กระทรวงพาณิชย์สหรัฐ เปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 สำหรับผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 1/2567 เมื่อวันที่ 25 เม.ย.66 โดยระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 1.6% ในไตรมาสดังกล่าว ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 2.4%
การขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐในไตรมาส 1/2567 ได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของการใช้จ่ายของผู้บริโภค
สำหรับในปี 2566 เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 2.2%, 2.1%, 4.9% และ 3.4% ในไตรมาส 1, 2, 3 และ 4 ตามลำดับ
นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ในไตรมาส 1/2567 พุ่งขึ้น 3.4% ซึ่งสูงกว่าในไตรมาส 4/2566 ที่ปรับตัวขึ้น 1.8% ส่วนดัชนี PCE พื้นฐาน (Core PCE) ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน พุ่งขึ้น 3.7% สูงกว่าในไตรมาส 4/2566 ที่เพิ่มขึ้น 2.0% ทำให้นักลงทุนกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อที่พุ่งสูง ซึ่งจะเป็นปัจจัยทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ตรึงอัตราดอกเบี้ยในระดับสูงยาวนานกว่าที่คาดไว้
ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า รายงานตัวเลขจีดีพีประจำไตรมาส 1/2567 ที่ขยายตัวต่ำกว่าคาดการณ์ถือเป็นข่าวร้ายของนักลงทุน เนื่องจากสหรัฐมีการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่น่าผิดหวัง ขณะที่เงินเฟ้อยังคงพุ่งขึ้น
ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่าเศรษฐกิจสหรัฐขยายตัวต่ำกว่าคาดในไตรมาส 1/2567 ท่ามกลางเงินเฟ้อที่พุ่งสูง
"รายงานฉบับนี้ถือเป็นเรื่องแย่ที่สุดของ 'ทั้งสองโลก' โดยการขยายตัวทางเศรษฐกิจได้ชะลอตัวลง ขณะที่แรงกดดันจากเงินเฟ้อยังคงปรากฎอยู่"
"เฟดต้องการเห็นเงินเฟ้อเริ่มปรับตัวลงอย่างต่อเนื่อง แต่ตลาดต้องการเห็นเศรษฐกิจมีการขยายตัว และกำไรของภาคธุรกิจเพิ่มขึ้น ดังนั้น หากทั้งสองเรื่องนี้ไม่ได้ไปในทิศทางที่ถูกต้อง ก็จะถือเป็นข่าวร้ายสำหรับตลาด" นายคริส แซคคาเรลลี หัวหน้าฝ่ายการลงทุนของ Independent Advisor Alliance ระบุในรายงาน