อิหร่านเตือน อิสราเอลกำลังจุดชนวนสงครามตะวันออกกลางครั้งใหญ่

"เราไม่ต้องการสงคราม เราต้องการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ ไม่ปรารถนาจะเป็นสาเหตุของความไม่มั่นคงในตะวันออกกลาง อิสราเอลต่างหากที่พยายามสร้างความขัดแย้งครั้งใหญ่" 

เป็นคีย์เวิร์ดสำคัญ ที่ มาซูด เปเซชเคียน ประธานาธิบดีอิหร่าน ได้สื่อสารกับนักข่าว หลังจากเดินทางมาถึงนิวยอร์ก เพื่อร่วมการประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ เมื่อวันจันทร์ที่ 23 กันยายน 2567

ประธานาธิบดีอิหร่าน เน้นย้ำว่า  อิสราเอลต้องการลากตะวันออกกลางเข้าสู่ "สงครามเต็มรูปแบบ" โดยยั่วยุให้อิหร่านเข้าร่วมในความขัดแย้งที่ดำเนินมาเกือบ 1 ปีระหว่างอิสราเอลกับฮิซบอลเลาะห์ที่อิหร่านสนับสนุนในเลบานอน พร้อมเตือนถึงผลกระทบ "ที่ไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้

มาซูด เปเซชเคียน ได้รับเลือกตั้งในเดือนกรกฎาคม โดยสัญญาว่าจะมีนโยบายต่างประเทศที่ปฏิบัติได้จริง เเละกล่าวว่าประชาคมระหว่างประเทศนิ่งเฉยต่อสิ่งที่เรียกว่า "การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์" ของอิสราเอลในฉนวนกาซา

การเรียกร้องของเขา คือ ให้แก้ไขความขัดแย้งในตะวันออกกลางผ่านการเจรจา โดยเกิดขึ้นหลังจากที่อิสราเอลได้เปิดการโจมตีทางอากาศอย่างรุนแรงต่อฮิซบอลเลาะห์เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ทำให้เป็นวันที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดในเลบานอน ในรอบเกือบ 1 ปีของความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มที่อิหร่านสนับสนุน

"เราจะปกป้องกลุ่มใดก็ตามที่ปกป้องสิทธิและตัวเองของพวกเขา" ประธานาธิบดีอิหร่าน กล่าว เมื่อถูกถามว่า อิหร่านจะเข้าร่วมในความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลกับฮิซบอลเลาะห์หรือไม่ เขาไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติม

รอยเตอร์รายงานความเห็นของ โจเซป บอร์เรลล์ หัวหน้านโยบายต่างประเทศของสหภาพยุโรป ซึ่งอยู่ในนิวยอร์ก ที่อธิบาย สถานการณ์ว่าเกือบจะเป็นสงครามเต็มรูปแบบแล้ว โดยเรียกร้องให้ผู้นำโลกทำทุกวิถีทางเพื่อหยุดยั้ง

ประชาชนหลายหมื่นคนต้องพลัดถิ่นจากเมืองและหมู่บ้านทั้งสองฝั่งชายแดน เนื่องจากการยิงตอบโต้กันไปมาเกือบทุกวันระหว่างกองกำลังอิสราเอลและฮิซบอลเลาะห์ อิสราเอลกล่าวว่าต้องการทางออกทางการทูตที่จะทำให้ฮิซบอลเลาะห์ถอยห่างจากชายแดนมากขึ้น

เเต่ฮิซบอลเลาะห์ ก็บอกว่าต้องการหลีกเลี่ยงความขัดแย้งเต็มรูปแบบ เเละกล่าวว่ามีเพียงการยุติสงครามในฉนวนกาซาเท่านั้นที่จะหยุดการสู้รบได้ ความพยายามหยุดยิงอยู่ในภาวะชะงักงันหลังจากการเจรจาที่ล้มเหลวหลายเดือนโดยมี กาตาร์ อียิปต์ และสหรัฐฯ เป็นคนกลาง

นโยบายระดับภูมิภาคของอิหร่านถูกกำหนด โดยกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติชั้นสูง ซึ่งรายงานต่อผู้นำสูงสุด อยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี เท่านั้น ซึ่งเป็นผู้มีอำนาจสูงสุดของประเทศ

ประธานาธิบดีอิหร่าน ได้ยืนยันจุดยืนต่อต้านอิสราเอลของอิหร่านและการสนับสนุนขบวนการต่อต้านทั่วภูมิภาคอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งเมื่อเดือนที่แล้ว แต่เมื่อถูกถามว่าอิหร่านจะตอบโต้การลอบสังหาร อิสมาอีล ฮานิเยห์ ผู้นำกลุ่มติดอาวุธปาเลสไตน์ฮามาสบนดินแดนของตนในปลายเดือนกรกฎาคมหรือไม่ เขากล่าวว่า "เราจะตอบโต้ในเวลาและสถานที่ที่เหมาะสม ด้วยวิธีที่เหมาะสม"

การสังหารฮานิเยห์ ซึ่งทั้งอิหร่านและฮามาสกล่าวโทษอิสราเอล ได้ปลุกความกลัวว่าจะเกิดความขัดแย้งโดยตรงระหว่างอิหร่านกับอิสราเอล ซึ่งเป็นศัตรูกันมานานในภูมิภาคที่สั่นคลอนจากสงครามของอิสราเอลในฉนวนกาซาและความขัดแย้งที่เลวร้ายลงในเลบานอน

กองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติที่ทรงอิทธิพลและคาเมเนอีได้สาบานว่าจะแก้แค้นอย่างรุนแรง สำหรับการสังหารฮานิเยห์ ซึ่งเกิดขึ้นขณะที่เยือนเตหะราน จนถึงตอนนี้ เตหะรานยังคงยับยั้งการตอบโต้โดยตรงต่ออิสราเอล ซึ่งไม่ได้ยืนยันหรือปฏิเสธการมีส่วนร่วม

เจ้าหน้าที่ระดับสูง 3 คนของอิหร่านบอกกับ รอยเตอร์ในเดือนสิงหาคมว่า เตหะรานได้มีส่วนร่วมในการเจรจาอย่างเข้มข้นกับประเทศตะวันตกและสหรัฐฯ เพื่อปรับเทียบการตอบโต้ต่ออิสราเอลสำหรับการลอบสังหารฮานิเยห์

ประธานาธิบดีอิหราน กล่าวว่า ได้รับแจ้งว่าภายในหนึ่งสัปดาห์จะมีข้อตกลงหยุดยิง ระหว่างอิสราเอลกับฮามาสที่อิหร่านสนับสนุน แต่สัปดาห์นั้นไม่เคยมาถึง และแทนที่จะเป็นเช่นนั้น อิสราเอลกลับขยายการโจมตีต่อไป