นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ติดตามสถานการณ์กรณีการเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน โดยเกิดเหตุโจมตีอิสราเอล โดยนายกฯ แสดงความห่วงใย และให้กำลังใจคนไทยในพื้นที่ต่อเนื่อง พร้อมทั้งสั่งการให้เจ้าหน้าที่ดูแลอย่างเต็มที่
"ขณะนี้ นายกรัฐมนตรีรับทราบรายงานว่ามีคนไทยบาดเจ็บ 1 ราย โดยนายกรัฐมนตรีให้กำลังใจผู้บาดเจ็บชาวไทย พร้อมสั่งการให้เข้มงวดการติดตามสถานการณ์ ดูแลคนไทยในพื้นที่ ให้ข้อมูลประชาชนต่อเนื่อง"
โฆษกรัฐบาล ระบุว่า นายกรัฐมนตรีสั่งการให้สถานเอกอัครราชทูตฯ รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประสานการทำงานร่วมกันอย่างเข้มข้น เพื่อช่วยดูแล ติดตามพี่น้องคนไทย ผู้ได้รับผลกระทบในพื้นที่ทุกคน รวมทั้ง ให้ข้อมูลต่อเนื่อง
โดย นายกรัฐมนตรี ให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บ และสั่งการให้เจ้าหน้าที่ดูแล ช่วยเหลืออย่างดี และขอให้คนไทยในพื้นที่ติดตามข่าว ข้อความ คำแนะนำจากสถานเอกอัครราชทูตฯ อย่างต่อเนื่อง เพื่อความปลอดภัย
ทั้งนี้ขอให้ติดต่อสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงเทลอาวีฟ
ดร.ปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึง กรณีเหตุการณ์อิสราเอล ว่า ขณะนี้ขอให้รอการยืนยันข่าวจากกระทรวงการต่างประทศอย่างเป็นทางการ เพื่อป้องกันความเข้าใจที่สับสน หลังจากสถานการณ์ในอิสราเอลในเวลานี้ยังค่อยข้างสับสน
ทั้งนี้เนื่องจาก ขณะนี้เอกอัครราชทูตไทยประจำประเทศอิสราเอล ยังอยู่ในหลุมหลบภัย ยังไม่สามารถติดต่อและเปิดเผยถึงสถานการณ์ล่าสุดได้ โดยกระทรวงการต่างประเทศกำลังเร่งติดต่อและตรวจสอบอย่างใกล้ชิด
ดร.ปานปรีย์ ยังเปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการอย่างเร่งด่วน ให้กองทัพอากาศเตรียมเครื่องบินให้พร้อมสำหรับการอพยพคนไทยกลับประเทศ โดยหากมีความจำเป็น สามารถบินขึ้นได้ทันที
ด้าน นายจักรพงษ์ แสงมณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ทวีตข้อความผ่าน X มีเนื้อหาระบุว่า ตามที่เกิดเหตุการณ์การส่งอากาศยานต่อสู้ไร้คนขับและจรวดจากฉนวนกาซาเข้าโจมตีอิสราเอล เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2566 ผมขอให้พี่น้องคนไทยในอิสราเอลทุกท่านปลอดภัย และขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อรัฐบาลและประชาชนอิสราเอล
การโจมตีที่ไร้มนุษยธรรมที่ส่งผลให้ผู้บริสุทธิ์ต้องสูญเสียชีวิตและบาดเจ็บเช่นนี้ เป็นสิ่งที่ไม่สมควรเกิดขึ้น และผมขอร่วมกับประชาคมโลกประณามการกระทำดังกล่าว