อิสราเอลสั่งถล่มฮามาส ประกาศเผด็จศึกยึดฉนวนกาซา ตัดน้ำ-ไฟฟ้า อาหาร 

09 ต.ค. 2566 | 14:59 น.
อัปเดตล่าสุด :09 ต.ค. 2566 | 15:15 น.

รัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอลสั่งการยึดเขตฉนวนกาซาทั้งหมดวันนี้ (9 ต.ค.) ตัดน้ำ ไฟฟ้า เชื้อเพลิง และอาหาร และถล่มโจมตีทางอากาศเพื่อกดดันกองกำลังฮามาส ขณะยอดผู้เสียชีวิตจากการโจมตีของทั้งสองฝ่ายล่าสุด ทะลุ 1,200 ราย รวมผู้เสียชีวิตในเทศกาลดนตรีกว่า 260 ราย

 

เขตฉนวนกาซา ที่มีชาวปาเลสไตน์อาศัยอยู่ราว 2 ล้านคน และส่วนใหญ่ก็ใช้ชีวิตอย่างลำบากยากแค้นอยู่แล้ว ได้ถูก ทางการอิสราเอล สั่งยึดพื้นที่ทั้งหมดด้วยการตัดน้ำ-ไฟฟ้า เชื้อเพลิง รวมทั้งอาหาร และเปิดปฏิบัติการโจมตีทางอากาศเพื่อตอบโต้ฝ่าย กองกำลังติดอาวุธฮามาส ที่ยึดครองพื้นที่ดังกล่าวเป็นฐานปฏิบัติการ หลังฝ่ายฮามาสได้ระดมโจมตีอิสราเอลโดยเฉพาะพื้นที่ทางตอนใต้มาตั้งแต่ช่วงเช้าตรู่วันเสาร์ (7 ต.ค.) ซึ่งวันนี้เข้าวันที่สามของการโจมตี มีรายงานยอดผู้เสียชีวิตทั้งในฝั่งอิสราเอลและฉนวนกาซาแล้วมากกว่า 1,200 ราย และในจำนวนนี้มีผู้เสียชีวิตชาวไทย 12 ราย

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า อิสราเอลเรียกกำลังพลสำรอง 300,000 นาย โดยโฆษกกองทัพอิสราเอลเปิดใจยอมรับว่า เหตุการณ์ครั้งนี้เปรียบได้กับเหตุการณ์ 9/11 ของพวกเขา ซึ่งหมายถึงการถูกบุกโจมตีอย่างร้ายแรงโดยกลุ่มก่อการร้ายอย่างไม่ทันรู้เนื้อรู้ตัว

นายโยอาฟ กัลป์แลนต์ รัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอล ประกาศออกคำสั่งเมื่อวันจันทร์ (9 ต.ค.) ให้ยึดฉนวนกาซาโดยสมบูรณ์โดยเขากล่าวว่า ไม่มีไฟฟ้า อาหาร เชื้อเพลิง หรือแม้แต่น้ำ ที่จะถูกส่งเข้าไปภายในเขตฉนวนกาซ่า ที่โดนปิดล้อมไว้ 3 ด้านโดยอิสราเอลและอียิปต์ เขาประกาศลั่นต่อหน้าสื่อว่า อิสราเอลกำลังต่อสู้กับพวกป่าเถื่อน และจะตอบโต้กลับในลักษณะเดียวกันนั้น

รัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอล ประกาศออกคำสั่งเมื่อวันจันทร์ (9 ต.ค.) ให้ยึดฉนวนกาซ่าโดยสมบูรณ์

ไม่มีไฟฟ้า อาหาร เชื้อเพลิง หรือแม้แต่น้ำ ที่จะถูกส่งเข้าไปภายในเขตฉนวนกาซ่า ซึ่งโดนปิดล้อมโดยอิสราเอล

ทั้งนี้ แหล่งข่าวด้านความมั่นคงของอิสราเอลให้ข้อมูลกับรอยเตอร์ว่า การที่กลุ่มฮามาสสามารถโจมตีอิสราเอลแบบที่ไม่ทันตั้งตัวได้นั้น เป็นเพราะกลุ่มฮามาสสามารถทำให้รัฐบาลอิสราเอลหลงตายใจว่า อิสราเอลสามารถควบคุมไม่ให้ฮามาสก่อสงครามได้ด้วยเแรงจูงใจทางเศรษฐกิจในรูปของการจัดหางานให้กับผู้ใช้แรงงานในเขตฉนวนกาซา แต่เบื้องหลังของเรื่องนี้ คือฝ่ายฮามาสแสร้งทำให้อิสราเอลตายใจว่าพวกเขากำลังอ่อนแอและไม่สามารถสู้รบได้ ทั้งที่จริงๆแล้วพวกเขากำลังซุ่มฝึกฝนกองกำลังเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการสู้รบ

ย่อยยับแหลกลาญทั้งสองฝ่าย 

ด้านซีเอ็นบีซีรายงานว่า การโจมตีอิสราเอลโดยกลุ่มฮามาสเมื่อเช้าวันเสาร์ (7 ต.ค.) นับเป็นการโจมตีครั้งใหญ่ที่สุดและรุนแรงที่สุดเท่าที่อิสราเอลเคยเจอมาในรอบ 50 ปี กระทั่งตลอดทั้งวันนี้ ก็ยังคงมีเสียงสัญญาณไซเรนดังตลอดเวลาเตือนการโจมตีทางอากาศในหลายเมืองของอิสราเอลรวมถึงเทลอาวีฟและเยรูซาเลม

ขณะที่ฝ่ายอิสราเอลมีรายงานผู้เสียชีวิตจนถึงขณะนี้มากกว่า 700 ราย ในเขตกาซาซึ่งเป็นถิ่นของฮามาสมีรายงานผู้เสียชีวิตราว 490 ราย ทำให้มีจำนวนผู้เสียชีวิตรวมกว่า 1,200 รายรวมถึงชาวต่างชาติ ซึ่งล่าสุดสหรัฐอเมริการายงานว่ามีชาวอเมริกัน 9 คนเสียชีวิตจากการโจมตีของสองฝ่าย

นอกจากนี้ ยังมีผู้ที่ถูกฝ่ายฮามาสจับไปเป็นตัวประกันที่ยังไม่รู้จำนวนรวม (ในส่วนนี้ กระทรวงการต่างประเทศของไทยระบุมีคนไทยถูกจับเป็นตัวประกัน 11 คน) ทำให้นายกรัฐมนตรีเนทันยาฮู ผู้นำอิสราเอล ประกาศว่าอิสราเอลได้เข้าสู่ภาวะสงครามแล้ว และจะตอบโต้กลุ่มฮามาสให้สาสมในทุกรูปแบบ ทั้งนี้ภายในช่วง 48 ชั่วโมงที่ผ่านมา อิสราเอลโจมตีพื้นที่เป้าหมายกว่า 1,000 แห่งและยึดคืนหลายพื้นที่รอบๆเขตกาซากลับมาได้แล้ว พร้อมประกาศเดินหน้าแผนเข้าช่วยเหลือผู้ที่ถูกจับเป็นตัวประกัน

ทั้งนี้ กลุ่มฮามาสซึ่งเป็นกลุ่มก่อการร้ายที่ได้รับความสนับสนุนโดยอิหร่าน ได้เข้าครอบครองพื้นที่ฉนวนกาซามาตั้งแต่ปี 2007 นายมาห์มุด มีร์ดาวี เจ้าหน้าที่ระดับสูงของฮามาสยืนยันว่า ทางกลุ่มวางแผนโจมตีอิสราเอลด้วยตัวเอง โดยสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นการตัดสินใจของชาวปาเลสไตน์และฮามาส ขณะที่อิหร่านเองก็ปฏิเสธเช่นกัน ว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ โดยโฆษกเอกอัครราชทูตอิหร่านประจำสหประชาชาติ (ยูเอ็น) แถลงว่า รัฐบาลเตหะรานอยู่เคียงข้างกับการกระทำของกาซาก็จริง แต่ไม่ได้สั่งการพวกเขา เตหะรานไม่มีส่วนเกี่ยงข้องใดๆ ในการโจมตีที่เป็นการกระทำโดยตามลำพังของฝ่ายปาเลสไตน์