"รัฐบาลเวียดนาม" เตรียมการคุ้มครองพลเมืองในไทย ตามจำเป็น

17 ก.ค. 2567 | 06:07 น.
อัพเดตล่าสุด :17 ก.ค. 2567 | 06:24 น.

สื่อเวียดนาม เกาะติดคดีใหญ่ในไทย ฆาตกรรมหมู่ชาวเวียดนาม 6 ศพ กลางโรงแรมดังย่านราชประสงค์ รัฐบาลเวียดนามเตรียมการคุ้มครองพลเมืองในไทย ตามจำเป็น สั่งทูตฯเกาะติดคดีกับตำรวจไทยอย่างใกล้ชิด

สื่อมวลชนประเทศเวียดนามทุกสำนัก รายงานข่าวเหตุการณ์พบศพชาวเวียดนาม 6 รายในโรงแรมชื่อดังใกล้แยกราชประสงค์ กลางกรุงเทพมหานคร เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 16 กรกฎาคม ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด

จากการประมวลข้อมูลพบว่า สื่อเวียดนามรายงานตรงกันโดยอ้างอิงข้อมูลจากทางการของไทยคือ พนักงานโรงแรมพบศพ 6 ราย เป็นชาวเวียดนาม 4 รายและชาวอเมริกันเชื้อสายเวียดนาม 2 ราย เมื่อเวลา 16:30 น. วันที่ 16 กรกฎาคม คาดว่ากลุ่มคนเหล่านี้เสียชีวิตมาแล้ว 24 ชั่วโมงก่อนการพบว่าเสียชีวิต

พลตำรวจโทธิติ แสงสว่าง ผบ.ช.น.เปิดเผยว่ามี 7 คนที่จองห้องพักในโรงแรม โดย 4 ห้องอยู่ที่ชั้น 7 และ 1 ห้องอยู่ที่ชั้น 5 ซึ่งเป็นที่พบศพทั้ง 6 ราย เนื่องจากไม่มีสัญญาณการต่อสู้หรือร่องรอยฟกช้ำบนร่างกายของผู้เสียชีวิต ขณะที่อาหารของพวกเขายังคงเหลืออยู่ ตำรวจไทยสันนิษฐานเบื้องต้นว่า 6 คนนี้อาจเสียชีวิตเนื่องจากได้รับสารพิษจากการดื่มกาแฟหรือชาภายในห้อง

ฐานเศรษฐกิจ เจาะลึกการรายงานข่าวของสื่อเวียดนามแต่ละสำนัก พบข้อมูลที่เป็นรายละเอียดเพิ่มเติมที่แตกต่างกันในบางจุด 

 

เว็บไซต์ laodong.vn

ระบุว่าวันที่ 17 กรกฎาคมของ “กระทรวงการต่างประเทศเวียดนาม” ระบุว่า ทันทีที่ได้รับข้อมูลเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในโรงแรมที่กรุงเทพฯ ประเทศไทยเมื่อค่ำวันที่ 16 กรกฎาคม 2024 

กระทรวงการต่างประเทศ มีคำสั่งไปยังเอกอัครราชทูตเวียดนามประจำประเทศไทย Pham Viet Hung พร้อมเจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชทูตได้เดินทางไปยังที่เกิดเหตุและประสานงานอย่างใกล้ชิดกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไทย

โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของกระทรวงการต่างประเทศเวียดนามเพื่อติดตามสถานการณ์ ทำความชัดเจนข้อมูล ระบุอัตลักษณ์ของผู้เสียชีวิต และเตรียมการเพื่อคุ้มครองพลเมืองที่จำเป็น

เว็บไซต์ VOV.VN

รายงานข้อมูลการสืบสวนเบื้องต้นพบว่ามีชาวเวียดนาม 2 คนที่เป็นผู้เสียชีวิต ได้แก่ Chong Sherine อายุ 56 ปี และ Dang Hung Van อายุ 55 ปี ทั้งคู่ถือสัญชาติอเมริกัน ส่วนอีก 4 คนถือสัญชาติเวียดนาม ได้แก่ Nguyen Thi Phuong Lan อายุ 47 ปี, Pham Hong Thanh อายุ 49 ปี, Tran Dinh Phu อายุ 37 ปี และ Nguyen Thi Phuong อายุ 46 ปี

พร้อมกับระบุว่าทางเวียดนาม หลังจากได้รับข้อมูลเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้แล้ว ทำตามคำสั่งของกระทรวงการต่างประเทศ เอกอัครราชทูตเวียดนามประจำประเทศไทย Pham Viet Hung และเจ้าหน้าที่ของสถานทูตได้เดินทางไปที่เกิดเหตุและประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไทยเพื่อติดตามเหตุการณ์ ทำความชัดเจนของข้อมูล และยืนยันตัวตนของผู้เสียชีวิต พร้อมทั้งเตรียมการดำเนินมาตรการปกป้องประชาชนเท่าที่จำเป็น

 

เว็บไซต์ tuoitre.vn

รายงานโดยอ้างอิงข้อมูลจาก CNN ระบุว่า กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ออกแถลงการณ์ระบุว่าพวกเขา "ได้รับทราบรายงานเกี่ยวกับการเสียชีวิตของพลเมืองอเมริกัน 2 คนในกรุงเทพฯ" 

"เราขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวที่สูญเสียคนที่รัก เรากำลังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือด้านกงสุลแก่ครอบครัวเหล่านี้" นาย Matthew Miller โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวกับสื่อมวลชน

นาย Miller กล่าวเพิ่มเติมว่า "เมื่อใดก็ตามที่พลเมืองอเมริกันเสียชีวิตในต่างประเทศ หน่วยงานท้องถิ่นมีหน้าที่รับผิดชอบในการระบุสาเหตุการเสียชีวิต เรามักติดต่อกับหน่วยงานท้องถิ่นเมื่อมีพลเมืองอเมริกันเสียชีวิต และแน่นอนว่าเรากำลังทำเช่นนั้น"

ทราบว่าในวันที่ 16 กรกฎาคม รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ Antony Blinken ได้มีการโทรศัพท์กับรัฐมนตรีต่างประเทศของไทย Maris Sangiampongsa เพื่อแสดงความยินดีกับเขาในบทบาทใหม่

นาย Miller กล่าวว่าเขาไม่ทราบว่ากรณีนี้ได้ถูกกล่าวถึงในการสนทนาระหว่างรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ Blinken กับรัฐมนตรีต่างประเทศของไทยหรือไม่ การโทรศัพท์อาจเกิดขึ้นก่อนที่พวกเขาจะทราบข่าวการเสียชีวิตของพลเมืองอเมริกัน 2 คนในกรุงเทพฯ

 

เว็บไซต์ vtv.vn

รายงานท้ายข่าวแตกต่างจากสำนักอื่น โดยอธิบายบริบทของเหตุการณ์ว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงที่ประเทศไทยกำลังพยายามส่งเสริมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวซึ่งได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 และมีบทบาทสำคัญต่อเศรษฐกิจ โรงแรมที่เกิดเหตุเป็นโรงแรมระดับ 5 ดาว มีห้องพักกว่า 350 ห้อง ตั้งอยู่ในย่านท่องเที่ยวที่มีร้านอาหารและร้านค้าหรูหราจำนวนมาก

ก่อนหน้านี้ อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยต้องเจอเหตุการณ์ช็อคในเดือนตุลาคม 2566 จากเหตุการณ์ยิงกันที่ศูนย์การค้าหรูใกล้กับโรงแรมดังกล่าว ซึ่งทำให้ชาวต่างชาติ 2 คนเสียชีวิต
 

 

ขอบคุณที่มาข้อมูล