คดีอื้อฉาวที่ชาว เวียดนาม รู้จักกันในนาม คดีเวียดเอ (Viet A) ที่เรียกตามชื่อบริษัทกึ่งเอกชนที่ผลิต ชุดอุปกรณ์ตรวจหาเชื้อโควิด-19 ซึ่งเป็นจุดศูนย์กลางของคดีฉาวนี้ มีความเชื่อมโยงไปถึงเจ้าหน้าที่อาวุโสในภาครัฐหลายคน และหนึ่งในนั้นคือนายเหงียน แท็ง ลอง อดีตรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข ที่ถูกนำตัวขึ้นศาลดำเนินคดีในกรุงฮานอยเมื่อวันพุธ (3 ม.ค.) โทษฐานที่ “อำนวยความสะดวก” และ รับสินบน ในการอนุมัติสัญญามูลค่าหลายล้านดอลลาร์สหรัฐในการจัดหาอุปกรณ์ทดสอบเชื้อโควิด-19 ให้กับโรงพยาบาลและชุมชนท้องถิ่นของเวียดนามในราคาที่ “สูงเกินจริง” หลายเท่า
สื่อเวียดนามเผยให้เห็นนายเหงียน แท็ง ลอง ซึ่งตกเป็นจำเลย สวมหน้ากากอนามัย และถูกตำรวจในเครื่องแบบ นำตัวพร้อมคณะอีกหลายคนไปขึ้นศาลในกรุงฮานอย ทั้งนี้ นายเหงียน ถูกกล่าวหาว่ารับสินบนมูลค่าถึง 2.25 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (หรือราว 77.7 ล้านบาท) อันก่อให้เกิดการทุจริตชุดตรวจโควิด-19 โดยรัฐทำสัญญาจัดซื้ออุปกรณ์ดังกล่าวในราคาแพงเกินจริงมาก และอดีตนายกเทศมนตรีกรุงฮานอย นาย ชู หง็อก แอห์ง ถูกดำเนินคดีด้วยข้อกล่าวหาว่าละเมิดกฎระเบียบเกี่ยวกับการจัดการทรัพย์สินของรัฐ
ก่อนหน้านี้ มีเจ้าหน้าที่รัฐและนักธุรกิจอีกอย่างน้อย 100 คนที่เกี่ยวข้องกับคดีดังกล่าว ถูกจับกุมทั่วประเทศ ฐานมีส่วนพัวพันกับคดี ในเบื้องต้นมีการประเมินว่า การทุจริตครั้งนี้ สร้างรายได้ให้กับบริษัท Viet A ซึ่งเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายชุดตรวจโควิดราว 172 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 6,190 ล้านบาท ซึ่งในจำนวนนี้ มีประมาณ 34 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 1,200 ล้านบาท ถูกแบ่งไปใช้ในการติดสินบนเจ้าหน้าที่รัฐโดยตรง
สื่อของทางการเวียดนามระบุว่า Viet A ผลิตชุดตรวจโควิดจำนวน 8.7 ล้านชุดในช่วงโควิด-19 ระบาด ซึ่งส่วนใหญ่ถูกจัดส่งไปยังสถานพยาบาลทั่วประเทศ
เวียดนามเอ็กซ์เพรส สื่อท้องถิ่นของเวียดนามรายงานว่า นายเหงียน แท็ง ลอง อดีตรมว.สาธารณสุขวัย 57 ปี ยอมรับว่าเขารับสินบน 2.25 ล้านดอลลาร์สหรัฐจากบริษัทผู้ผลิตชุดตรวจโควิด แต่เขาไม่ได้เรียกร้องสินบนดังกล่าวจากนายฟาน กว็อก เวียต ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทเวียดเอแต่อย่างใด เขาบอกต่อศาลว่า สถานการณ์ในขณะนั้นเป็นวาระที่เร่งด่วนอย่างมาก เขาได้รับทราบจากเลขานุการส่วนตัวว่า หลังบริษัทนี้ (เวียดเอ) ได้รับการรับรองให้จัดจำหน่ายชุดตรวจโควิดได้ 10 เดือน ธุรกิจก็ไปได้ดี และทางบริษัทก็อยากจะแสดงความขอบคุณต่อเขาในเรื่องนี้ ส่วนตัวเขาเองนั้นไม่เคยเอ่ยปากเรียกรับสินบนใดๆ และเงินที่ได้รับจากบริษัทรายนี้ก็ผ่านมาทางนายเหงียน ฮูห์น เลขาฯของเขา ซึ่งถูกดำเนินคดีเช่นกัน
ข้อมูลอ้างอิง