สำนักข่าวซีเอ็นบีซี สื่อใหญ่สหรัฐ รายงานว่า ในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา เรือบรรทุกสินค้า หลายลำได้เปลี่ยนเส้นทางการค้าที่มีมูลค่ารวมกว่า 200,000 ล้านดอลลาร์ให้ออกห่างจากเส้นทางการค้าที่สำคัญของ ตะวันออกกลาง เพื่อหลีกเลี่ยง การโจมตีจากกลุ่มกบฏฮูตี ซึ่งมีฐานที่มั่นอยู่ในเยเมน และมีอิหร่านคอยหนุนหลัง
ทั้งนี้ กลุ่มกบฏดังกล่าวอ้างว่า การโจมตีเรือสินค้าในทะเลแดงนั้นเพื่อเป็นการตอบโต้การที่กองทัพอิสราเอลระดมโจมตีฉนวนกาซาอย่างโหดเหี้ยมเพื่อถอนรากถอนโคนกลุ่มฮามาสซึ่งมีศูนย์อำนาจอยู่ในเขตฉนวนกาซา แต่การโจมตีแบบเหวี่ยงแหดังกล่าวของอิสราเอลได้ทำให้ประชาชนชาวปาเลสไตน์ที่เป็นผู้บริสุทธิ์ต้องพลอยเสียชีวิตและบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก
การยืนกรานตอบโต้และโจมตีเรือในทะเลแดงจนกว่าอิสราเอลจะหยุดโจมตีฉนวนกาซา ได้สร้างอุปสรรคให้กับการค้าโลก เพราะอัตราค่าระวางเรือที่ใช้เส้นทางนี้ ได้ขยับเพิ่มขึ้นทุกวัน มีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม อีกทั้งเวลาในการขนส่งก็ยาวนานขึ้น และยังมีความเสี่ยงที่ผลิตภัณฑ์สินค้าสำหรับฤดูร้อนและฤดูใบไม้ผลิจะมาถึงผู้นำเข้าล่าช้า รวมทั้งสินค้าสำหรับเทศกาลตรุษจีนที่กำลังจะมาถึง เนื่องจากเรือขนส่งเดินทางถึงจีนช้าลง เพราะต้องใช้เส้นทางเดินเรือที่ไกลกว่าเดิมโดยอ้อมแหลมกู๊ดโฮปของแอฟริกาใต้
แลร์รี ลินด์ซีย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของลินด์ซีย์ กรุ๊ป บริษัทที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจระดับโลก กล่าวให้ความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า แรงกดดันด้านห่วงโซ่อุปทานที่ดันเงินเฟ้อเป็นช่วงสั้น ๆ ในปี 2565 อาจกำลังหวนกลับมาอีกครั้ง หากปัญหาต่าง ๆ ในทะเลแดงและมหาสมุทรอินเดียยังคงดำเนินต่อไป
ทั้งนี้ ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และธนาคารกลางอื่น ๆ กำลังพยายามรับมือกับเงินเฟ้อโดยการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย แม้ว่าเฟดมีแนวโน้มจะเริ่มการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้
"ทั้งเฟดและธนาคารกลางยุโรป (ECB) ก็ไม่สามารถทำอะไรกับคนกลุ่มนี้ได้ และมีแนวโน้มที่จะมองเงินเฟ้อที่เกิดขึ้นนี้เพียงผ่าน ๆ ซึ่งอาจนำไปสู่การปรับลดอัตราดอกเบี้ยแม้จะมีแรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่ค่อนข้างสูงก็ตาม"
จากกรณีที่กลุ่มติดอาวุธฮูตีในเยเมนซึ่งใกล้ชิดกับฮามาส ยังคงซุ่มโจมตีเรือสินค้าในทะเลแดง ทำให้ 12 ประเทศพันธมิตรที่ประกอบด้วยสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น สหรัฐราชอาณาจักร และพันธมิตรชาติอื่นๆอีก 9 ประเทศ ออกแถลงการณ์ร่วมเมื่อวันพุธ (3 ม.ค.) ว่า กลุ่มฮูตีจะต้องรับผิดชอบต่อผลกระทบที่จะตามมา ถ้าหากยังคิดที่จะเดินหน้าคุกคามชีวิตพลเรือน คุกคามเศรษฐกิจโลก และการขนส่งสินค้าที่ควรจะเป็นไปอย่างเสรีในเส้นทางเดินเรือที่สำคัญยิ่งในภูมิภาคนี้
ข่าวระบุว่า ในช่วงสัปดาห์นี้ อัตราค่าระวางเรือสินค้าที่เดินทางจากเอเชียสู่ยุโรปเหนือ ปรับขึ้นมาแล้วมากกว่าเท่าตัวสู่ระดับเหนือ 4,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อสินค้า 1 ตู้คอนเทนเนอร์ (ขนาด 400 ฟุต) ส่วนค่าระวางเรือจากเอเชียไปแถบเมดิเตอเรเนียนขยับขึ้นเป็น 5,175 ดอลลาร์ต่อ 1 ตู้คอนเทนเนอร์
บางสายการเดินเรือได้ประกาศปรับอัตราค่าระวางเรือจากเอเชียไปยังแถบเมดิเตอเรเนียนขึ้นไปเหนือระดับ 6,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อตู้คอนเทนเนอร์(ขนาด 40 ฟุต) เริ่มมีผลกลางเดือนนี้ พร้อมบวกค่าเซอร์ชาร์จระหว่าง 500-2,700 ดอลลาร์ต่อตู้
อลัน แบร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท OL-USA ขนส่งสินค้าทางเรือกล่าวว่า การที่ค่าระวางเรือสินค้าปรับเพิ่มอย่างรวดเร็ว ทำให้คาดได้ว่า ต้นทุนค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นจะกระจายเข้าไปปรากฏในส่วนอื่นๆของซัพพลายเชน และจะกระทบผู้บริโภคในที่สุด โดยจะเห็นผลชัดในไตรมาสแรกของปีนี้