สุริยุปราคาเต็มดวง ในวันจันทร์นี้ (8 เม.ย.) จะเกิดขึ้นเป็นเวลาราว 4 นาทีครึ่ง ทั้งนักดาราศาสตร์สมัครเล่นและมืออาชีพต่างจับจองเส้นทางที่จะได้เห็นปรากฏการณ์ดังกล่าว โดยเส้นทางการเกิดสุริยุปราคาจะพาดผ่านเมืองต่าง ๆ ใน อเมริกาเหนือ ได้แก่ เม็กซิโก สหรัฐอเมริกา และ แคนาดา โดยมี 15 รัฐในสหรัฐอเมริกาที่อยู่ในเส้นทางที่จะได้เห็นสุริยุปราคาเต็มดวง
องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ หรือ NASA (นาซา) คาดว่า จะมีผู้คนราว 31.6 ล้านคนที่อยู่ในพิกัดเส้นทางของการเกิดสุริยุปราคาเต็มดวง ได้ชมปรากฏการณ์นี้แบบเต็ม ๆ
อย่างไรก็ตาม สภาพอากาศอาจไม่เป็นใจสำหรับผู้ที่ตั้งตารอชมในบางพื้นที่ของสหรัฐ โดยสำนักงานอุตุนิยมวิทยาแห่งสหรัฐอเมริกา พยากรณ์เมื่อวันศุกร์ (5 เม.ย.) ว่า หลายพื้นที่ในรัฐเท็กซัส ซึ่งเป็นหนึ่งในพื้นที่ยอดนิยมที่สามารถชมปรากฏการณ์ทางดาราศาสตร์ได้อย่างชัดเจน และมักจะมีนักท่องเที่ยวแห่เดินทางไปชมปรากฏการณ์นี้กันอย่างคึกคัก จะมีเมฆปกคลุมราว 60-80% ในวันจันทร์ (8 เม.ย.)
ขณะที่ศูนย์พยากรณ์อากาศ Weather Prediction Center คาดการณ์ว่า เมฆหมอกจะปกคลุมพื้นที่ตั้งแต่รัฐเท็กซัส อาร์คันซอ โอไฮโอ เพลซิลเวเนีย และทางตะวันตกของนิวยอร์ก นอกจากนี้ ยังคาดว่าจะมีเมฆปกคลุมในพื้นที่ส่วนใหญ่ของเม็กซิโกด้วย
อย่างไรก็ตาม พิกัดที่จะได้ชมปรากฏการณ์สุริยุปราคาเต็มดวงครั้งนี้ได้ชัดเจนกว่าที่อื่น อยู่ทางตอนเหนือของรัฐเวอร์มอนต์ นิวแฮมเชอร์ เมน ทางตอนใต้ของรัฐมิสซูรี และตอนกลางของอินเดียนา รวมทั้งบางพื้นที่ของแคนาดา
นอกจากนี้ ภูมิภาคนิวอิงแลนด์ มิสซิสซิปปี แวลลีย์ และโอไฮโอ แวลลีย์ รวมทั้งเมืองอินเดียนาโพลิส จะมีอากาศปลอดโปร่ง ซึ่งเหมาะแก่การชมสุริยุปราคาครั้งนี้ด้วยเช่นกัน
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า หลายพื้นที่ในสหรัฐที่โดยปกติมักจะมีท้องฟ้าแจ่มใสในเดือนเมษายน อาจต้องเผชิญกับเมฆปกคลุมในวันจันทร์นี้ (8 เม.ย.) ซึ่งอาจสร้างความผิดหวังให้กับผู้คนนับล้านในแถบอเมริกาเหนือ ที่เฝ้ารอชมสุริยุปราคาเต็มดวงครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2017 เป็นต้นมา
รายงานข่าวระบุว่า สภาพอากาศที่แปรปรวนจากพายุที่เคลื่อนผ่านตอนกลางของประเทศสหรัฐ และคลื่นความหนาวในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่งผลให้เกิดสภาพอากาศที่ไม่เป็นใจต่อการชมสุริยุปราคาครั้งนี้ อย่างไรก็ตาม ศูนย์พยากรณ์อากาศระบุว่า สภาพอากาศอาจเปลี่ยนแปลงได้อีกครั้งในวันจันทร์
เป็นที่คาดหมายว่า จะมีผู้คน 31.6 ล้านคนที่อยู่ในพิกัดได้ชมปรากฏการณ์นี้แบบเต็ม ๆ
โดยข้อมูลขององค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ หรือ NASA (นาซา) ชี้ว่า ครั้งนี้น่าจะมีผู้ได้ชมการเกิดสุริยุปราคาเต็มดวงในสหรัฐมากกว่าเมื่อครั้งก่อน ซึ่งเกิดในเดือนสิงหาคม 2017 (พ.ศ.2560) โดยครั้งนั้นมีผู้ได้ชมปรากฏการณ์ดังกล่าวราว 12 ล้านคน
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า หากพลาดชมสุริยุปราคาครั้งนี้ จะต้องรอไปถึงปี 2026 (พ.ศ.2569) แต่จะเห็นในพิกัดอื่น ๆของโลก ได้แก่ กรีนแลนด์ ไอซ์แลนด์ และสเปน ก่อนที่จะมีปรากฏการณ์นี้อีกครั้งในปี 2027 ซึ่งเห็นได้ที่สเปน และตอนเหนือของทวีปแอฟริกา โดยจะปรากฏให้เห็นเป็นเวลาถึง 6 นาทีครึ่ง
ส่วนประเทศในทวีปอเมริกาเหนือ จะต้องรอไปอีกยาว ๆ จนถึงปี 2033 เพื่อชมปรากฏการณ์สุริยุปราคาเต็มดวงอีกครั้ง แต่ในครั้งหน้านั้น จะเห็นได้จำกัดเพียงแค่ที่อลาสกา และในปี 2044 ก็จะเห็นได้ทางตะวันตกของแคนาดา ส่วนในสหรัฐ จะเห็นได้ชัดที่สุดในรัฐมอนแทนา และนอร์ธดาโกตา ก่อนที่ชาวอเมริกันในหลายพื้นที่ทั่วประเทศจะได้ชมปรากฏการณ์นี้แบบถ้วนหน้ากันอีกครั้งในปี 2045 หรืออีก 21 ปีข้างหน้า