ไปสมุยถ้าไปอย่างลุยๆก็อย่าไปกินเลยกับข้าวโรงแรม ควรไปกินข้าวพื้นถิ่น ก่อนนี้ป้าลุงแห่งร้านกิ่งปะการัง ทำวายคั่วมาให้กิน กับแกงส้ม(เหลือง) และหมูโค
วายนี้ เปนคำสมุยเรียก octopus ว่า ปลาหมึกสาย /หมึกสาย// กร่อนเปนวาย มันไม่ใช่สัตว์ประหลาดอะไร ชั่วแต่ว่ามันหนึกและกรอบเหนียวกว่า squid_ปลาหมึกกล้วย วายเวลาคั่วนี่เขาทำคล้ายกับหลนภาคกลางนั่นแล ชั่วแต่ว่าใส่กะปิสมุยสีม่วงสวย ไม่คาว ลงไปกับตะไคร้ กะทิ แลน้ำตาลมะพร้าว คั่วเบาๆมิให้แตกมัน ใส่หอมแดงทุบ บางที่วายนี่ก็เอาไปแกงจืดกับใบชะมวงเปรี้ยวๆ กินคล่องคอดี
ส่วนว่าหมูโคนั้น ก็ไม่ใช่โควัว คนเก่าชาวสมุยเขาว่า โคนี้คือ คั่วรวนเค็ม ทำเอาไว้เพื่อเก็บไว้กินได้นานๆ เพราะเปนเกาะเดินทางกันทางเรือมันนานถ้าให้ดีเขาใช้หมูถิ่น_หมูขี้พร้า ตัวดำขนหนา เนื้อสวยมาทำ
หมูโค มันสุกโดยการต้มมาก่อน แล้วเอาไปทอดน้ำมันท่วม กินกับน้ำพริก_พริกไทย ซึ่งโขลกพริกไทยสดลงไปในกะปิสมุย น้ำพริกสกุลสมุยนี้รสเค็มเผ็ด ไม่ใส่เปรี้ยวเพราะเก็บไว้กินได้นานๆ เดี๋ยวจะบูดยามเดินทางไกล บางเจ้าเขากินสำรับพรรค์นี้กับข้าวมัน หรือบางเจ้ากินกับข้าวหุงด้วยน้ำมะพร้าว ให้รสโอชา
ส่วนผัดไทยสไตล์ปักษ์ใต้นั้น เขาผัดพริกแห้งกับกะทิเข้าเครื่องหัวหอม ไม่มีหรอกเต้าหู้/กุ้งแห้งถ้าว่าไปสุราษฯ ยังไม่ข้ามเรือไปสมุย ก็กินที่ท่าฉางใส่ผักเยอะๆ โรยถั่วและน้ำหวาน อร่อยดี
สุดท้ายนั้นคือเคยจี่ เอากะปิดีมาปาดบนกะลามะพร้าวแล้วเอาไปปิ้งเผา กลิ่นคาวจะหายกลายเปนกลิ่นหอม
ที่บางสวรรค์คราวนั้นไปเหมืองกินกันทีหนึ่งหน้าเหมือง เปนกะลาล้วนๆ จี่เคย ที่สมุยนี้กะลาไม่ล้วนยังมีเนื้อพร้าวอยู่ก่อนจะปาดกะปิดีลงไป ให้รสนวลเนียนกว่าเดิม
อนึ่งของสดคาวเขามีหอยเจาะ ซึ่งก็คือหอยอีรมตัวเล็ก กินกับน้ำยำเข้ากะปิ และไข่หอยเม่นห่อใบตองเผา อาหารอย่างนี้ เหมาะที่สุดกับไวน์ขาวชาบรีส์แช่เย็นเชี้ยบๆ
นสพ.ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 42 หน้า 18 ฉบับที่ 3,773 วันที่ 10 - 13 เมษายน พ.ศ. 2565