KEY
POINTS
การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ไม่ใช่แค่เรื่องนโยบายและความสามารถของผู้สมัครเท่าแต่ยังเป็นการแสดงถึงความสามารถในการระดมทุนเพื่อสนับสนุนการหาเสียง "เงินทุน" จึงมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนแคมเปญทางการเมือง ทั้งการโฆษณา การจัดงาน และการติดต่อสื่อสารกับผู้มีสิทธิเลือกตั้ง การเข้าถึงเงินทุนกลายเป็นตัวบ่งชี้ที่สำคัญในการแข่งขันทางการเมืองของสหรัฐฯ
เงินทุนสำหรับการเลือกตั้งเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้ผู้สมัครสามารถสื่อสารนโยบายและวิสัยทัศน์ไปถึงผู้มีสิทธิเลือกตั้งได้กว้างขวาง ไม่ว่าจะเป็นการใช้จ่ายเพื่อโฆษณาทางโทรทัศน์ กิจกรรมบนสื่อออนไลน์ หรือการจัดงานชุมนุมเพื่อพบปะกับประชาชน การระดมทุนที่มากกว่าจึงทำให้ผู้สมัครมีโอกาสในการเข้าถึงประชาชนและสร้างความสนใจได้มากขึ้น
แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าการระดมทุนจะเป็นปัจจัยที่ทำให้ผู้สมัครชนะการเลือกตั้ง เพราะแม้ว่าจะมีเงินทุนมากแค่ไหน การสร้างความไว้วางใจของผู้สมัครรวมทั้งความเชื่อมั่นจากผู้มีสิทธิเลือกตั้งด้วยนโยบายและการสื่อสารที่ชัดเจนก็เป็นปัจจัยที่สำคัญ
ปี 2024 (ข้อมูลถึงเดือนกรกฎาคม)
ปี 2020
ปี 2016
ปี 2012
ปี 2008
ปี 2004
ปี 2000
การระดมทุนของผู้สมัครแต่ละรายตั้งแต่ปี 2000 จนถึงปี 2024 จะเห็นได้ว่า พรรคเดโมแครตและพรรครีพับลิกันต่างใช้การระดมทุนเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนแคมเปญหาเสียง ตัวอย่างเช่น ในการเลือกตั้งปี 2008 บารัค โอบามา จากพรรคเดโมแครต ระดมทุนได้สูงถึง 1.2 พันล้านดอลลาร์ ถือเป็นยอดเงินที่สูงที่สุดในประวัติศาสตร์การเลือกตั้งสหรัฐฯ ในขณะนั้น เงินจำนวนนี้ช่วยให้โอบามาสร้างแคมเปญที่มีประสิทธิภาพและเข้าถึงผู้มีสิทธิเลือกตั้งได้อย่างน่าเหลือเชื่อ
นอกจากนี้ในปี 2016 และ 2020 โดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกันก็สามารถระดมทุนได้อย่างมหาศาล โดยเฉพาะในปี 2020 ที่เขาระดมทุนได้ถึง 832 ล้านดอลลาร์ แม้ว่าจะยังน้อยกว่าจำนวนเงินที่ โจ ไบเดน ระดมทุนได้ถึง 3.2 พันล้านดอลลาร์ในปีเดียวกัน
จากข้อมูลนี้จะเห็นได้ว่าครั้งสุดท้ายที่พรรครีพับลิกันระดมทุนได้มากกว่าพรรคเดโมแครตในการเลือกตั้งประธานาธิบดีคือในปี 2000
เมื่อพิจารณาจากจำนวนเงินที่ระดมทุนได้จนถึงตอนนี้ในปี 2024 ดูเหมือนตัวเลขนี้จะไม่เปลี่ยนแปลงไปมากนัก สำหรับบริบท ภายใน 36 ชั่วโมงหลังจากที่ โจ ไบเดนประกาศถอนตัวในศึกการเเข่งขัน รองประธานาธิบดีกมลา แฮร์ริสสามารถระดมทุนได้มากกว่า 100 ล้านดอลลาร์
ข้อมูลทั้งหมดมาจากคณะกรรมการการเลือกตั้งของรัฐบาลกลางซึ่งติดตามการระดมทุน การใช้จ่าย และตัวชี้วัดอื่นๆ ของการรณรงค์หาเสียง ซึ่งตัวเลขในอดีตไม่ได้ปรับตามอัตราเงินเฟ้อ
ในปี 2024 แม้จะยังไม่สิ้นสุดการแข่งขัน แต่ข้อมูลระดมทุนช่วงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ก็แสดงให้เห็นว่า กมลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครตระดมทุนได้สูงถึง 597 ล้านดอลลาร์ ขณะที่ โดนัลด์ ทรัมป์ ระดมทุนได้ 421 ล้านดอลลาร์ เเน่นอนว่าสองตัวเลขมีมูลค่าที่สูง แต่ยังคงห่างไกลจากยอดการระดมทุนของปี 2020 ที่สูงสุดถึง 3.2 พันล้านดอลลาร์ อาจเป็นผลมาจากการปรับตัวและวิธีการใช้เงินในแคมเปญ รวมถึงการเปลี่ยนแปลงในแนวโน้มการบริจาคของผู้สนับสนุนทางการเมืองในปัจจุบัน
การระดมทุนในการเลือกตั้งสหรัฐฯ ไม่ได้เป็นเพียงแค่ตัวบ่งชี้ของความมั่นคงทางการเงินของผู้สมัคร แต่ยังแสดงถึงความสามารถในการสร้างการสนับสนุนจากประชาชน ในขณะที่จำนวนเงินที่ระดมได้อาจมีผลต่อการเข้าถึงประชาชนและการรณรงค์หาเสียง แต่สุดท้าย การสื่อสารนโยบายที่ชัดเจนและการเชื่อมโยงกับความต้องการของประชาชนก็ยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่ตัดสินผู้ชนะในสนามการเมืองสหรัฐฯ
ที่มา