ครอบครัว 6.O ฉากที่ 3

วันหนึ่ง อวัยวะในร่างกายของตระกูลบอดี้ประชุมถกเถียงกันว่าใครควรจะได้เป็น “หัวหน้าครอบครัว” เริ่มที่ “สมอง” บอกว่า “ข้านี่แหละเหมาะสมเพราะข้าคิดทุกเรื่อง” ยังไม่ทันจะได้แสดงวิสัยทัศน์อะไรเพิ่มเติมก็มีเสียงของ “เท้า” แทรกเข้ามาว่า “ข้าต่างหาก เพราะข้าเป็นผู้นำพาทุกส่วนเคลื่อนไปยังจุดหมายที่ต้องการ” 

ธรรมเนียมขัดคอไม่รอช้า “มือ” ตัดบททันควันว่า “ข้าสิใช่ เพราะว่า ข้าใช้มือหาเงินมาเลี้ยงดูอุ้มชูพวกแก” บัดนั้น บรรยายกาศสภาครอบครัว เริ่มนัวเนียเมื่อ “ตูด” ดั้งท่าจะอาสาแต่ก็โดนม็อบอวัยวะเอะอะขวางลำว่า “พวกเราไม่ยอมให้ตูดเป็นหัวหน้าเด็ดขาด” เป็นเหตุให้ “ตูด” ไม่พอใจจึงงัดไม้ตายใส่เกียร์ว่างเลิกทำหน้าที่ 

เป็นเหตุให้อวัยวะทุกส่วนล้วนมีอาการปั่นป่วนจนต้องยอมลงมติให้ “ตูด” ขึ้นเป็น “หัวหน้าครอบครัว” ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ “ตูด” ก็อยู่เฉยๆ ขมิบมันไปวันๆ บทบาทแต่ละวันก็รอเวลาปล่อยอึออกมา

เพราะว่าศักยภาพของ “ตูด” มีเพียงทักษะเดียวที่โดดเด่น คือ ขมิบตูดขับถ่ายมันไปวันๆ (ฮา)

 

ผมเอา “นิทานครอบครัวบอดี้เลือกนาย” ที่อวัยวะเลือก “ท่านตูด” ขึ้นเป็น “หัวหน้าครอบครัว” ก็เพราะแฟนคลับเขาถามผมว่า “ในยุค ครอบครัว 6.O เราจะเลือกใครเป็นผู้นำบ้านเมือง” ผมก็รำพึงกับเขาว่า “ผมไม่ซีเรียสการสรรหาผู้นำประเทศ ผมสนใจระบอบที่จะนำมาบริหารบ้านเมืองมากกว่า!” 

ว่าแล้วก็งัดมุกล้อเลียนระบอบการปกครองที่กูรูอารมณ์ดี ปล่อยเข้าสู่กระแสสาธารณะ ผมถือว่ามุกนี้เป็นประวัติศาสตร์เก๋ากึ๊กทางการเมืองที่มีผลโดยตรงต่อ ครอบครัว 6.O แฟนคลับเขาส่งเสียงกู่ร้องว่า  เอา…อีก  เอา…อีก  ผมจึงเบิกเอามาแบเพื่อแชร์ให้ช่วยกันฉุกคิด

☆  ระบอบ ฟาสซิสม์

 รัฐบาล ฆ่าเจ้าของ ขายไป 1 ตัว ยิงทิ้งแก้เซ็ง 1 ตัว

☆ ระบอบ เผด็จการ

 รัฐบาล ยึดทั้ง 2 ตัว เข้ารัฐโดยไม่ยอมจ่ายค่าชดเชย

☆ ระบอบ คอมมิวนิสต์

 รัฐบาล ยึดทั้ง 2 ตัว เข้ารัฐเพื่อรีดนมแบ่งปันกันกิน

☆ ระบอบ สังคมนิยม

 รัฐบาล ยึดเข้ารัฐ 1 ตัว ให้เจ้าของครอบครอง 1 ตัว

☆ ระบอบ ราชการ 

รัฐบาล บังคับรีดนมวัวแล้วเอาไปทำหกเรี่ยราดทั่วเมือง

☆ ระบอบ ประชาธิปไตย

รัฐบาล ให้สิทธิอาชีพการเลี้ยงวัวภายใต้วินัยที่เหมาะสม

                         

ผู้ติดตามข้อเขียนที่ผมเอามานำเสนอไว้ใน  คอลัมน์เปิดมุกปลุกหมอง เขาถามผมว่า “ระบอบไหนเหมาะสมกับการบริหารบ้านเมือง?” ผมตอบโดยไม่ลังเลว่า  “เหมาะสมทุกระบอบ!”  

เขายังคาใจจึงถามผมเพิ่มเติมว่า “อะไรคือเหตุผลที่สรุปแบบนั้น?” ผมก็ไม่ลังเลที่จะยืนยันความเห็นดังกล่าวว่า “บ้านเมืองในยุค 6.O รัฐบาลระดับแนวหน้าควรจะใช้หลักผสมผสานในการบริหารสังคมมากกว่าสมัยก่อน เพราะว่าชาติพันธุ์จากต่างแดนจะเข้ามาค้าขายเชิงรุกมากขึ้น เป็นไปได้ที่จะมีการกระทบกระทั่งกันในแวดวงการค้า ถ้าเรานั่งกอดหลักการจัดการเพียงหลักเดียว หากมีปัญหาอย่างหนึ่งอย่างใดก็อาจจะแก้ไม่ง่ายไล่ไม่ทันมันก็จะยุ่ง”

ไหนๆ ก็ไหนๆ ผมก็เลยเล่า สตอรี่ทิพย์ ให้ แฟนคลับ ที่เอา แบ็ตเตอรี่ความคิด มาเสียบให้ผมเห็นภาพเพิ่มเติม จึงปรารภกับเขาแถมไปด้วยว่า

“โมกขศักดิ์” แปลว่า “เจ้าแห่งหอก” หมายถึง “ผู้มีฝีมือล้ำเลิศในการใช้หอก” สังคมยกย่องว่าเป็น VIP คือ Very Important Person “บุคคลสำคัญอย่างยิ่ง”

“ไอ้โมกขศักดิ์” แปลว่า “ไอ้หอก” หมายถึง “ผู้ที่ใช้หอกซี้ซั้วไม่คิดให้ชัวร์จึงแทงส่งเดช” สังคมมักจะนินทาว่า ViP คือ Very idiot Person “ผู้ด้อยปัญญาฝุดๆ” (หุย.....)

“ไอ้หอกหัก” แปลว่า “ไอ้คนเฮงซวย” หมายถึง “ผู้มีหอกที่หมดสภาพในการใช้งาน” (.....ฮา) สังคมส่ายหน้าว่าเป็น VeP คือ Very Error Person “ผู้สร้างปัญหาผิดพลาดทำให้ชาติเสียหาย” 

ลองนึกดูว่าถ้าเราเป็น เจ้าเมือง ซึ่งมี “ก๊กโมกขศักดิ์” กับ “ก๊กไอ้โมกขศักดิ์” และ “ก๊กไอ้หอกหัก” ปักหลักประชันกันอยู่ เราจะเลือกยุทธวิธีใดเอามาใช้จัดระเบียบ ให้ก๊กทั้งสามอยู่ในความสงบ หนึ่ง “เข้มงวด” กับ สอง “ยืดหยุ่น” กับ สาม “กันเอง” หรือว่า สี่ “ผสมผสาน”

อย่าลืมว่าหลังจาก อังกฤษ ส่งมอบ ฮ่องกง ให้ จีน ชาวโลกทั้งหลายก็ลุ้นกันตรึมว่า เจ้าสัว ใน ฮ่องกง จะต้องถอนตัวออกจาก ฮ่องกง เอาเข้าจริงๆ จีน ไม่ได้เอากรง ระบอบคอมมิวนิสต์ มาครอบ ฮ่องกง 100% เพียงแค่ประกาศหน้าตาเฉยว่า “จีนเป็นบ้านเมืองหนึ่งประเทศสองระบบ” ผมไม่ชอบระบอบคอมมิวนิสต์ แต่ไม่ชิงชังวิธีเช็คบิล “ไอ้มิจ” ที่แอบดูดเงินไทย จะผูกปิ่นโต “ร้านประชาธิปไตยล้วนๆ” กันไปถึงไหน?

วันไหนว่างก็ลองมโนดูจะนึกภาพออกว่า “ครอบครัว 6.O” จะต้องอยู่ด้วยกันแบบ “ผสมผสาน”