26 ตุลาคม 2567 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า กองทัพอิสราเอลได้ดำเนินการโจมตีเป้าหมายทางทหารในอิหร่านในช่วงเช้าตรู่วันเสาร์ที่ 26 ตุลาคม 2567 โดยระบุว่าเป็นการตอบโต้การโจมตีอย่างต่อเนื่องจากรัฐบาลอิหร่าน
tasnimnews สื่อกึ่งทางการของอิหร่านรายงานว่า มีเสียงระเบิดดังหลายครั้งในกรุงเตหะราน เมืองหลวง และเมืองคาราจที่อยู่ใกล้เคียง แม้ทางการอิหร่านยังไม่มีความเห็นอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับที่มาของเสียงระเบิดดังกล่าว
อัลจาซีรารายงานว่า ได้ยินเสียงระเบิดอย่างน้อย 7 ครั้งในกรุงเตหะราน ของอิหร่าน โดยชาวเมืองเตหะรานรายหนึ่งบอกกับสำนักข่าวเอพีว่าได้ยินเสียงระเบิดอย่างน้อย 7 ครั้งรอบๆ เมืองหลวงของอิหร่าน ซึ่งทำให้บริเวณโดยรอบสั่นสะเทือน
กองทัพอิสราเอล แถลงยืนยันการโจมตี โดยระบุว่าเป็นการ "โจมตีอย่างแม่นยำ" ต่อเป้าหมายทางทหาร และเน้นย้ำว่าขณะนี้กองทัพอิสราเอลอยู่ในภาวะเตรียมพร้อมทั้งเชิงรุกและเชิงรับ พร้อมติดตามสถานการณ์จากอิหร่านและกลุ่มพันธมิตรอย่างใกล้ชิด
การโจมตีครั้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางความตึงเครียดที่เพิ่มสูงขึ้นระหว่างสองประเทศ หลังจากอิหร่านได้ยิงขีปนาวุธครั้งใหญ่เข้าใส่อิสราเอลเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม ซึ่งนับเป็นการโจมตีโดยตรงครั้งที่สองในรอบหกเดือน
ก่อนหน้านี้ทางการอิหร่านได้เตือนอิสราเอลหลายครั้งว่าไม่ควรเปิดการโจมตี โดยกล่าวว่าการโจมตีอิหร่านครั้งใดก็จะถูกตอบโต้อย่างรุนแรงกว่าปกติ
เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ เปิดเผยกับรอยเตอร์ว่า สหรัฐฯ ได้รับแจ้งจากอิสราเอลล่วงหน้าก่อนการโจมตีเป้าหมายในอิหร่าน แต่ไม่ได้มีส่วนร่วมในปฏิบัติการดังกล่าว
“เราเข้าใจว่าอิสราเอลกำลังดำเนินการโจมตีแบบเจาะจงต่อเป้าหมายทางทหารในอิหร่านเพื่อเป็นการป้องกันตนเองและเป็นการตอบโต้การโจมตีด้วยขีปนาวุธของอิหร่านต่ออิสราเอลเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม” ฌอน ซาเวตต์ โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติทำเนียบขาวกล่าว
ด้าน tasnimnews สื่อกึ่งทางการของอิหร่านรายงานว่า ยังไม่มีรายงานการระเบิดที่ศูนย์ทหาร IRGC ทางตะวันตกหรือตะวันตกเฉียงใต้ของเตหะราน
"เสียงที่ได้ยินนั้นเกี่ยวข้องกับการปฏิบัติการของระบบป้องกันภัยทางอากาศของกองทัพในสามพื้นที่รอบเตหะราน" เพื่อตอบโต้การโจมตีของอิสราเอล รายงานระบุโดยอ้างอิงจากแหล่งข่าว
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสาเหตุของเสียงระเบิดหลายครั้ง "จะมีการประกาศในภายหลัง" รายงานระบุเพิ่มเติม
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นหลังจากที่สำนักข่าว Fars รายงานว่า ฐานทัพทหารหลายแห่งทางตะวันตกและตะวันตกเฉียงใต้ของเมืองหลวงของอิหร่านถูกโจมตีโดยอิสราเอล ตามการสืบสวนเบื้องต้น
เมื่อเวลา 10.10 น. ตามเวลาประเทศไทย CNN รายงานว่า กองทัพอิสราเอลยืนยันเสร็จสิ้นปฏิบัติการโจมตีเป้าหมายในอิหร่าน
กองทัพอิสราเอล (IDF) ได้ออกแถลงการณ์ยืนยันการเสร็จสิ้นปฏิบัติการโจมตีทางอากาศอย่าง "แม่นยำและเฉพาะเจาะจง" ต่อเป้าหมายทางทหารในอิหร่าน โดยเครื่องบินทั้งหมดได้เดินทางกลับถึงฐานอย่างปลอดภัย
การโจมตีครั้งนี้มุ่งเป้าไปที่โรงงานผลิตขีปนาวุธที่อิสราเอลระบุว่าใช้ผลิตจรวดที่อิหร่านใช้ยิงเข้าใส่อิสราเอลในช่วงปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังโจมตีระบบต่อต้านอากาศยานและขีดความสามารถทางอากาศอื่นๆ ของอิหร่านที่มีไว้จำกัดเสรีภาพในการปฏิบัติการทางอากาศของอิสราเอล
แหล่งข่าวระบุว่าปฏิบัติการดังกล่าวประกอบด้วยการโจมตี 3 ระลอก โดยนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ได้ประเมินสถานการณ์จากฐานทัพคีรยาในเทลอาวีฟ พร้อมด้วยรัฐมนตรีกลาโหม หัวหน้าหน่วยงานความมั่นคงและข่าวกรองระดับสูง
ด้านอิหร่านรายงานว่ามีเสียงระเบิดดังขึ้นหลายครั้งรอบกรุงเตหะรานเมื่อเวลาประมาณ 02.15 น. ตามเวลาท้องถิ่น โดยเจ้าหน้าที่อิหร่านระบุว่าเป็นเสียงจากระบบป้องกันภัยทางอากาศที่ถูกนำมาใช้ในหลายพื้นที่ มีการเผยแพร่ภาพวิดีโอในโซเชียลมีเดียที่แสดงให้เห็นการยิงต่อต้านและการระเบิดบนท้องฟ้าเหนือกรุงเตหะราน
สำนักข่าว IRNA ของอิหร่านรายงานว่าสถานการณ์ในเมืองหลวงยังคง "เป็นปกติ" แม้จะมีเสียงระเบิดเกิดขึ้น ขณะที่สำนักข่าวกึ่งทางการอย่าง Tasnim และ Fars ต่างยืนยันว่ามีเสียงระเบิดดังขึ้นหลายครั้งในพื้นที่ทางตะวันตกของกรุงเตหะราน
ทั้งนี้ ปฏิบัติการดังกล่าวถือเป็นการตอบโต้ของอิสราเอล แม้ยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดเป้าหมายที่แน่ชัดและความเสียหายที่เกิดขึ้น
ด้าน
11.07 น. ตามเวลาประเทศไทย tasnimnews สื่อกึ่งทางการของอิหร่าน รายงานว่า ฐานป้องกันภัยทางอากาศของอิหร่านออกแถลงการณ์ ระบุว่า รัฐบาลอิสราเอลซึ่งเป็นระบอบที่ผิดกฎหมาย ไร้ความชอบธรรม ได้ยกระดับความตึงเครียดด้วยการโจมตีฐานทัพทหารบางแห่งในจังหวัดเตหะราน คูเซสถาน และอีลัม ในช่วงเช้าตรู่ของวันนี้
ระบบป้องกันภัยทางอากาศของอิหร่านสามารถสกัดกั้นและต่อต้านการรุกรานครั้งนี้ได้สำเร็จ แม้จะมีความเสียหายเกิดขึ้นบ้างในบางพื้นที่ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบขอบเขตความเสียหาย
แถลงการณ์ยังเรียกร้องให้ประชาชนรักษาความสามัคคีและความสงบ พร้อมทั้งไม่หลงเชื่อข่าวลือที่แพร่กระจายโดยสื่อของฝ่ายศัตรู