ผลสำรวจใหม่ของสำนักข่าวเอพีจัดทำร่วมกับศูนย์วิจัยกิจการสาธารณะ NORC (The Associated Press-NORC Center for Public Affairs Research) เปิดเผยว่า การประชันวิสัยทัศน์ครั้งแรก กำลังจะมีขึ้น แม้ว่าทั้ง ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ตัวแทน พรรคเดโมแครต และ อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่คาดว่าจะเป็นตัวแทน พรรครีพับลิกัน ใน ศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ในปีนี้ จะยังไม่ใช่ตัวเลือกที่ได้รับความนิยมในวงกว้าง แต่ก็ดูเหมือนว่า ณ เวลานี้ ทรัมป์ จะได้รับความสนับสนุนอย่างกระตือรือร้นจากฐานเสียงของเขามากกว่าประธานาธิบดีไบเดน
ประมาณ 6 ใน 10 ของประชากรวัยผู้ใหญ่ในสหรัฐฯ บอกว่า พวกเขามีแนวโน้ม “อย่างมาก” (very likely) ถึง “มากที่สุด” (extremely) ที่จะดูการดีเบตแบบสด หรือตามดูคลิป หรืออ่าน หรือฟัง ความคิดเห็นเกี่ยวกับการแสดงวิสัยทัศน์ของทั้งสองผู้สมัครในข่าวหรือสื่อสังคมออนไลน์
ผลสำรวจชี้ให้เห็นว่า คนอเมริกันหลายสิบล้านคนมีแผนจะดูหรือฟังบางส่วนของการดีเบตครั้งนี้ แม้ว่าจะเกิดขึ้นในช่วงต้นของแคมเปญซึ่งเป็นเรื่องไม่ปกตินัก ทั้งผู้สนับสนุนของไบเดนและทรัมป์มองว่าการดีเบตนี้เป็นบททดสอบที่สำคัญสำหรับผู้สมัครของพวกเขา หรืออย่างน้อยมันก็เป็นรายการที่น่าดูและไม่ควรพลาด
วิคตอเรีย เพอร์โดโม (Victoria Perdomo) แม่บ้านวัย 44 ปีจากเมือง Coral Springs ในรัฐฟลอริดา และเป็นผู้สนับสนุนทรัมป์ มองว่าการดีเบตครั้งนี้สำคัญมาก “มันแสดงให้เห็นว่าอเมริกาจะเป็นอย่างไรในสี่ปีข้างหน้า”
ขณะที่ นิค กรีน (Nic Greene) ผู้มีแนวคิดเสรีนิยมที่ลงทะเบียนเป็นอิสระ ไม่เป็นสมาชิกพรรคหนึ่งพรรคใด กล่าวว่า เขาอาจลงคะแนนให้ทรัมป์ในฐานะที่เป็น “ผู้สมัครที่แย่น้อยที่สุด” อย่างไรก็ตาม เขาไม่คิดว่าการดีเบตจะช่วยให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งตัดสินใจได้มากนัก แต่เขาคาดว่าจะได้รับความบันเทิงจากการดูรายการ และวางแผนที่จะฟังการวิเคราะห์หลังการดีเบตในพอดแคสต์ (podcast)
“ผมคิดว่าคนส่วนใหญ่ตัดสินใจอยู่แล้วว่าจะลงคะแนนให้ใครโดยไม่ต้องมีการดีเบต” เขากล่าว
ประมาณครึ่งหนึ่ง (47%) ของชาวอเมริกันกล่าวว่า การดีเบตนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อความสำเร็จสำหรับแคมเปญหาเสียงของไบเดน และประมาณ 4 ใน 10 กล่าวว่ามีความสำคัญอย่างยิ่งต่อแคมเปญของทรัมป์ ประมาณ 3 ใน 10 ของชาวอเมริกันที่ตอบการสำรวจกล่าวว่า การดีเบตครั้งนี้ อย่างน้อยก็มีความสำคัญมากต่อแคมเปญของทั้งสองฝ่าย
อาร์เธอร์ มอริส (Arthur Morris) ผู้จัดการฝ่ายปฏิบัติการวัย 40 ปี ทำงานที่บริษัทการเงินรายใหญ่ เป็นผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ยังไม่ตัดสินใจว่าจะลงคะแนนให้ใคร เขาเปิดกว้างให้กับทั้งไบเดน ทรัมป์ รวมทั้งผู้สมัครอิสระอย่างโรเบิร์ต เอฟ. เคนเนดี้ จูเนียร์ เขาและชาวอเมริกันส่วนใหญ่มีข้อสงสัยเกี่ยวกับความสามารถทางจิตของผู้สมัครที่มีอายุมาก และมองว่าการแสดงวิสัยทัศน์ของไบเดนในการดีเบตจะเป็นบททดสอบสำคัญเกี่ยวกับเรื่องนี้
“ผมต้องการให้ไบเดนแสดงให้เห็นว่า เขามีศักยภาพเพียงพอที่จะดำรงตำแหน่งนี้และปฏิบัติหน้าที่ในระดับที่เราต้องการ”
สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นซึ่งเป็นสื่อที่จัดการดีเบตครั้งนี้ เปิดเผยว่า จะมีผู้ดำเนินรายการ 2 คน แต่จะไม่มีผู้ชมในห้องส่ง ผู้ดีเบตทั้งสองคนเห็นด้วยที่จะปรากฎตัวบนโพเดียม ซึ่งตำแหน่งโพเดียมจะตัดสินจากการโยนเหรียญ ทั้งนี้ ไมโครโฟนจะถูกปิดในระหว่างที่อีกฝ่ายทำการอภิปราย จนกว่าจะถึงคราวที่ตนเองต้องพูด
บนเวทีอภิปรายจะไม่มีการตกแต่งด้วยของตกแต่งใด ๆ มีเพียงปากกา กระดาษ และขวดน้ำ 1 ขวดเท่านั้น
เจค แทปเปอร์ (Jake Tapper) และดานา แบช (Dana Bash) ผู้ดำเนินรายการประชันวิสัยทัศน์ครั้งแรกระหว่างไบเดนและทรัมป์ เป็นผู้ประกาศข่าวชื่อดังของซีเอ็นเอ็น พวกเขาจะใช้เครื่องมือและความสามารถที่มี ควบคุมเวลาในการดีเบต และทำให้มั่นใจว่าการดีเบตดังกล่าวจะเป็นการอภิปรายอย่างสุภาพ
สถานที่จัดการดีเบตในวันนี้ (27 มิ.ย.) ซึ่งจะเริ่มในเวลา 21.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น (ซึ่งช้ากว่าเวลาไทยราว 11 ชั่วโมง) คือ สตูดิโอของซีเอ็นเอ็นในเมืองแอตแลนตา รัฐจอร์เจีย ระยะเวลาของการดำเนินรายการ คือ 90 นาที โดยจะมีช่วงพักโฆษณา 2 ครั้ง และในระหว่างดีเบต ทีมหาเสียงไม่สามารถมีปฏิสัมพันธ์กับผู้สมัครของตนได้
ผู้ชมสามารถติดตามรับชมได้ทางช่องรายการและเว็บไซต์ของ CNN รวมทั้งการสตรีมสดบนแพลตฟอร์ม Max (หรือเดิมคือ HBO)
ทั้งนี้ ไบเดนและทรัมป์ ตกลงที่จะเข้าร่วมดีเบตผ่านรายการโทรทัศน์ 2 รายการ ครั้งแรกกำลังจะมีขึ้นในวันนี้ (27 มิ.ย.) และครั้งที่สองจะจัดและเผยแพร่ผ่านช่องเอบีซี ในวันที่ 10 ก.ย. 2567
ส่วนศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ จะมีขึ้นในวันที่ 5 พฤศจิกายนนี้