ดีเบตยกเเรกปะทะเดือด กลุ่มทุนเดโมแครตจ่อบีบ "ไบเดน"ถอนตัวจากศึกเลือกตั้ง

28 มิ.ย. 2567 | 12:12 น.

ปธน.โจ ไบเดน และอดีปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ ประชันวิสัยทัศน์ครั้งแรกในฐานะ "ว่าที่" ตัวเเทนพรรคเดโมเเครตและรีพับลิกันในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐที่กำลังจะมีขึ้นปลายปีนี้ หลายฝ่ายมองว่าไบเดนเพลี่ยงพล้ำในยกแรก และกลุ่มทุนพรรคเดโมแครตเตรียมเคลื่อนไหวให้เขาถอนตัว

การดีเบตยกแรก ที่สตูดิโอ CNN เมืองแอตแลนตา รัฐจอร์เจีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ตามเวลาท้องถิ่น 21.00 น. ของวันที่ 27 มิ.ย. 2567 เปิดฉากดุเดือดเมื่ออดีตประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ วัย 78 ปี ว่าที่ตัวแทนพรรครีพับลิกัน ใน ศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ที่กำลังจะมีขึ้นในเดือนพฤศจิกายนนี้ กล่าวหาการบริหารประเทศของประธานาธิบดี โจ ไบเดน ว่า ทำให้สหรัฐอเมริกาเป็นเหมือนประเทศในโลกที่สาม “และนั่นก็เป็นเรื่องน่าอาย" สหรัฐในยุคไบเดนไม่ได้รับการเคารพอีกต่อไป ทรัมป์ยังกล่าวโทษด้วยว่าปธน.ไบเดนทำให้สหรัฐอเมริกา ดูโง่ในสายตานานาประเทศ

ทรัมป์กล่าวว่า โลกมีแนวโน้มที่จะเกิดสงครามโลกครั้งที่ 3 มากกว่าที่ทุกคนจะจินตนาการได้ เนื่องจากนายไบเดนไม่ได้รับความเคารพจากบรรดาผู้นำประเทศศัตรูของสหรัฐ โดยกล่าวว่า "พวกเขาไม่เคารพนายไบเดน และไม่กลัวนายไบเดนด้วย"

"ประธานาธิบดีคนปัจจุบันของสหรัฐนั้น ไม่ได้รับความเคารพจากนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน นายคิม จองอึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ และนายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย" 

อย่างไรก็ตาม ไบเดนไม่ได้ปล่อยให้ตัวเองถูกมัดมือชก ช่วงหนึ่งของการดีเบตครั้งแรกนี้ ไบเดนกล่าวโต้ตอบว่า นายทรัมป์ซึ่งเป็นว่าที่ตัวเเทนพรรครีพับลิกัน คือประธานาธิบดีที่ “เเย่ที่สุด” ในประวัติศาสตร์อเมริกัน เพราะเขาไม่มีความเข้าใจถึงประชาธิปไตยเเบบอเมริกัน

ประธานาธิบดีไบเดนวัย 81 จากพรรคเดโมแครตกำลังตกที่นั่งลำบาก หลายฝ่ายมองเขาพ่ายแพ้ในการดีเบตยกแรกนี้ (ภาพข่าวรอยเตอร์)

การประชันวิสัยทัศน์ยกแรกนี้ เกิดขึ้นก่อนวันเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐเป็นเวลากว่า 4 เดือน (การเลือกตั้งมีกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 5 พ.ย.2567) ถือเป็นการจัดดีเบตที่เร็วกว่าปกติ และเกิดขึ้นก่อนที่นายทรัมป์กับนายไบเดนจะได้รับการเสนอชื่ออย่างเป็นทางการจากพรรคของตนในการประชุมระดับชาติของพรรครีพับลิกันและเดโมแครตที่จะมีขึ้นในเดือนก.ค.และส.ค.ตามลำดับ

ไบเดน ว่าที่ตัวแทนพรรคเดโมแครต และทรัมป์ ว่าที่ตัวแทนพรรครีพับลิกัน ผลัดกันแสดงวิสัยทัศน์ตอบโต้กันด้วยท่าทีหลากหลาย ทั้งคู่ชี้แจงด้วยข้อมูลต่อประเด็นคำถามเกี่ยวกับวาระสาธารณะ แต่บางช่วงก็มีการปะทะคารมด้วยเรื่องส่วนตัว เช่น ความสามารถในการเล่นกอล์ฟ และเรื่องคดีความของทรัมป์ และเรื่องอายุของปธน.ไบเดน

ทั้งคู่เห็นเเย้งกันทั้งเรื่องเศรษฐกิจ ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ สิทธิการทำแท้ง และการข้ามพรมเเดนสหรัฐฯของแรงงานต่างด้าวจากเม็กซิโก 

ภายใต้กติกาการดีเบต ที่ให้ทั้งคู่ผลัดกันตอบคำถามและตอบโต้ โดยจะเปิดไมโครโฟนให้แก่ผู้ที่พูดอยู่เท่านั้น ทำให้การประชันวิสัยทัศน์รอบแรกนี้จบลงด้วยดี ไม่ซ้ำรอยการดีเบตยกแรกในการเลือกตั้งเมื่อปี 2020 ที่ครั้งนั้น ทั้งเนื้อหาและประเด็นต่างๆ ถูกรบกวนด้วยการพูดแทรกและการตะโกนใส่กัน

อย่างไรก็ตามปัญหาของปธน.ไบเดนเริ่มแสดงให้เห็นในวันนี้ ตั้งแต่การสะดุดประตูที่สตูดิโอของสำนักข่าว CNN และขณะที่กำลังกล่าวแสดงวิสัยทัศน์นั้น ปธน.ไบเดนได้กล่าวด้วยเสียงแหบแห้ง และก็มีอาการเหม่อลอยในบางครั้ง และต้องครุ่นคิดเป็นเวลานานก่อนที่จะตอบคำถาม นอกจากนี้ ในการตอบบางคำถาม ดูเหมือนว่า ไบเดนใช้หลักไวยากรณ์ที่ไม่ถูกต้อง จนทำให้นายทรัมป์ถึงกับเสียดสีว่า "ผมไม่รู้ว่าเขาพูดอะไรในตอนท้ายประโยคเมื่อสักครู่นี้ และผมไม่คิดว่าเขารู้ว่า เขากำลังพูดอะไรด้วยเหมือนกัน"

ความเห็นผู้ชมก่อนดีเบตสูสี แต่จบดีเบตทรัมป์นำโด่ง 

การจัดดีเบตครั้งแรกนี้ ดำเนินการและแพร่ภาพโดยสำนักข่าวซีเอ็นเอ็น (CNN) มีการจัดมาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างแน่นหนา โดยทางสถานีฯ ได้เสริมรั้วกั้นในพื้นที่ห้องส่งที่เป็นจุดจัดดีเบต นอกจากนี้ ยังมีการวางกำลังตรวจการณ์ของตำรวจและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด

ผลสำรวจของ CNN หลังดีเบตเสร็จสิ้นลงชี้ให้เห็นว่า ทรัมป์ชนะการอภิปรายแสดงวิสัยทัศน์ครั้งนี้อย่างชัดเจนที่ 67 ต่อ 33% และภายในพรรคเดโมเเครตของปธน.ไบเดนเอง ก็มีผู้เเสดงความกังวลต่อผลงานการประชันวิสัยทัศน์ครั้งแรกของเขา 

ผลการสำรวจความเห็นผู้ชมชี้ว่า คะเเนนทั้งคู่สูสีกันมาก (ภาพข่าวรอยเตอร์)

แตกต่างจากผลสำรวจช่วงก่อนการประชันวิสัยทัศน์ที่บ่งชี้ว่า นายไบเดน วัย 81 ปี และนายทรัมป์ วัย 78 ปี ซึ่งเป็นผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐที่มีอายุมากที่สุดนั้น มีคะแนนสูสีกันอย่างมาก

นักวิเคราะห์การเมืองหลายคนกล่าวว่า ชาวอเมริกันหลายล้านคนทราบเเล้วว่าตนเองจะเลือกใครเป็นประธานาธิบดีสหรัฐ แต่ผลสำรวจก็ยังสะท้อนให้เห็นว่า ผู้มีสิทธิลงคะแนนเลือกตั้งจำนวนมากไม่ได้ชื่นชอบทั้งทรัมป์และไบเดน

สำหรับผู้มีสิทธิเลือกตั้งอิสระที่ไม่สังกัดพรรคการเมืองใด หรือคนที่ไม่ได้ติดตามการเมืองอย่างใกล้ชิด การอภิปรายประชันวิสัยทัศน์ของตัวเเทนพรรคในลักษณะนี้ อาจช่วยให้พวกเขาตัดสินใจได้มากขึ้น การดีเบตครั้งต่อไปจะเกิดขึ้นวันที่ 10 ก.ย.2567 จัดโดยสถานีโทรทัศน์เอบีซี

การดีเบตครั้งแรกนี้ดูจะสร้างความสั่นไหวอย่างมากในฝั่งเดโมแครต โดยรายงานข่าวระบุว่า กลุ่มผู้สนับสนุนทางการเงินของพรรคเดโมแครตเริ่มตื่นตระหนก หลังเห็นผลงานการแสดงวิสัยทัศน์ที่น่าผิดหวังของประธานาธิบดีไบเดน และเตรียมกดดันให้เขาถอนตัวจากศึกเลือกตั้งครั้งนี้ 

"นี่คือหายนะ และแย่กว่าที่ผมคาดไว้ ทุกคนที่ผมพูดด้วยต่างคิดว่าไบเดนควรถอนตัวได้แล้ว" ผู้สนับสนุนทางการเงินรายหนึ่งกล่าว

ด้านที่ปรึกษาฝ่ายรณรงค์หาเสียงรายหนึ่งของพรรคเดโมแครตให้ความเห็นว่า "เกมจบแล้ว ไบเดนต้องไปแล้ว และต้องออกไปตอนนี้ ซึ่งถ้าเขาไม่ยอมออกไปเราจะแย่กันไปทั้งหมด" เขายังอธิบายว่า การดีเบตในวันนี้แย่กว่าที่โรนัลด์ เรแกน เคยทำไว้ในปี 2527 หรือที่จอร์จ ดับเบิลยู บุช ทำไว้ในปี 2547 รวมทั้งบารัค โอบามาในปี 2555 นั่นความหมายว่า ผลงานการดีเบตของปธน.ไบเดนในครั้งนี้ คือแย่ที่สุดแล้วเมื่อมองย้อนกลับไปในอดีต 

นางเคท เบดิงฟิลด์ อดีตผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารของทำเนียบขาว กล่าวว่า "นี่เป็นผลงานการดีเบตที่น่าผิดหวังมาก สิ่งสำคัญที่สุดที่ไบเดนต้องทำคือการพิสูจน์ให้ชาวอเมริกันเห็นว่าเขายังคงมีพลังและความแข็งแกร่ง แต่เขาก็ไม่สามารถทำได้"

ทั้งนี้ กลุ่มผู้สนับสนุนทางการเงินของพรรคเดโมแครตเตรียมเข้าพบนายเจมี แฮร์ริสัน ประธานคณะกรรมการแห่งชาติของพรรคเดโมแครตในวันนี้เพื่อหารือเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นในการดีเบตครั้งนี้