ทักษะการประเมินที่ไม่เกินประมาณ (7)

24 พ.ย. 2566 | 23:30 น.
อัพเดตล่าสุด :24 พ.ย. 2566 | 23:42 น.

ทักษะการประเมินที่ไม่เกินประมาณ (7) : คอลัมน์เปิดมุกปลุกหมอง โดย…ดร.สุรวงศ์ วัฒนกูล หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3943

รักจะเป็นจอมยุทธ์ต้องมีทักษะในการ “กะ!” คือ “คะเนความเหมาะสมที่น่าจะ…” อย่างเช่น ในหนังจีนเรื่อง ฤทธิ์มีดสั้น จอมยุทธ์ห่วงทอง (มือวางอันดับหนึ่ง) ประมุขของยุทธภพ ผู้มีลีลาหน้าไหว้หลังหลอกกะว่าจะฆ่า ลี้คิมฮวง จอมยุทธ์มีดสั้น (มือวางอันดับสาม) เสียให้ตาย โทษฐานเป็นคนดีที่น่าหมั่นไส้!

ลี้คิมฮวง พกมีดสั้นติดตัวเพียง 12 เล่ม จอมยุทธ์ห่วงทอง “ประมาณการ” ว่า การนัดดวลเอาเป็นเอาตายกันในครั้งนี้ จะใช้ “โล่แม่เหล็ก” ดูดมีดสั้นของ ลี้คิมฮวง ซะให้เกลี้ยงบั้นเอว  (ฮา) “หวัง!” คือ “ประเมิน” หมายถึง “วัดผลตามเกณฑ์ที่กำหนด” คิดเอาไว้ในใจล่วงหน้าว่า น่าจะดูดได้หมดทั้ง 12 เล่ม

 

วันรบพุ่งชิงชัยต่อกัน ทั้งสองคนหลบเข้าไปสู้กันในถ้ำ ข้างนอกหนาวจัด ขนาดเพดานถ้ำยังมีน้ำแข็งตัวย้อยคาเพดานลงมาเป็นสาย ในห้วงเวลาที่ จอมยุทธ์ห่วงทอง ดวลแบบคอขาดบาดตายกับ ลี้คิมฮวง

ปรากฏว่า อาฮุย ผู้ได้รับฉายามาจากชาวอาทิตย์อุทัยว่า จอมกระบี่ชินกันเซ็น เพราะว่าเขาเป็นจอมยุทธ์กระบี่ไว มัวแต่เมาเอาไหมากอดเล่นราวกับเป็นจอมยุทธ์อนุบาล มีคนมาท้วงติงว่าทำไมถึงไม่ไปช่วย ลี้คิมฮวง อาฮุย ก็รีบล้างหน้าคว้ากระบี่เผ่นไปโผล่ที่หน้าถ้ำได้ทันจังหวะ เนื่องจาก มีดสั้น 12 เล่ม โดน โล่แม่เหล็ก ดูดตรงปกเป๊ะ (ฮา)

ผมชอบวาทกรรมที่ จอมยุทธ์ห่วงทอง พูดแดกดัน อาฮุย ว่า “ผู้มีน้ำใจมาอีกคนหนึ่งแล้ว!” ว่าแล้ว จอมยุทธ์ห่วงทอง ก็ประกระบี่วัดใจ สู้กันมากันไป จอมยุทธ์ห่วงทอง เสือกกระบี่แทงตรงไหล่ขวาของ อาฮุย ดีที่ อาฮุย ใช้กระบี่ของตนตวัดตัดปลายกระบี่ของ จอมยุทธ์ห่วงทอง ได้ทัน ไม่งั้นมันจะทะลวงทะลุไหล่

ถึงกระนั้นก็ไม่วาย ปลายกระบี่ก็ยังหักคาไหล่จนได้ ลี้คิมฮวง เล็งปลายกระบี่ที่หักคาไหล่ของ อาฮุย ทำให้ จอมยุทธ์ห่วงทอง รู้แกวทันควันว่า “ปลายกระบี่หัก!” มันคือ “มีดสั้นเล่มที่ 13!” จอมยุทธทั้งสามหยุดขยับเพื่อตั้งรับคุมเชิง 

ผมนึกถึงภาพวาดที่มี หมา แมว หนู หยุดนึ่งอยู่กับที่ ไม่มีตัวใดคิดจะขยับเขยื้อน เพราะว่า ถ้า หนู วิ่งหนีก็จะโดนไม่ แมว ก็ หมา งับคอแน่เลย ถ้า หมา งับ หนู ก็จะโดน แมว ตะปบ ถ้า แมว งับหนู ก็จะโดนหมากัด ด้วยเหตุนี้แหละ ก๊กหนู ก๊กแมว ก๊กหมา จึงท่องคาถา “เฉยไว้แล้วดีเอง!” ม็อบประเทศไหนที่ฟัดกันตะพึด ควรจะพักรบมาเข้าคอร์สอบรมหลักสูตร “สามสัตว์เรียนลัดสามก๊ก”

ลี้คิมฮวง ยังคงเล็งปลายกระบี่หักแต่ยังไม่เคลื่อนไหว หันหลังในอึดใจใดก็น่าจะโดน จอมยุทธ์ห่วงทอง ถลาเข้ามาทางประตูหลัง (ฮา)

ฉับพลันทันใดนั้น ลี้คิมฮวง ก็พลิ้วสองจังหวะ จังหวะแรก ถลาเข้าไปคล้ายๆ กับจะดึงปลายกระบี่หักเอามาเขวี้ยง ยังไม่ทันจะได้กระพริบตา ลี้คิมฮวง เอียงตัวเปลี่ยนทิศทางกระโดดลอยตัวขึ้นไปใช้มือหัก ปลายน้ำแข็งย้อย จากเพดานถ้ำแปลงเป็น “มีดถ้ำน้ำแข็งใส” ใช้ขว้างปักคาคอ จอมยุทธ์ห่วงทอง ถึงกับสิ้นใจตาย เคสนี้ถอดรหัสสิ้นอายุขัยว่าผู้ตายหลักแหลมแต่ไม่ลึกล้ำ ประมาณการต่ำ! ประเมินผลเตี้ย!

“ประสิทธิภาพ” อาศัย ส่วนผสมสามสิ่ง คือ 1. ฉับไว 2. ปริมาณ 3. คุณภาพ หลักการนี้เรานำไปใช้ได้กับทุกกรณี อย่างเช่น จอมยุทธ์ห่วงทอง มีความฉับไวในการคิดจัดทำ โล่แม่เหล็ก การต่อสู่ก็รวดเร็วในแง่ ปริมาณ สามารถเรียกแผลได้ก่อน ดูดมีดสั้นจนคู่อริไม่มีอาวุธประจำตัว ด้าน คุณภาพ ก็สู้กัน 1 ต่อ 2 ไม่แน่จริงก็คงจะไม่ได้ชื่อว่าเป็น มือวางอันดับหนึ่ง 

เสียท่าตรงที่ ไม่คิดนอกกรอบเพิ่มว่า นอกจาก ปลายดาบหัก มันจะมีกลเม็ดนอกตำราอะไรอีก จึงไม่ได้สนใจ “มีดถ้ำน้ำแข็งใส” ถ้า จอมยุทธ์ห่วงทอง รู้ทันมุกนี้คงจะพอใจ ที่ตัวเองค้นพบกลเม็ดพิเศษได้ไม่น้อยหน้าไปกว่า ลี้คิมฮวง คุณลักษณะสำคัญที่ทำให้ ลี้คิมฮวง ขึ้นชั้นมาเป็น มือวางอันดับหนึ่ง ก็เนื่องมาจากเขามี ประสิทธิผล ในการ ช่วยผู้อื่น และ เอาตัวรอด มาได้ทุกนัด

“ประสิทธิผล” อาศัย ส่วนผสมสามสิ่งกับห้าอย่าง คือ 1. ฉับไว 2.ปริมาณ 3. คุณภาพ และ 4. เข้าใจอย่างลึกซึ้ง 5. ทำผิดรีบแก้ไข 6. ตั้งคำถาม 7. ทำตามกระแสความคิด 8. เปลี่ยนแปลง 

ลี้คิมฮวง เข้าใจอย่างลึกซึ้ง ว่า อะไร คือ อาวุธ หมายถึง สิ่งที่ไม่เคยใช้เป็นอาวุธแต่สามารถนำมาใช้เป็นอาวุธได้ แถมยังรู้จัก แผลง คือ สนใจ “มีดถ้ำน้ำแข็งใส” มีคุณลักษณะวัตถุดิบต่างกัน แต่มีรูปแบบในการใช้เหมือนกัน เรื่องอย่างนี้มันจะเกิดขึ้นมาได้ ก็ต่อเมื่อมีการตั้งคำถาม แล้วตอบคำถาม อยู่ “ในหัว” และ “ในใจ”

                              ทักษะการประเมินที่ไม่เกินประมาณ (7)

เก็งบ่อเมี้ย เป็นจอมยุทธ์สุดพิลึกตรงที่มีเกรดฝีมืออยู่ในระดับ มือวางอันดับสอง เป็นอย่างน้อย แต่ทว่า ไม่มีชื่อบันทึกอยู่ในระดับใดแม้แต่ระดับเดียว จอมยุทธ์มือวางอันดับสอง เคยท้าทายขอลองของกับ เก็งบ่อเมี้ย ก่อนจะสู้กันมีการแซะว่า “เอาผ้ามาห่มบ่มแขนไว้ให้มันพิลึกทำไม!”

เก็งบ่อเมี้ย กระชากผ้าคลุมแขนทิ้งแล้วชี้ให้ดูว่า “อักษรทุกตัวที่สักไว้บนแขน คือ ชื่อของคนที่โดนข้าฆ่า วันนี้หลังจากเราฆ่าเจ้า ยังไม่รู้เหมือนกันว่าจะสักชื่อของเจ้าเอาไว้ตรงไหน อ้อ มีสิ ข้าจะสักชื่อเจ้าตรงกำไลข้อมือนี่ไง” ว่าแล้วจอมลองของก็โดนฆ่าซะฉิบ (ฮา)

มีอยู่คราวหนึ่ง ลี้คิมฮวง เผชิญหน้าต่อสู้กับ เก็งบ่อเมี้ย ลูกเล่นที่ ลี้คิมฮวง นำเอามาใช้ในการเอาชนะคือ ไม่ขว้างมีดสั้นในแนวตรง เลือกที่จะขว้างในแนวเฉียงเอียงขวา แล้วมีดก็ลอยตามแรงเหวี่ยง ไปกระทบโขดหินซ้ายขวาหน้าหลังอยู่หลายครั้ง

ก่อนที่ เก็งบ่อเมี้ย จะแลเห็นว่ามีดพุ่งตรงมาตรงหน้าผากก็หลบไม่ทัน ก็ตัดสินใจยกมือขวาขึ้นมาป้องกันหน้าผาก มือขวาเสียสภาพจับดาบไม่ได้ การขว้างมีดสั้นที่ลอยกระทบชิ่งไปชิ่งมาแบบนี้คอหนังรู้เลย นั่นมันเทคนิกในการแทงชิ่งสนุกเกอร์นี่หว่า สงสัย ลี้คิมฮวง ใช้เวลาว่างแว่บไปหาลำไพ่ชัวร์ (ฮา)

คนอื่นเขามี ประสิทธิผล ไว้ใช้เป็นเครื่องมือในการ ประมาณการ กับ ประเมินผลลัพธ์ ในการครองตน และ ครองงาน บัดนี้เรามีครบทั้ง ประสิทธิภาพ ผนวกกับ ประสิทธิผล ครบถ้วน ชิ - ตัง - เม ดีแล้วใช่ไหม?