มองข้ามช็อต! หากสหรัฐ “ผิดชำระหนี้” ทางออกจะเป็นอย่างไร

25 พ.ค. 2566 | 06:49 น.
อัปเดตล่าสุด :26 พ.ค. 2566 | 03:37 น.

นับถอยหลังก่อนเข้าสู่เดือน มิ.ย. ที่สภาคองเกรสต้องเร่งหาข้อสรุปเรื่องขยายเพดานหนี้ เพื่อเลี่ยงการ "ผิดนัดชำระหนี้" ซึ่งจะมีผลเสียร้ายแรงต่อเศรษฐกิจสหรัฐ และทั่วโลก แต่เวลานี้ยังไร้วี่แววว่าจะตกลงกันได้ "หากไม่ทันการขึ้นมา" รัฐบาลสหรัฐจะทำอย่างไรต่อไป

การผิดนัดชำระหนี้ในอดีต

เพื่อให้เข้าใจมากขึ้นถึงสิ่งที่อาจเกิดขึ้นหากสหรัฐฯ ผิดนัดชำระหนี้ ลองพิจารณาสิ่งที่เคยเกิดขึ้นในประเทศอื่นๆ ที่เคยผิดนัดชำระหนี้ในอดีต ผลที่ตามมาที่พบบ่อย ได้แก่

1.การลดค่าสกุลเงินโดยตั้งใจ  เมื่อประเทศไม่สามารถชำระหนี้ได้ สิ่งที่ง่ายที่สุดที่จะทำ คือพิมพ์เงินจำนวนหนึ่งเพื่อจ่ายคืน แต่กระบวนการนี้กลับทำให้สกุลเงินนั้นอ่อนค่าลง และผลที่ตามมาอาจค่อนข้างรุนแรง เพราะจะนำไปสู่อัตราเงินเฟ้อที่สูง 

ตัวอย่างเช่น

  • กรณีรัสเซียผิดนัดชำระหนี้เมื่อปี 2541 ภายใน 3 สัปดาห์ มูลค่าของเงินรูเบิลของรัสเซียหายไป 2 ใน 3
  • ในทำนองเดียวกันกับอาร์เจนตินา ที่ผิดนัดชำระหนี้ในปี 2544 สกุลเงินเปโซก็ลดค่าลง 67% ในเวลาไม่กี่สัปดาห์
  • แต่เมื่อมองมาที่สหรัฐที่อยู่ในสถานะที่แตกต่าง เพราะเป็นเจ้าของสกุลเงินสำรองของโลก นั่นคือ “ดอลลาร์หสรัฐ” มีความเป็นไปได้ที่เงินดอลลาร์จะอ่อนค่าลง หากเกิดการผิดนัดชำระหนี้

2.การปรับโครงสร้างหนี้  หากรัฐบาลตัดสินใจที่จะไม่ลดค่าเงินหลังจากผิดนัดชำระหนี้ รัฐบาลก็มีแนวโน้มที่จะเข้าสู่การปรับโครงสร้างหนี้ของประเทศ  มี 2 วิธีหลัก :

  • ขอส่วนลดหนี้ (Hair cuts)  คือ การปรับโครงสร้างหนี้โดยการเจรจาขอส่วนลดจากเจ้าหนี้ แล้วจ่ายหนี้ก้อนนั้นทั้งหมดเพียงครั้งเดียว  จากการศึกษาการปรับโครงสร้างหนี้ทั้งหมดตั้งแต่ปี 2541-2548 นักวิจัยพบว่าการปรับลดหนี้ มีตั้งแต่ 13 - 73% ของยอดหนี้คงเหลือ ขณะที่ในอดีตการปรับลดหนี้ 180 ครั้งใน 68 ประเทศ เฉลี่ยอยู่ที่ 37% ช่วงปี 2513 ถึง 2553
  • การกำหนดเวลาชำระหนี้ใหม่  คือมีการขอลดอัตราดอกเบี้ย และขยายระยะเวลาเพื่อชำระหนี้ในระยะเวลาที่นานขึ้น เมื่อลูกหนี้ยอมรับมูลค่าปัจจุบันสุทธิ (NPV) ของหนี้คงเหลือที่ต้องชำระ 

ทั้งนี้ การวิจัยได้แสดงให้เห็นว่าทั้งวิธีขอส่วนลดหนี้ และการกำหนดเวลาชำระหนี้ใหม่ "ให้ผลลัพธ์ที่ไม่แตกต่างกัน" 

3.มาตรการรัดเข็มขัด เมื่อรัฐบาลไม่สามารถใช้จ่ายในระดับปัจจุบันต่อไปได้ มาตรการรัดเข็มขัด เช่น การเพิ่มภาษีและการลดการใช้จ่ายมักจะตามมา แม้มาตรการเหล่านี้จะไม่เป็นที่นิยมทางการเมือง แต่หลายครั้งก็มีความจำเป็น เพื่อให้ประเทศกลับมามาวินัยทางการเงินในสภาวะคับขัน

 

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ อาจไม่โดนกระทบมาก

แม้ว่าการอ่อนค่าค่าเงินดอลลาร์ จะเป็นผลที่อาจเกิดขึ้นหลังการผิดนัดชำระหนี้ แต่สหรัฐสามารถหลีกเลี่ยงสิ่งเหล่านี้ได้ เนื่องจากสหรัฐเป็น "เจ้าของสกุลเงินสำรองของโลก" ดังแผนภูมินี้จาก Cullen Roche แสดงให้เห็นว่า แม้ว่าการอิทธิพลของเงินดอลลาร์สหรัฐจะลดลงเล็กน้อยในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา แต่ก็ยังเป็นสกุลเงินที่ใช้มากที่สุดในโลก และไม่มีเงินสกุลไหนขึ้นมาทดแทน 

มองข้ามช็อต! หากสหรัฐ “ผิดชำระหนี้” ทางออกจะเป็นอย่างไร

 

ด้วยเหตุนี้ จึงเป็นไปได้ว่าผลของการผิดนัดชำระหนี้ "จะไม่มีผลต่อสหรัฐมากอย่างที่คิด"  ซึ่งเวลานี้ก็ไม่มีข้อมูลในอดีตมาอ้างอิงได้ เพราะสหรัฐไม่เคยผิดนัดชำระหนี้ ดังนั้นเราจะต้องรอดูว่าสิ่งต่าง ๆ จะออกมาเป็นอย่างไร
 

แม้ว่าเราจะไม่รู้ว่าสหรัฐจะผิดนัดชำระหนี้หรือไม่ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า แต่แผนภูมินี้แสดงให้เห็น ค่าใช้จ่ายในการประกันการผิดนัดชำระหนี้ของสหรัฐในอีก 5 ปีข้างหน้า (US 5-Year CDS)  อยู่ที่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2552 

มองข้ามช็อต! หากสหรัฐ “ผิดชำระหนี้” ทางออกจะเป็นอย่างไร

 

โอกาสที่สหรัฐจะผิดนัดชำระหนี้

ในทางทฤษฎี ความน่าจะเป็นของการผิดนัดชำระหนี้ของสหรัฐฯ "ควรใกล้เคียงกับศูนย์" ดังที่ “อลัน กรีนสแปน” อดีตประธานเฟด เคยให้สัมภาษณ์ทางโทรทัศน์ เมื่อปี 2554 ว่า

“สหรัฐอเมริกาสามารถจ่ายหนี้ใด ๆ ได้เพราะเราสามารถพิมพ์เงินเพื่อทำเช่นนั้นได้เสมอ ดังนั้นจึงมีความเป็นไปได้ที่จะผิดนัดเป็นศูนย์”

ในทางทฤษฎีเศรษฐศาสตร์แตกต่างจากการปฏิบัติทางการเมืองอย่างมาก ความจริงแล้ว สหรัฐสามารถพิมพ์เงินได้ตามต้องการ แต่ปัญหาอุปสรรคทางการเมืองอาจทำให้ไม่สามารถทำเช่นนั้นได้

บรรดานักวิเคราะห์ เชื่อว่า สหรัฐอาจประสบปัญหา "ผิดนัดชำระทางเทคนิค" คือสามารถชำระพันธบัตรตามกำหนดเวลา แต่ยังไม่ชำระเงินสำหรับภาระหน้าที่อื่นๆในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า ดังนั้น "ประชาชนทั่วไปต้องเตรียมรับแรงกระแทก" เช่น

  • หากคุณพึ่งพารายได้จากรัฐบาลสหรัฐฯ คาดว่ารายได้ส่วนนี้จะอาจล่าช้าออกไปในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
  • หากคุณเป็นเจ้าของพันธบัตร/ตั๋วเงินคลัง มีโอกาสเล็กน้อยที่คุณจะไม่ได้รับเงินคืนตรงเวลาและต้องรอเงินของคุณ
  • หากคุณเป็นเจ้าของหุ้นหรือสินทรัพย์เสี่ยงอื่นๆ คุณอาจเห็นมูลค่าลดลง ความลึกและความยาวของการลดลงนั้นไม่มีใครเดาได้

จากสถานการณ์ทางการเมืองในวอชิงตัน ดูเหมือนว่าโอกาสประนีประนอมอาจทำไม่ได้ และกระทรวงการคลังสหรัฐ จะต้องจัดลำดับความสำคัญของการจ่ายพันธบัตรมากกว่าภาระหน้าที่อื่นๆของรัฐบาล เพื่อป้องกันการผิดนัดชำระหนี้  หากสหรัฐประสบกับการผิดนัดชำระหนี้จริง ๆ ในที่สุดแล้วรัฐบาลสหรัฐก็จะพิมพ์เงินออกมาและมอบให้กับผู้ถือหุ้นกู้ พร้อมดอกเบี้ย 

ไม่มีใครรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับสหรัฐในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า แต่สิ่งหนึ่งที่แน่นอนก็คือ ใครๆ ก็ชอบใช้เงิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อไม่ใช่เงินของตัวเอง

ที่มา ofdollarsanddata.com