ส่องว่าที่ครม.กัมพูชา รวมดาวคนรุ่นใหม่ ทายาท "เพื่อนฮุน เซน" ทั้งก๊วน
สมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรีของกัมพูชาที่กำลังจะพ้นตำแหน่ง หลัง “ฮุน มาเนต” บุตรชายของเขาสาบานตนเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ 22 ส.ค.นี้ เปิดรายชื่อตัวเต็งรัฐมนตรีของรัฐบาลชุดใหม่ ซึ่งกล่าวได้ว่าเป็นครม.รวมดาวทายาทบรรดาเพื่อนๆ ของเขา
กลางสัปดาห์ที่ผ่านมา (10 ส.ค.) สมเด็จฮุน เซน ในวัย 71 ปี ยังคงปฏิบัติภารกิจทิ้งทวน ก่อนมอบโอนอำนาจให้บุตรชาย “พลเอกฮุน มาเนต” อย่างเป็นทางการในอีกไม่กี่วันข้างหน้า โดยเขาได้เสนอชื่อบุคคล 50 คนที่จะอยู่ใน คณะรัฐมนตรีของฮุน มาเนต นายกฯคนใหม่ ซึ่งในจำนวนดังกล่าวมีหลายคนที่เกี่ยวโยงโดยตรงกับคนในรัฐบาลของสมเด็จฮุน เซน ที่กำลังจะหมดวาระลงในเร็วๆนี้
สมเด็จฮุน เซน ซึ่งปกครองกัมพูชามากว่า 38 ปี กำลังถ่ายโอนอำนาจไปยังฮุน มาเนต ลูกชายของเขา ซึ่งเป็นทั้งทายาททางสายเลือดและทายาททางการเมือง หลังจากที่พรรคประชาชนกัมพูชา (Cambodian People's Party) หรือ CPP ของพวกเขา ชนะการเลือกตั้งอย่างท่วมท้นเมื่อวันที่ 23 ก.ค.ที่ผ่านมาหลังพรรคฝ่ายค้านถูกห้ามลงเเข่งขัน
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ในบรรดาลูกๆหลานๆ “เพื่อนฮุน เซน” ที่จะขึ้นมารับตำแหน่งในคณะรัฐมนตรีของพลเอกฮุน มาเนต แทนคนรุ่นพ่อของพวกเขานั้น ได้แก่ ชาม นิมูล บุตรสาวของนายชาม ปราสิดห์ รัฐมนตรีอุตสาหกรรม และเตีย เซยหา บุตรชายของพลเอกเตีย บัน รัฐมนตรีกลาโหมคนปัจจุบัน
ณ ช่วงเวลานี้ สมเด็จฮุน เซน ยังไม่ได้เปิดเผยตำแหน่งที่เเต่ละคนจะได้รับ ขณะที่รัฐสภากัมพูชาเอง ก็มีหน้าที่เพียงในเชิงพิธีการที่จะลงมติเพื่อรับรองบุคคลที่จะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีและสมาชิกคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ของกัมพูชาในวันที่ 22 สิงหาคมนี้
รอยเตอร์รายงานว่า เเม้ฮุน เซนต้องการส่งผ่านตำแหน่งนายกรัฐมนตรีให้กับบุตรชาย แต่ดูเหมือนว่าเขาจะยังไม่วางมือทางการเมืองเสียทีเดียว จะยังคงทำหน้าที่เป็นผู้สนับสนุนอยู่เบื้องหลังต่อไปอีก ทั้งนี้ สมเด็จฮุน เซน กล่าวว่า เขาจะดำรงตำแหน่งประธานวุฒิสภา ซึ่งหมายความว่า โดยตำแหน่งนี้ เขาจะยังคงมีหน้าที่รักษาการในตำแหน่งประมุขของประเทศ หากว่ากษัตริย์กัมพูชาเสด็จนอกประเทศ
นอกจากนี้ ฮุน เซน จะยังคงดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรครัฐบาล (CPP) และก่อนหน้านี้ เขาก็เคยกล่าวเผื่อๆ เอาไว้แล้วว่า เขาอาจจะกลับมาเป็นนายกฯ อีกครั้ง ถ้าหากว่าบุตรชาย (ฮุน มาเนต) ทำผลงานได้ไม่ดี หรือตกอยู่ในอันตราย
ฮุน มาเนต ปัจจุบันวัย 45 ปี เขาได้รับการศึกษาในประเทศตะวันตกโดยจบการศึกษาทั้งจากประเทศสหรัฐอเมริกาและอังกฤษ แต่เท่าที่ผ่านมา แม้จะอยู่ในตำแหน่งนายทหารระดับสูงในกองทัพ แต่พลเอกฮุน มาเนต ก็ไม่ค่อยได้แสดงวิสัยทัศน์ของตนที่มีเกี่ยวกับประเทศกัมพูชามากนัก ท่ามกลางบรรยากาศที่นานาประเทศได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับการละเมิดสิทธิมนุษยชนในกัมพูชา
ทั้งนี้ เท่าที่ผ่านมา รัฐบาลกัมพูชาในยุคของสมเด็จฮุน เซน ได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาเกี่ยวกับการละเมิดสิทธิมนุษยชน รวมถึงข้อกล่าวหาเกี่ยวกับการทุจริตคอร์รัปชันมาโดยตลอด โดยเฉพาะในเรื่องของการเอื้อผลประโยชน์ต่อพวกพ้องและแวดวงคนใกล้ชิดของฮุน เซน
ในสัปดาห์ที่ผ่านมา เขายังเพิ่งประกาศเเต่งตั้ง “คูน โสดารี” ให้เป็นประธานสภานิติบัญญัติ ที่ถือเป็นสตรีคนเเรกในกัมพูชาที่ได้ดำรงตำแหน่งสำคัญนี้
ด้านนิคเคอิ เอเชีย สื่อใหญ่ของญี่ปุ่นรายงานว่า สมเด็จฮุน เซน ปูทางสะดวกไว้ให้ลูกชายสืบทอดอำนาจมาเนิ่นนานแล้ว และการแต่งตั้งบรรดาลูกๆ หลานๆ ของเพื่อนพ้องและคนสนิทที่เขาไว้วางใจ ให้ขึ้นสืบทอดอำนาจต่อจากคนรุ่นพ่อของพวกเขา ก็เป็นอีกขั้นหนึ่งของการวางรากฐานการสืบอำนาจที่แข็งแกร่งให้กับฮุน มาเนต
นี่ถือเป็นการส่งมอบอำนาจโดยตรงแบบคัดมากับมือ และส่งต่อให้กันตรงๆ ไม่มีอ้อมค้อม สื่อต่างประเทศเรียกกระบวนการนี้ว่า managed generational transition หรือการผ่องถ่ายอำนาจจากคนรุ่นหนึ่งสู่คนอีกรุ่นหนึ่งภายในพรรค CPP อย่างมีการบริหารจัดการเป็นอย่างดี เป็นการสืบทอดอำนาจที่มีเครือข่ายการอุปถัมภ์แบบครอบครัวเป็นฐานรองรับ และเป็นเครือข่ายที่เชื่อมโยงผู้มีอำนาจทางการเมือง ทางธุรกิจ และทางกองทัพ เข้าไว้ด้วยกันอย่างเหนียวแน่น
เครือข่ายสายสัมพันธ์ดังกล่าวสะท้อนให้เห็นชัดเจนในงานพบปะคนรุ่นใหม่และคนรุ่นเก่าของพรรค CPP ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 10 ส.ค.ที่ผ่านมา ณ ที่ทำการพรรค CPP ในกรุงพนมเปญ คนรุ่นเก่าที่ว่านี้เป็นคนรุ่นพ่อที่ก่อตั้งและสืบสานพรรค CPP มาตั้งแต่ยุคแรกๆที่เวียดนามเข้ามาช่วยวางพื้นฐานก่อตั้งพรรค หลังอำนาจของพอลพต ผู้นำเขมรแดงล่มสลายลงในปี 1979 (พ.ศ. 2522)
นิคเคอิรายงานว่า มีข้อมูลรั่วไหลออกมาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาแล้ว ว่าในจำนวน 30 กระทรวงของกัมพูชานั้น มีถึง 23 กระทรวงที่จะผลัดเปลี่ยนรัฐมนตรีมาเป็นคนรุ่นใหม่ที่เป็นรุ่นลูก ทั้งนี้ คาดว่าอย่างน้อยครึ่งหนึ่งของจำนวนรัฐมนตรีทั้งหมดจะมีอายุอยู่ในวัย 40 กว่าปีเท่านั้น (ตัวพล.อ.ฮุน มาเนต ว่าที่นายกรัฐมนตรี มีอายุ 45 ปี) นอกจากนี้ มีแนวโน้มว่า รัฐมนตรีใหม่บางคนจะมาเป็นผู้สืบทอดตำแหน่งจากพ่อๆของพวกเขา ยกตัวอย่าง
- นายซาร์ เค็ง (Sar Kheng) รัฐมนตรีมหาดไทยวัย 72 ปี ซึ่งอยู่ในตำแหน่งนี้มาตั้งแต่ปี 1992 และดูแลกรมตำรวจด้วย คาดว่าจะส่งมอบตำแหน่งของเขาให้นายซาร์ โสขะ (Sar Sokha) วัย 42 ปี ซึ่งเป็นบุตรชาย และเคยทำงานที่กระทรวงศึกษาธิการ กิจการเยาวชนและการกีฬา มาก่อน
- หรืออย่างพลเอกเตีย บันห์ รัฐมนตรีกลาโหมวัย 77 ปี ก็คาดว่าจะถูกแทนที่ตำแหน่งโดยนายเตีย เซยหา บุตรชายวัย 42 ปีของเขา ซึ่งปัจจุบันเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดเสียมเรียบและเป็นมาตั้งแต่ปี 2018
- คาดว่า บุคคลทั้งสอง (นายซาร์ โสขะ และเตีย เซยหา) จะเป็นสองใน 10 รองนายกรัฐมนตรีที่จะได้รับการแต่งตั้งในครม.ของนายฮุน มาเนตด้วย
- บุคคลอื่นๆ ที่ปรากฏในภาพถ่ายหมู่ หน้าทางเข้าอาคารพรรค CPP เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (10 ส.ค.) เชื่อว่าหลายคนคือ “ว่าที่รัฐมนตรี” ซึ่งรวมถึง นายฮุน มานี (Hun Many) วัย 40 ปี บุตรชายคนเล็กของสมเด็จ ฮุนเซน ที่คาดว่าจะอยู่ในโผ เป็นว่าที่รัฐมนตรีกระทรวงกิจการพลเรือน (Ministry of Civil Service)
- กระทรวงสำคัญอื่นๆ เช่น กระทรวงคมนาคมและโยธาธิการ คาดว่า จะตกเป็นของนายเพ็ง พุธเนีย (Peng Puthnea) บุตรชายของนาย เม็น สัม อัน (Men Sam An) รองนายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันซึ่งเป็นคนสนิทและมีความจงรักภักดีต่อนายกฯฮุน เซน เป็นอย่างมาก
- นอกจากนี้ คาดว่า นายเชย์ ริทธิเสน (Chhay Rithisen) บุตรชายของนายเชย์ ธัน (Chhay Than) รัฐมนตรีกระทรวงวางแผนและนโยบายคนปัจจุบัน จะขึ้นเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาชนบท
- ส่วนกระทรวงวางแผนและนโยบายนั้น คาดว่าจะตกเป็นของนายบิน โทรเชย์ (Bin Troachhey) บุตรชายของนายบิน ชิน (Bin Chhin) รัฐมนตรีประจำสำนักคณะรัฐมนตรีคนปัจจุบัน
- ส่วนนายซก โสเคน วัย 40 ปี บุตรชายของนายซก อัน บิ๊กเนมในพรรค CPP คาดว่าจะได้รับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยว
- ขณะที่นายเจีย สัมธี (Chea Somethy) บุตรชายของนายเจีย ซิม อดีตประธานพรรค CPP ผู้ล่วงลับ คาดว่าจะได้ดำรงตำแหน่งเจ้ากระทรวงกิจการทางสังคม
ในบรรดารัฐมนตรีใหม่ของกัมพูชา คาดว่าจะมีรัฐมนตรีที่เป็นสตรี 3 คน หนึ่งในนั้น คือ ชาม นิมูล วัย 43 บุตรสาวของนายชาม ปราสิดห์ รัฐมนตรีอุตสาหกรรมคนปัจจุบันนั่นเอง คาดว่าเธอจะได้ตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์
ทั้งนี้ การประกาศตำแหน่งคณะรัฐมนตรีจะมีขึ้นในวันที่ 22 สิงหาคม 2566 นี้ เมื่อรัฐสภาเปิดประชุมเพื่อให้การรับรองฮุน มาเนต เป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่อย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิง