสร้างทางรถไฟพาดผ่าน พร้อมไปกับการโน้มน้าวให้พวกเขาทำข้อตกลงหยุดยิงและยอมรับรัฐบาลทหาร
ก่อนหน้านี้ บทบรรณาธิการในหนังสือพิมพ์ Global Times ของทางการจีน ระบุถึงความกังวลต่อเสถียรภาพในเมียนมาและการสนับสนุนจากชาติตะวันตกที่มีให้กับฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลทหาร
ทั้งนี้ มีรายงานข่าวที่เปิดเผยเมื่อต้นเดือนมีนาคมระบุว่า ทางรถไฟในส่วนที่เชื่อมระหว่างจีนกับไทยผ่านประเทศลาว กำหนดจะเริ่มให้บริการปลายเดือนพฤษภาคมนี้ โดยรถไฟเชื่อมสามประเทศดังกล่าวจะให้บริการวันเว้นวัน ก่อนที่จะเพิ่มเป็นวันละเที่ยวภายในเดือนมิถุนายนนี้