ตะวันออกกลางตึงเครียดหนัก หลังอิสราเอลสังหารผู้นำฮิซบอลเลาะห์

21 ก.ย. 2567 | 02:44 น.
อัปเดตล่าสุด :21 ก.ย. 2567 | 02:58 น.

ความตึงเครียดในตะวันออกกลางทวีความรุนแรงขึ้นอีกระดับ หลังจากกองทัพอิสราเอลโจมตีทางอากาศเมืองเบรุต เมืองหลวงของเลบานอน เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (20 ก.ย.) ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 14 ราย รวมถึงผู้บัญชาการระดับสูงของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวด้านความมั่นคงระบุว่า อิบราฮิม อาคิล ผู้บัญชาการคนสำคัญของฮิซบอลเลาะห์ เสียชีวิตพร้อมกับสมาชิกอาวุโสคนอื่นๆ ของหน่วยยอดฝีมือในการโจมตีครั้งนี้ โดยอาคิลถูกระบุว่าเป็นผู้บัญชาการรักษาการณ์ของหน่วยพิเศษราดวาน และนั่งอยู่ในสภาทหารสูงสุดของฮิซบอลเลาะห์

อิบราฮิม อาคิล ผู้บัญชาการคนสำคัญของฮิซบอลเลาะห์

ประชาชนตรวจสอบพื้นที่ที่อิสราเอลโจมตีในกรุงเบรุต

กองทัพอิสราเอลอ้างว่าอาคิลเป็นผู้รับผิดชอบแผนการบุกโจมตีทางตอนเหนือของอิสราเอล ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับการโจมตีของกลุ่มฮามาสเมื่อวันที่ 7 ตุลาคมที่ผ่านมา อันเป็นชนวนให้เกิดสงครามในฉนวนกาซา

นายเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล กล่าวว่าเป้าหมายของอิสราเอลชัดเจน และการกระทำของอิสราเอลพูดแทนตัวเองแล้ว

ด้านนายโยอาฟ กัลแลนท์ รัฐมนตรีกลาโหม ยืนยันว่าอิสราเอลจะดำเนินการทางทหารต่อไปจนกว่าจะสามารถรักษาความปลอดภัยในพื้นที่รอบชายแดนเลบานอนได้

ระบบป้องกันขีปนาวุธของอิสราเอล สกัดกั้นขีปนาวุธระหว่างการโจมตีจากเลบานอน

ฝ่ายฮิซบอลเลาะห์ ตอบโต้ด้วยการยิงจรวดคาทยูชาสองครั้งเข้าสู่อิสราเอลตอนเหนือ โดยอ้างว่าเป็นการโจมตีสำนักงานใหญ่ด้านข่าวกรองที่รับผิดชอบการลอบสังหาร

เหตุการณ์ครั้งนี้ถือเป็นการยกระดับความรุนแรงครั้งสำคัญ นับตั้งแต่ความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและฮิซบอลเลาะห์ ปะทุขึ้นเมื่อเกือบหนึ่งปีที่แล้ว ส่งผลให้ประชาชนหลายหมื่นคนต้องอพยพออกจากบ้านเรือนทั้งสองฝั่งของชายแดน

ผลพวงของ การโจมตีทางอากาศ ของอิสราเอลในเมือง Qabatiya ใกล้เมือง Jenin

นางจีนีน เฮนนิส พลาสเชิร์ต ผู้ประสานงานพิเศษแห่งสหประชาชาติประจำเลบานอน แสดงความกังวลต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เรียกร้องให้ยุติความรุนแรงโดยเร็ว ขณะที่นายจอห์น เคอร์บี โฆษกด้านความมั่นคงแห่งชาติของทำเนียบขาวสหรัฐฯ กล่าวว่าสหรัฐฯ จะพยายามทุกวิถีทางเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดสงคราม พร้อมเตือนชาวอเมริกันไม่ให้เดินทางไปเลบานอน

นักวิเคราะห์หลายรายแสดงความกังวลว่า ความขัดแย้งอาจขยายวงกว้างและทวีความรุนแรงขึ้นต่อไป ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพในภูมิภาคตะวันออกกลางและเศรษฐกิจโลกในระยะยาว

ที่มา: รอยเตอร์