ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน สั่งให้ผู้บังคับบัญชาสูงสุดของกองทัพ เพิ่มความแข็งแกร่งของกองกำลังทหารในแนวรบทางตอนเหนือของประเทศ หลังจากที่มีรายงานว่า ผู้นำทหารรับจ้างแวกเนอร์ กรุ๊ป มาอาศัยอยู่ในประเทศเบลารุส แล้วตั้งแต่เมื่อวันอังคาร (27 มิ.ย.)
นายเซเลนสกีกล่าวว่า ได้รับทราบรายงานสถานการณ์ในเบลารุส ซึ่งอยู่ติดพรมแดนทางตอนเหนือของประเทศยูเครนแล้ว จากการรายงานของหน่วยข่าวกรองและกองกำลังของยูเครนในที่ประชุมระหว่างผู้บังคับบัญชาสูงสุดและผู้นำทางการเมืองคนอื่น ๆ
ผู้นำยูเครนใช้สื่อสังคมออนไลน์ “เทเลแกรม” ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันสำหรับส่งข้อความออนไลน์ว่า มีการตัดสินใจให้ผู้บัญชาการทหารสูงสุดและผู้บัญชาการทางตอนเหนือของประเทศยูเครนใช้มาตรการต่าง ๆ เพื่อเพิ่มแนวป้องกันบริเวณชายแดน อย่างไรก็ตาม เซเลนสกี ไม่ได้กล่าวถึงชื่อนายเยฟเกนี พรีโกชิน หัวหน้ากลุ่มทหารรับจ้างแวกเนอร์ ซึ่งตกเป็นข่าวก่อกบฏในรัสเซียเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ในข้อความทางเทเลแกรมแต่อย่างใด
สำหรับนายพรีโกชินนั้น หลังทำข้อตกลงยุติการเดินทัพสู่กรุงมอสโกเมื่อได้บินออกจากรัสเซียเพื่อไปลี้ภัยอยู่ในเบลารุสในวันอังคารที่ผ่านมา (27 มิ.ย.) ภายใต้ข้อตกลงที่ประธานาธิบดีเบลารุส อเล็กซานเดอร์ ลูคาเชนโก ได้เจรจาเอาไว้เพื่อให้พรีโกชินยุติการก่อกบฏในรัสเซีย ซึ่งปฏิบัติการกบฏทหารรับจ้างครั้งนี้ ใช้เวลาคลี่คลายภายในเวลาราว 36 ชั่วโมง
สื่อรายงานว่า กลุ่มนักรบรับจ้างแวกเนอร์อาจจะตั้งฐานทัพในพื้นที่และบริเวณอาคารที่กองทัพเบลารุสปล่อยร้างไว้ ไม่ไกลจากเมืองอาซิโปวิชิ ห่างจากเมืองหลวงของเบลารุสไปประมาณ 90 กิโลเมตร
ทั้งนี้ หลังจากที่ยูเครนได้ขับไล่กองกำลังรัสเซียออกไปจากพื้นที่ทางเหนือได้เมื่อปีที่แล้ว (2565) ยูเครนก็ได้เสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับการป้องกันทางตอนเหนือที่ติดกับชายแดนเบลารุส ที่เป็นพันธมิตรสำคัญของรัสเซีย
นายพล เซอร์ฮีย์ นาเอฟ ผู้บังคับการกำลังพลทางตอนเหนือของยูเครน กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีเตือนภัยว่าจะมีการโจมตีจากเบลารุสหรือรัสเซียในเขตพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังด้านเหนือ แต่เขากล่าวว่า มีความจำเป็นที่จะต้องเพิ่มความแข็งแกร่งให้การป้องกันทางตอนเหนือหากมีภัยเพิ่มมากขึ้น และยังเสริมว่า หน่วยงานข่าวกรองของยูเครนนั้นทำงานอย่างไม่หยุดหย่อนเพื่อหาข้อมูลต่าง ๆ
โดยเมื่อวันศุกร์ (30 มิ.ย.) นางฮานนา มาเลียร์ รองรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของยูเครน กล่าวว่ากองกำลังของยูเครนกำลังรุกคืบในแนวรบทุก ๆ ด้าน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนการสู้กลับกองกำลังรัสเซียที่ได้เริ่มขึ้นในเดือนมิถุนายน
เธอกล่าวกับสถานีโทรทัศน์ของยูเครนว่า ในแนวรบทางใต้นั้น ทหารยูเครนประสบความสำเร็จในการทวงคืนพื้นที่มากบ้างน้อยบ้าง บางครั้งมากกว่าหนึ่งกิโลเมตร บางครั้งน้อยกว่านั้น แต่บางครั้งก็ยึดคืนได้มากกว่าสองกิโลเมตรเลยทีเดียว
อย่างไรก็ตาม สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่าไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่ายูเครนสามารถยึดพื้นที่คืนได้จริงหรือไม่ และรัสเซียก็ไม่เคยยอมรับว่ายูเครนทวงคืนพื้นที่ได้ มีแต่จะรายงานว่าทหารยูเครนนั้นเสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก
หรือข่าวลือจะเป็นจริง?
ก่อนหน้านี้ มีข่าวปรากฏเป็นบทวิเคราะห์ในเซาธ์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ สื่อใหญ่ของฮ่องกง ที่ระบุว่า การก่อกบฎแวกเนอร์ในรัสเซียนั้น อาจเป็นเพียงฉากหน้าความร่วมมือระหว่างรัสเซียและกลุ่มแวกเนอร์ในการพิชิตกรุงเคียฟ เมืองหลวงของยูเคน ผ่านทางเบลารุสที่เป็นพันธมิตรกับรัสเซีย
เนื่องจากนายเยฟเกนี พรีโกชิน หัวหน้ากลุ่มทหารรับจ้างแวกเนอร์นั้น เป็นนักธุรกิจและเป็นเพื่อนสนิทของนายวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย มีความเป็นไปได้ว่า ภายใต้ข้อตกลงที่เป็นฉากหน้าของเรื่องนี้ กลุ่มกองกำลังนักรบรับจ้างของแวกเนอร์ได้เคลื่อนพล 3-4 หมื่นคนเข้าไปอยู่ในเบลารุส ซึ่งเป็นประเทศพันธมิตรของรัสเซียเรียบร้อยแล้วโดยใช้เวลาเพียง 24 ชั่วโมงเท่านั้น และเป็นการเคลื่อนกำลังพลระยะทางกว่าพันกิโลเมตร โดยฝ่ายตะวันตกหรือนาโต (องค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ) ไม่ได้ขัดขวางใดๆเลย
ทั้งนี้ เบรารุสยินยอมให้รัสเซียเข้ามาติดตั้งอาวุธนิวเคลียร์ในดินแดนเบลารุส ภายใต้ความร่วมมือด้านนิวเคลียร์ระหว่างทั้งสองประเทศที่มีความคืบหน้า โดยการลงนามติดตั้งอาวุธนิวเคลียร์ในเบลารุสเกิดขึ้นหลังจากที่ปธน.ปูติน ประกาศเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมาว่า จะสร้างคลังเก็บอาวุธนิวเคลียร์ในเบลารุสให้แล้วเสร็จในเดือนกรกฎาคม 2566 เพื่อตอบโต้การที่ชาติตะวันตกส่งเครื่องบินรบให้การสนับสนุนยูเครนในการทำสงครามกับรัสเซีย