รัฐฉานฝั่งตะวันออกของเมียนมา

12 มี.ค. 2566 | 21:15 น.
อัปเดตล่าสุด :23 ก.ค. 2566 | 14:00 น.

รัฐฉานฝั่งตะวันออกของเมียนมา คอลัมน์เมียงมอง เมียนมา โดย กริช อึ้งวิฑูรสถิตย์

หลังจากที่ผมเขียนเรื่องการท่องเที่ยวที่รัฐฉานมาสองสัปดาห์ก่อน หลังจากนั้นก็โดนกลุ่มมิจฉาชีพเข้ามารบกวน ทำให้ต้องขาดตอนการเล่าเรื่องรัฐฉานไปหนึ่งอาทิตย์ ปรากฎว่ามีเพื่อนอยากรู้เกี่ยวกับการท่องเที่ยวรัฐฉานตอนล่างต่อ ซึ่งต้องบอกว่าที่รัฐฉานตอนล่างแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญๆ ก็มีเยอะครับ แต่ในวันนี้ผมไม่แน่ใจว่าจะปลอดภัย พอที่ให้เราเข้าไปท่องเที่ยวได้หรือเปล่า เอาเป็นว่าอ่านเอามันไปก่อนนะครับ เพื่อจะได้สนองความอยากไปของเพื่อนๆ ไปพลางๆ ก่อน รอให้สถานการณ์ดีขึ้นค่อยไปกันนะครับ

รัฐฉานตอนล่างหรือฝั่งตะวันออก เราสามารถใช้การเดินทางเข้าไปด้วยรถยนต์ ทางด่านแม่สาย-ท่าขี้เหล็ก จะง่ายและสะดวกที่สุด ถ้าเราอยากจะขับรถเองก็ทำได้ (ในอดีตนะครับ) โดยการไปยื่นทำเรื่องขออนุญาตนำรถเข้าไปเอง ที่ด่านท่าขี้เหล็กให้ได้เสียก่อน จากนั้นก็มาขออนุญาตที่ด่านอำเภอแม่สาย แต่การจะนำรถเข้าไปเองนั้น อาจจะเข้าไปได้ไม่ไกล เพราะทางการอนุญาตยากมาก นอกจากมีคนที่เรารู้จักที่แถบชายแดน ก็อาจจะสามารถทำได้ครับ การขับรถในประเทศเมียนมา ไม่ใช่ว่าจะขับกันได้ง่ายๆ เพราะเราจะไม่คุ้นชินกับการขับรถยนต์พวงมาลัยขวาแล้วขับชิดขวา อาจจะเกิดอุบัติเหตุได้ง่ายๆ ทางที่ดีจ้างรถยนต์ที่ชายแดนเข้าไปในนั้นจะดีกว่าขับเอง เพราะเวลาเกิดปัญหาหรืออุบัติเหตุ ก็ให้คนขับรถเข้าไปเคลียร์ได้ง่ายกว่าครับ 

จุดหมายปลายทางแรกก็น่าจะเป็นเมืองเชียงตุง รัฐฉานตะวันออกก่อนนะครับ การเข้าไปที่เมืองเชียงตุง ก็คล้ายๆ กับเราเข้าไปในทวิภพของไทยล้านนานั่นแหละครับ เพราะคนที่นี่จะพูดภาษาไตที่คล้ายๆ กับภาษาคำเมือง(ภาษาเหนือของไทย) อาหารการกินก็จะใกล้เคียงอาหารไทยภาคเหนือสัก 60-70% เรียกว่าไม่ทำให้เราต้องปรับตัวมากนัก ร้านอาหารก็พอมีให้เลือกครับ

ส่วนใหญ่ผมจะเลือกไปทานอาหารยูนนานสไตล์เมียนมา ที่เชียงตุงก็มีหลายร้านครับ ลองถามคนท้องถิ่นดูจะง่ายกว่า เพราะเมืองเชียงตุงไม่ใหญ่มาก ก็พอๆ กับจังหวัดแพร่หรือน่านในอดีตเท่านั้น วัดก็มีวัดเดียวที่น่าเที่ยว คือวัดพระเจ้าหลวง หรือวัดมหามัยมุนี ซึ่งเป็นวัดตั้งกลางวงเวียนใจกลางเมืองเชียงตุง วัดนี้เป็นวัดที่ไม่มีพระสงฆ์จำพรรษาอยู่ แต่เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปพระเจ้าหลวง ที่สร้างจำลองมาจากพระมหามัยมุนี ที่เมืองมัณฑะเลย์  โดยเจ้าฟ้าก้อนแก้ว อินแถลง เจ้าฟ้าเมืองเชียงตุง ที่พระองค์ทรงเกิดความเลื่อมใสในพระแก้ว พระสาม พระกลาง จึงปรารถนาจะให้พระพุทธศาสนามีความรุ่งเรืองในเชียงตุง จึงทรงไปปรึกษาสมเด็จอาชญธรรม เจ้าอาวาสวัดเชียงงาม ว่าอยากจะจำลองพระพุทธรูปองค์นี้ ซึ่งสมเด็จอาชญธรรมก็มีความเห็นพ้องด้วย และให้การสนับสนุน

ต่อมาในปีพ.ศ. 2454 เจ้าฟ้าหลวงเชียงตุงได้เรียกเสนาหลวงอุพอเหม่งและอุบันยา พระยาหลวง เป็นผู้แทนไปเชิญช่างมาออกแบบและหล่อพระเจ้าหลวง พระพุทธรูปหล่อด้วยทองคำแท้หนัก 2.75 กิโลกรัม เงินแท้หนัก 72.2 กิโลกรัม และทองปัญจะโลหะจำนวนหนึ่ง จน พ.ศ. 2460 จึงได้อัญเชิญพระเจ้าหลวงองค์จำลองเข้ามาประดิษฐานในเมืองเชียงตุง เชื่อกันว่าเป็นองค์จำลองงดงามที่สุดในประเทศเมียนมา เพราะพระเจ้าองค์หลวงประดับประดาด้วยเครื่องทรงอย่างวิจิตรบรรจง อีกทั้งพระพักตร์ก็มีงดงามเป็นสง่ายิ่ง ทางวัดจัดให้มีพิธีล้างพระพักตร์พระเจ้าหลวง จะมีการล้างพระพักตร์เฉพาะวันพระเท่านั้น จะไม่เหมือนที่เมืองมัณฑะเลย์ที่มีทุกวันครับ  

ส่วนโรงแรมที่พักก็มีหลายแห่งด้วยกัน แต่ที่ผมชอบไปพัก ก็จะเป็นโรงแรมที่ใช้พระราชวังเก่าของเจ้าฟ้าแห่งเมืองเชียงตุง มาดัดแปลงเป็นโรงแรมครับ แต่บางคนที่เป็นคนขวัญอ่อน ก็จะไม่กล้าไปพักที่นั่น เพราะมีเรื่องเล่าขานกันมาก เกี่ยวกับในทางลี้ลับของพระราชวังครับ นอกจากนี้ที่พลาดไม่ได้สำหรับการมาเยือน ก็คือทำตัวเป็นพระยาน้อยชมตลาดสดยามเช้ากลางเมือง ที่เรียกว่า “กาดโหลง”

ที่นี่จะมีอาหารเช้าที่เป็น “ข้าวซอยเจียงตุ่ง” ที่แสนอร่อยขาย อาหารเช้าอีกอย่างที่อยากให้ทดลอง คือ “ข้าวปุ๊ก” คนขายจะใช้ข้าวเหนียวตำผสมใส่เมล็ดงา นำมาย่างไฟร้อนๆ ราดด้วยน้ำอ้อยหวานๆ อร่อยเลิศครับ ยังมีข้าวแลงฟืนแบบน้ำข้นๆ ที่ผมเคยเล่าให้ฟัง ก็มีขายเช่นเดียวกันครับ แล้วแต่ใครชอบ ก็สามารถเดินหาทานได้ครับ

ถ้าออกจากเมืองเชียงตุง เดินทางไปทางทิศตะวันออก ก็จะตรงไปยังเมืองยาง และต่อไปยังเมืองลา ที่อยู่ติดกับชายแดนจีน เมื่อหลายปีก่อน ผมเองเคยเดินทางมาจากด้านเมืองจิ่งหง (เชียงรุ้ง) เขตสิบสองปันนา ชายแดนของประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน ชื่อว่าเมือง “ต่าล่อ” ซึ่งอยู่ที่ฝั่งตรงข้ามกับเมืองลาที่ว่านี่แหละครับ

ในช่วงนั้นคนจีนเขาจะนิยมเดินทางมาเล่นการพนันกันที่ฝั่งเมืองลากันเยอะมาก แต่ปัจจุบันนี้ ก็ไม่ทราบว่ายังมีคาสิโนอยู่อีกหรือเปล่าครับ แต่ที่แน่ๆจะมีก็เพียง “เมืองเลาก๋าย” ฝั่งเมียนมา ที่ผมยังไม่เคยได้ไปเห็นมา ได้แต่ฟังเขาเล่าว่า ที่นั่นมีบ่อนการพนันอยู่และเป็นแหล่งส่องสุมของกลุ่มนักพนันออนไลน์กันเยอะ อีกทั้งเป็นเมืองที่มีอบายมุขทุกประเภทที่นั่น ถ้าเหตุการณ์สงบดี ผมก็อยากลองเดินทางจากทางฝั่งเมียนมาให้เห็นกับตาบ้าง  แล้วจะนำมาเล่าให้ฟังนะครับ ช่วงนี้ทุกอย่างยังชุลมุนวุ่นวายอยู่ ยังไม่ว่างที่จะเอาตัวไปรับกระสุนปืนครับ