นายดมิทรี เมดเวเดฟ อดีตประธานาธิบดีรัสเซีย และเป็นคนสนิทของ ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ระบุว่า สงครามยูเครน อาจกินเวลายาวนานหลายทศวรรษ และ รัสเซีย ก็มีความมุ่งมั่นอย่างยิ่งที่จะขัดขวาง ยูเครน จากการเข้าร่วมองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต)
"เป้าหมายของเราคือการขจัดภัยคุกคามจากการที่ยูเครนเข้าเป็นสมาชิกนาโต และเราจะต้องประสบความสำเร็จ"
"คุณไม่จำเป็นต้องเป็นผู้ที่มีวิสัยทัศน์ในการเข้าใจว่าช่วงเวลาในการเผชิญหน้าจะใช้เวลานานมาก และความขัดแย้งนี้อาจจะยาวนานหลายทศวรรษ" นายเมดเวเดฟระบุ
นอกจากนี้ เขายังเตือนประเทศในโลกตะวันตกด้วยว่า การสนับสนุนยูเครนทำให้แนวโน้มการเกิดสงครามนิวเคลียร์มีความเป็นไปได้มากขึ้น
ทั้งนี้ นายเมดเวเดฟเขียนบทความลงในหนังสือพิมพ์ Rossiskaya Gazeta ระบุว่า ความเสี่ยงในการเกิด "สงครามวันสิ้นโลก" มีความเป็นไปได้มากกว่าในช่วงเกิดวิกฤตขีปนาวุธคิวบาในปี 2505 ซึ่งครั้งนั้นมีสาเหตุจากความพยายามครองโลกของสหรัฐ และมุมมองที่แตกต่างกันระหว่างรัสเซียและชาติตะวันตก
กลาโหมรัสเซียยันกองทัพไม่ได้อ่อนแอลง แม้ขาดกลุ่มแวกเนอร์
ด้านนายเซอร์เก ชอยกู รัฐมนตรีกลาโหมรัสเซีย กล่าวว่า การที่กลุ่มทหารรับจ้างแวกเนอร์ไม่ได้ทำการสู้รบ(ให้กับกองทัพรัสเซีย) ในยูเครนอีกต่อไป ไม่ได้ทำให้ปฏิบัติการทางทหารของรัสเซียในยูเครนอ่อนแอลง
นอกจากนี้ เขายังมีความเห็นว่า การที่นายเยฟเกนี พริโกซิน หัวหน้ากลุ่มแวกเนอร์ ประสบความล้มเหลวในการบ่อนทำลายเสถียรภาพของรัสเซียเป็นเพราะกองกำลังของรัสเซียมีความจงรักภักดีต่อประเทศชาติ
อย่างไรก็ตาม การรบในยูเครนยังเป็นไปอย่างดุเดือด โดยเฉพาะในแนวรบภาคตะวันออก โดยกองทัพยูเครนแถลงเมื่อวันจันทร์ (3 มิ.ย.) ว่า ทหารยูเครนสามารถยึดพื้นที่คืนมาได้อีก 37 ตารางกิโลเมตรทางภาคตะวันออกและภาคใต้ ซึ่งเกิดการต่อสู้อย่างหนักหน่วงในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา
ฮานนา มาลิอาร์ รองรัฐมนตรีกลาโหมยูเครน ระบุทางเทเลแกรมว่า ทหารยูเครนสามารถรุกคืบไปได้มากในสมรภูมิบัคห์มุตทางตะวันออกซึ่งเดิมยึดครองโดยกองทัพรัสเซียและกลุ่มแวกเนอร์ ขณะที่รัสเซียก็โหมโจมตีใส่เมืองลีแมน แอดวิฟกา และมารินกา ซึ่งกำลังเกิดการต่อสู้อย่างหนักในเมืองเหล่านั้น
รองรัฐมนตรีมาลิอาร์ กล่าวว่า พื้นที่ส่วนใหญ่ที่ยูเครนยึดคืนมาได้อยู่ทางภาคใต้ โดยกองทัพยูเครนได้เริ่มปฏิบัติการในเมืองเมลิโตโพลและเบอร์ดิยานสก์แล้วเช่นกัน
ทั้งนี้ ยูเครนเริ่มการโจมตีโต้กลับตั้งแต่เดือนมิถุนายนเพื่อยึดพื้นที่คืนจากรัสเซีย และสามารถยึดหมู่บ้านคืนมาได้แล้วหลายแห่งในช่วงเกือบหนึ่งเดือนที่ผ่านมา
ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน กล่าวว่า ยูเครนกำลังมีความคืบหน้าในการรุกตอบโต้กองกำลังรัสเซีย "เรากำลังมุ่งหน้าทีละก้าว ผมขอขอบคุณทุกคนที่ได้ปกป้องยูเครน และทุกคนที่จะทำให้ยูเครนชนะสงคราม" ปธน.เซเลนสกีกล่าว
โปแลนด์ส่งทหารป้องกันชายแดนติดเบลารุส
ทางการโปแลนด์ซึ่งมีแนวชายแดนติดยูเครนและเบลารุส เปิดเผยว่า โปแลนด์จะส่งทหาร 500 คนไปยังพรมแดนที่ติดกับเบลารุสเพื่อป้องกันด้านความมั่นคงตลอดแนวชายแดน
มาเรียสซ์ คามินสกี รัฐมนตรีกระทรวงกิจการภายในของโปแลนด์ ทวีตเมื่อวันอาทิตย์ (2 มิ.ย.)ว่า "เนื่องจากสถานการณ์ตึงเครียดบริเวณพรมแดนติดเบลารุส จึงได้ตัดสินใจเพิ่มกำลังทหารด้วยการส่งเจ้าหน้าที่ 500 คนจากหน่วยต่อต้านการก่อการร้ายและควบคุมการจลาจล ไปยังบริเวณพรมแดนดังกล่าว"
เจ้าหน้าที่กำลังเสริมเหล่านั้นจะร่วมทำหน้าที่ป้องกันแนวชายแดนกับทหารโปแลนด์อีกกว่า 5,000 คน โดยโปแลนด์กล่าวหาเบลารุสว่าทำให้เกิดวิกฤตผู้ลี้ภัยเมื่อ 2 ปีที่แล้วด้วยการผลักดันผู้ลี้ภัยจากตะวันออกกลางและแอฟริกาเข้าไปในโปแลนด์
ไบเดนเยือน 3 ประเทศยุโรปสัปดาห์หน้า
นายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐ จะเดินทางเยือนยุโรป 3 ประเทศในสัปดาห์หน้า เพื่อกระชับความร่วมมือของพันธมิตรต่อต้านการรุกรานของรัสเซีย และสนับสนุนความช่วยเหลือให้แก่ยูเครน โดยทำเนียบขาวเปิดเผยว่า ปธน.ไบเดนจะเริ่มเยือนกรุงลอนดอนในวันที่ 9 ก.ค.นี้ โดยจะเข้าเฝ้าสมเด็จพระเจ้าชาลส์ที่ 3 และจะหารือกับนายกรัฐมนตรี ริชี ซูแน็ก ของอังกฤษเพื่อกระชับสัมพันธ์ของสองประเทศ
จากนั้น ผู้นำสหรัฐจะร่วมประชุมสุดยอดองค์การนาโต้ที่ประเทศลิทัวเนียในวันที่ 11-12 ก.ค. เพื่อหารือเรื่องการสนับสนุนด้านการทหารให้แก่ยูเครนเพื่อยึดพื้นที่คืนจากการครอบครองของรัสเซีย
ต่อจากลิทัวเนีย นายไบเดนจะเดินทางไปยังฟินแลนด์ เพื่อแสดงความยินดีที่ฟินแลนด์เข้าร่วมเป็นสมาชิกขององค์การนาโตเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ซึ่งทำให้พรมแดนของสมาชิกนาโตที่ติดกับรัสเซียมีเพิ่มมากขึ้นเป็นสองเท่า