ตะวันออกกลางบนปากเหว จับตาเซอร์ไพรส์ 7 ต.ค. ครบ 1ปี "อิสราเอล" Vs "ฮามาส"

04 ต.ค. 2567 | 01:21 น.
อัปเดตล่าสุด :04 ต.ค. 2567 | 01:25 น.

นักวิชาการ วิเคราะห์สถานการณ์ตะวันออกกลาง หลังอิหร่าน(Iran) เปิดฉากยิงขีปนาวุธใส่อิสราเอล(Israel) จับตาการสู้รบขยายสู่ "สงครามภูมิภาค" 7 ต.ค. อาจมีเซอร์ไพรส์จากกลุ่ม "ฮามาส"

สถานการณ์ในตะวันออกกลางยังไม่มีท่าทีจะสงบลง และอีกเพียงไม่กี่วัน จะถึงวันครบรอบ 1ปี ความรุนแรง “อิสราเอล” Vs “ฮามาส” ในดินแดนฉนวนกาซา รายการ “เข้าเรื่อง” เผยแพร่ทางช่องยูทูปฐานเศรษฐกิจ พูดคุยกับดร.ศราวุฒิ อารีย์  ผอ.ศูนย์มุสลิมศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อ วิเคราะห์สถานการณ์ตะวันออกกลาง เมื่อขณะนี้ความรุนแรงดูจะเพิ่มมากขึ้น

ดร.ศราวุฒิ กล่าวว่าตะวันออกกลางกำลังอยู่บนเหวของสงครามใหญ่ หลังจากอิหร่านยิงขีปนาวุธ 200 ลูกเข้าโจมตีอิสราเอลในคืนวันที่ 2 ต.ค. 2567 เพื่อตอบโต้อิสราเอล ที่ได้ข้ามเส้นแดงทั้งการสังหารฮัสซัน นัสรุลลอห์ ผู้นำของกลุ่มฮิซบุลเลาะห์ ซึ่งเป็นสิ่งที่อิหร่านจะยอมไม่ได้ อักทั้งอิสราเอลยังมีท่าทีที่จะยกกองกำลังเข้าไปยังเลบานอนอีกด้วย

สำหรับการที่อิหร่านได้เปิดฉากโจมตีตอบโต้มายังอิสราเอลนั้น ดร.ศราวุฒิวิเคราะห์ว่า เพื่อเป็นสร้างขวัญและกำลังใจให้กับกองกำลังติดอาวุธที่เป็นพันธมิตรกับตนเอง และเป็นการยืนยันถึงความแข็งแกร่งของอิหร่านเอง

จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น รวมถึงท่าทีของสหรัฐอเมริกาที่สนับสนุนอิสราเอลนั้น อาจทำให้สถานการณ์กำลังลุกลามบานปลาย จนกลายเป็นสงครามระดับภูมิภาคได้ โดยการเผชิญหน้าโดยตรงระหว่างอิหร่านกับอิสราเอล มีความเป็นไปได้ที่อิสราเอลจะตอบโต้ด้วยการโจมตีโครงสร้างพื้นฐานสำคัญของอิหร่าน เช่น โรงกลั่นน้ำมันหรือสถานที่พัฒนานิวเคลียร์ ซึ่งอาจนำไปสู่การตอบโต้เป็นลูกโซ่และขยายวงกว้างขึ้น

ส่วนสถานการณ์ในเลบานอน หากอิสราเอลตัดสินใจส่งกำลังทหารบุกเข้าไปปราบปรามกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ ซึ่งเป็นพันธมิตรของอิหร่าน อาจทำให้เลบานอนกลายเป็นสนามรบขนาดใหญ่ที่ดึงดูดนักรบจากทั่วภูมิภาคเข้ามาร่วมต่อสู้ หากสถานการณ์บานปลาย อิหร่านอาจตอบโต้ด้วยการคุกคาม โดยการปิดช่องแคบฮอร์มุซ ซึ่งเป็นเส้นทางขนส่งน้ำมันที่สำคัญของโลก โดยมีน้ำมันประมาณ 20% ของการค้าโลกผ่านช่องแคบนี้ การปิดช่องแคบดังกล่าวจะส่งผลกระทบรุนแรงต่อเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะราคาน้ำมันที่อาจพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว


อย่างไรก็ตาม ดร.ศราวุฒิมองว่าสหรัฐฯ ไม่ต้องการให้เกิดสงครามใหญ่ในภูมิภาค เนื่องจากจะส่งผลกระทบต่อผลประโยชน์ของตนเองในตะวันออกกลาง รวมถึงเศรษฐกิจโลกโดยรวม โดยเฉพาะในช่วงที่สหรัฐฯ กำลังเข้าสู่ฤดูกาลเลือกตั้งประธานาธิบดี แต่ทว่าปัจจุบันโลกกำลังเข้าสู่ยุคหลายขั้วอำนาจ ทำให้ประเทศขนาดกลางอย่างอิสราเอลและอิหร่านมีอิสระในการดำเนินนโยบายมากขึ้น โดยที่มหาอำนาจอย่างสหรัฐฯ จีน หรือรัสเซีย ไม่สามารถควบคุมได้อย่างเบ็ดเสร็จเหมือนในอดีต 

สำหรับ วันที่ 7 ตุลาคม ครบรอบ 1ปี ความรุนแรง “อิสราเอล” Vs “ฮามาส” ในดินแดนฉนวนกาซา ดร.ศราวุฒิ กล่าวว่าอาจจะมีเซอร์ไพรส์ ที่เป็นการเคลื่อนไหวของกลุ่มฮามาส เพื่อแสดงศักยภาพให้โลกเห็น ว่าตนเองยังมีศักยภาพในการต่อสู้กับอิสราเอลอยู่