KEY
POINTS
รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศจีน หวัง อี้ และที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ เจค ซัลลิเวน หารือกันแบบปิดที่กรุงเทพฯ คาดถกความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯ ตลอดจนประเด็นไต้หวัน และ ประเด็นภูมิภาคที่มีผลประโยชน์ร่วมกัน
เศรษฐกิจของจีนที่ประสบปัญหาอาจเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ทำให้จีนไม่ต้องการเพิ่มความตึงเครียดกับสหรัฐฯ โดยตัวแทนฝ่ายสหรัฐฯและจีน น่าจะพบกันที่กรุงปักกิ่งในสัปดาห์หน้า เพื่อหารือต่อในอีกหลายประเด็น
ผู้เชี่ยวชาญระบุ การพบกันครั้งนี้ ไม่ได้เป็นข่าวใหญ่ และอาจช่วยให้ทั้ง 2 ฝ่ายได้แลกเปลี่ยนความเห็นในหัวข้อที่อ่อนไหว โดยมั่นใจได้ว่าการพูดคุยมีความเป็นส่วนตัว
โดยการหารือแบบปิดในครั้งนี้ นำโดย รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศจีน หวัง อี้ และฝ่ายสหรัฐฯ นำโดยที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ เจค ซัลลิเวน หารือกันแบบปิดที่กรุงเทพฯ โดยไม่เปิดให้นักข่าวรายงานการพบกัน
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงาน โดยอ้างอิงจากโฆษกกระทรวงต่างประเทศจีน ระบุว่า เจ้าหน้าที่อาวุโสจากรัฐบาลปักกิ่งและวอชิงตัน น่าจะหารือกันเกี่ยวกับความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯ ตลอดจนประเด็นไต้หวัน และ “ประเด็นภูมิภาคที่มีผลประโยชน์ร่วมกัน”
อย่างไรก็ตามการการพบกันของ 2 ชาติมหาอำนาจในครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ของสหรัฐฯ และ ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีน ประชุมกันนอกรอบที่เวทีเอเปค ที่สหรัฐฯ เป็นเจ้าภาพ ณ นครซานฟรานซิสโก เป็นเวลาราว 2 เดือน
ในการหารือครั้งนั้น โจไบเดน และ สี จิ้นผิง ต้องการเปิดให้มีการสื่อสารกันมากขึ้น และมีความเห็นตรงกันที่จะร่วมมือปราบปรามการผลิตสารเสพติดเฟนทานิล แต่ขณะเดียวกันยังมีความคิดเห็นที่ต่างกันในเรื่องของไต้หวัน ซึ่งจีนอ้างว่าเป็นส่วนหนึ่งของตน ขณะที่ฝ่ายกรุงไทเปแสดงท่าทีไม่เห็นด้วยอย่างชัดเจน
ทั้งนี้ ในช่วงต้นปี 2566 สหรัฐฯและจีน มีความสัมพันธ์ที่ไม่ราบรื่น แต่ก็ได้เริ่มส่งตัวแทนหารือร่วมกันมากขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี เพราะต่างต้องการบริหารให้เกิดเสถียรภาพในความสัมพันธ์ก่อนเปลี่ยนผ่านประธานาธิบดีไต้หวันในช่วงเดือนพฤษภาคม 2567 และก่อนการเลือกตั้งสหรัฐฯ ช่วงปลายปี
รอยเตอร์รายงานว่า เศรษฐกิจของจีนที่ประสบปัญหาอาจเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ทำให้จีนไม่ต้องการเพิ่มความตึงเครียดกับสหรัฐฯ ขณะเดียวกันรายงานจากเจ้าหน้าที่ภายใน ระบุว่า ตัวแทนฝ่ายสหรัฐฯและจีน น่าจะพบกันที่กรุงปักกิ่งในสัปดาห์หน้า เพื่อหารือต่อในอีกหลายประเด็น
ด้าน ไรอัน แฮสส์ ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับประเทศจีน แห่งสถาบัน Brookings Institution กล่าวว่า การพบกันที่กรุงเทพฯ ที่ไม่ได้เป็นข่าวใหญ่ และอาจช่วยให้เจค ซัลลิเวนและหวัง อี้ ได้แลกเปลี่ยนความเห็นในหัวข้อที่อ่อนไหว โดยมั่นใจได้ว่าการพูดคุยมีความเป็นส่วนตัว
“ซัลลิเวนและหวัง ได้ใช้เวลาร่วมกันอย่างมีนัยสำคัญ พวกเขาเข้าใจข้อจำกัดและหัวข้อเร่งด่วนที่ต่างฝ่ายมี สิ่งนี้จะช่วยให้เกิดการหารือกันเชิงลึก มากกว่าพูดซ้ำหัวข้อเดิม ๆ”
ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศไทยออกแถลงการณ์ที่ระบุว่า ซัลลิเวน ได้พบกับ นายเศรษฐา ทวีสินนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของไทย รวมถึง นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีต่างประเทศแล้ว โดยสำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่าผู้นำฝ่ายไทยและตัวแทนสหรัฐฯ ได้มีโอกาสพูดคุยกันเกี่ยวกับความมั่นคง พลังงานสะอาด การค้าและวิกฤตในประเทศเมียนมา
ที่มา : VOATHAI