ตามที่ได้มีรายงานข่าว การโจมตีอิหร่าน ในวันที่ 19 เมษายน 2567 โดยสถานการณ์ยังมีพัฒนาการและมีความไม่แน่นอนสูงนั้น วันนี้ (19 เมษายน 2567) นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ ได้มอบหมายให้ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ จัดการประชุมทางไกล ร่วมกับเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ, กรุงเตหะราน และกรุงอัมมาน เพื่อติดตามสถานการณ์ในพื้นที่ รวมถึงการเตรียมการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยขณะนี้ ยังไม่มีรายงานคนไทยในอิสราเอลและอิหร่านได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าวแต่อย่างใด
โดยที่ขณะนี้สถานการณ์ ยังมีความเสี่ยงและมีพัฒนาการที่ยังไม่สามารถคาดการณ์ได้ จึงขอแจ้งเตือนคนไทยให้พิจารณางดเว้นการเดินทางไปยังพื้นที่ดังกล่าว รวมถึงเฝ้าระวังสถานการณ์ ติดตามข่าวสารของทางการท้องถิ่น และจากสถานเอกอัครราชทูตไทยทุกแห่ง โดยเฉพาะสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ และสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเตหะราน
ทั้งนี้ กระทรวงการต่างประเทศได้หารือกับสถานเอกอัครราชทูตทั้งสองแห่งซึ่งได้ประสานทางการที่เกี่ยวข้องในการเตรียมความพร้อมในกรณีฉุกเฉินและหากมีความจำเป็นที่จะต้องมีการอพยพช่วยเหลือคนไทย สถานเอกอัครราชทูตฯ จะแจ้งให้ทราบต่อไป ในช่วงระหว่างนี้ หากพี่น้องคนไทยต้องการคำแนะนำหรือความช่วยเหลือเร่งด่วน สามารถติดต่อได้ดังนี้
สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ:
สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเตหะราน:
หรือ Call Center กรมการกงสุล 02 572 8442 (24 ชม.)
ทั้งนี้ ในส่วนของสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเตหะราน ยังได้โพสต์ข้อความแนะนำเพิ่มเติมทางเพจเฟซบุ๊กของสถานทูตวันนี้ (19 เม.ย.) ว่า ตามที่ปรากฏเป็นข่าวว่า ทางการอิหร่านได้ประกาศปิดการจราจรทางอากาศในบางพื้นที่เป็นการชั่วคราว ซึ่งรวมถึงกรุงเตหะราน เมืองอิสฟาฮาน และเมืองชีราซนั้น
บัดนี้ ทางการอิหร่านได้ประกาศเปิดการจราจรทางอากาศตามปกติแล้ว คนไทยที่มีกำหนดเดินทางหรือประสงค์เดินทางออกนอกอิหร่านในห้วงเวลานี้สามารถพิจารณาเดินทางได้ตามที่เห็นสมควร ทั้งนี้ สถานเอกอัครราชทูตฯ ยังคงติดตามพัฒนาการของสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างอิหร่านกับอิสราเอลอย่างต่อเนื่อง ขอให้คนไทยทุกท่านรักษาการติดต่อกับสถานเอกอัครราชทูตฯ ตลอดจนติดตามข่าวสารผ่านช่องทางต่าง ๆ โดยเฉพาะจากสถานเอกอัครราชทูตฯ อย่างใกล้ชิด
ในกรณีฉุกเฉิน สามารถติดต่อสถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ที่หมายเลขฉุกเฉินหรือที่ช่องทางต่างๆ ตามที่ได้ให้ไว้ข้างต้น