ครอบครัว 6.O ฉากที่ 15

16 ส.ค. 2567 | 23:00 น.

ครอบครัว 6.O ฉากที่ 15 : คอลัมน์เปิดมุกปลุกหมอง โดย...ดร.สุรวงศ์ วัฒนกูล หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 4016

ผู้ชายคนหนึ่งเดินเอ้อระเหยไปนั่งตกปลากลางลานน้ำแข็งกว้างใหญ่เป็นครั้งแรก หลังจากเขาเจาะรูแล้วหย่อนเบ็ดลงไปก็ได้ยินเสียงที่มีพลังดังขึ้นข้างหูซ้ายว่า “ใต้พื้นน้ำแข็งไม่มีปลา!” เขาลุกขึ้นเดินย้ายไปเจาะรูใหม่ กำลังหย่อนเบ็ดลงไปก็ได้ยินเสียงที่มีพลังดังอีกครั้งหนึ่ง

ที่ข้างหูขวาว่า “เอ็งเชื่อข้ากันบ้างสิ ใต้พื้นน้ำแข็งบริเวณนี้มันไม่มีปลา!” เขาก้มหน้าถามสวนกลับไปในขณะที่กำลังสาวเบ็ดกลับขึ้นมาว่า “ท่านคือพระผู้เป็นเจ้ารึไง ทำไมถึงได้ล่วงรู้จั๊ดนัก?” สุ้มเสียงอันทรงพลังเอ่ยดังผ่านลำโพงมือถือว่า “อั๊วะไม่ใช่พระเจ้า อั๊วะเป็นผู้จัดการลานสเก็ต ลื้อเข้าใจรึยังล่ะ ไอ้ซี้ซั้ว!” (ฮา) 

คนใจลอยมักจะเบลอเผลอไปสอยเอาสาวใจร้ายมาทำเมีย ก่อนที่จะตกลงปลงใจไม่เคยจับเข่านั่งเคลียร์กันให้ชัดเจนว่า ลายนิ้วมือฉันเป็นอย่างนี้ ดีเอ็นเอเธอเป็นอย่างไร อย่างเช่น เรากับเขาเล่ากันไปคุยกันมาก็แชร์ตัวเองให้รู้กันซึ่งหน้าว่า ผม? เป็นสุภาพบุรุษนะเว้ย และ เฮ้ย! กูเป็นสุภาพสตรีค่ะ หนุ่มสาวชาวตะวันตกเขาเปิดอกคุยกันเป็นว่าเล่น ขอแฉผสมแชร์สักนิดหนึ่งว่า 

ผมเคยจีบสาวคนหนึ่ง หลังจากคุ้นเคยกันพอสมควรผมก็บอกเขาว่า ผมชอบเลี้ยงแมว ไม่นิยมเลี้ยงหมา ผลปรากฏว่า เขาชอบเลี้ยงหมา เรียกหมาว่า ลูก! นึกขำอยู่ในใจว่า ผมจะปั้นหน้าอย่างไร ถ้าเขาเรียกผมว่า “ไอ้พ่อหมาเอ๊ย เอาสินบนใส่กาละมังให้ลูกกินหน่อยสิคะ!” (ฮา)

หลังจากฉากนี้ผมก็ไปกางฉากจีบสาวคนใหม่ ขึ้นต้นเป็น ลำไม้ไผ่! พอเหลาลงไปกลายเป็น บ้องกกหู!  

คบกันจนสนิทแต่ยังไม่ได้คลุกคลีเป็นสนม ออกเดทกันแล้วก็พาไปส่งถึงหน้าบ้าน บ้านเธอเป็นตึกแถวอยู่ติดกับร้านข้าวต้ม ไม่รู้ว่าเธอโกรธเรื่องอะไร มีอาการ งอนลึกลับ เดินเข้าประตูบ้านแล้วก็ใช้กำลังภายในดึงประตูเหล็กให้ลงมากระแทกพื้นอย่างแรง

เสียงสนั่นสะท้านฟุตบาทดังโครม ลูกค้าร้านข้าวต้มหันขวับมาเก็บข่าวกันทุกโต๊ะ เอกลักษณ์ลีลานี้มีรึจะสู่ขอ โชคดีที่สมัยนั้นยังไม่มีสมาร์ทโฟน ไม่งั้นผมจะกลายเป็น “เวไนยคลิป!” (ฮา)

ผู้เฒ่า เก๋ากว่า ผู้ทำเฒ่า ผู้ทำเฒ่า คือ ผู้ที่ทะลุกลางปล้องผยองอวดรู้งูๆ ปลาๆ งูๆ ปลาๆ น่าจะหมายถึง งูสองตัว กับ ปลาสองตัว สำหรับ ผู้เฒ่า ระดับท่านมัน งูๆๆๆๆ ปลาๆๆๆๆ ท่านมี บิ๊กดาต้า ว่าด้วย การครองชีวิต จึงตกผลึกนึกคิดอ่านขาดว่า หนทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์คน 

วัยรุ่นทุกยุคส่วนใหญ่มีคติซุ่มแฝงอยู่ในใจว่า หนทางพิสูจน์คัพ รูดซิพปั๊บพิสูจน์อึด ถ้า สอบผ่านด่านอึด จะเจอ สอบสัมภาษณ์ด่านอัฐ ถ้ารวยจัดให้อัฐก็ได้อีกหลายอึด ถ้าเงินฝืดเจอ ซอมบี้ 2540 ภูติผี 2554 ปิศาจ 2562 มองชัดได้เต็มตาว่าบัดนั้นครัวแตก โอกาสที่จะกอดคอช่วยกันถ่อทั้งดาบนี้ และดาบหน้าเหมือนยุคโบราณ รับประกันว่าฝันหวานแบบนั้นยุคนี้มีน้อย

ยุคใหม่ คุณแม่ เอ่ยถาม ท่านลูก ว่า “อาหารเช้า ท่านลูก ชอบเมนูอะไร” ท่านลูก พูดแบบขอไปทีว่า “ทำๆมาเหอะ จะกินหรือไม่กินประเดี๋ยวก็รู้เอง”

ด้วยผลพวงนี้ คุณแม่ ได้รับใบรับรองว่าท่านเป็น คุณแม่ดีเด่น คือ X-Ray ดูแล้วยืนยันว่า “ดี” เริ่มมีอาการ “เด่น” ว่าต้องรีบบำบัด เครียดจัดจน ดี เปลียนสภาพ เพราะได้ยินแต่คำที่ลูกปฏิเสธว่า ไม่ๆๆๆๆ

ท่านลูก ที่มีอารมณ์คึกคะนอง จกหัวใจของ พ่อ แม่ เอาไปดองในขวดโหลแล้วโชว์ “คอมเมนท์เช็ด” กรีดทุกเม็ดว่าตนเองซวยเกิดผิดที่ ของใช้ไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน ขอกราบเท้ากระซิบท่านลูกท่านนั้น ให้จัดสรรเวลาไปแกะรอยต้นตระกูลของ “เพือนคู่หูหรูล่อมิจ”

                        ครอบครัว 6.O ฉากที่ 15

ดูให้ชัดสิว่า ต้นตระกูลเขาแต่ปางบรรพ์ ท่านเหล่านั้นจน หรือ รวย ถ้าพ่อเขาเป็น รัฐมนโท ลองเช็คดูสิว่า ทวดของทวดของทวด ของเขาได้เป็น รัฐมนโท ด้วยหรือเปล่า ถ้าเพื่อนแซวว่า พ่อเราเป็นคนธรรมดา เข้าข่าย กระจอก ทวดของทวดของทวด ของพ่อเขาเคยเป็นคนธรรมดา เราสรุปได้เช่นกันว่า ต้นตระกูลของเขาก็ สตาร์ทอัพจากระดับกระจอกเหมือนกัน  ระวัง…ขว้างงูไม่พ้นคอ! 

ชีวิตหลังแต่งงานของสามีกับภรรยาชาวอินเดียครอบครัวหนึ่ง แต่งแล้วหย่า 3 ครั้ง ด้วยสันดานสามัญประจำตัวเป็นเหตุ คือ เมื่อใดที่ สามี กับ ภรรยา รู้สึกขัดใจ เพราะมีความเห็นต่างกัน สามี เครดิตสูงส่งกว่า เขาเรียนจบชั้นประถม แต่ทว่า มีเมียเรียนจบ ป.เอก ภรรยาเธอเรียนจบ ป.เอก แต่ มีผัวเรียนจบชั้นประถม (ฮา) 

ทะเลาะตบะแตกทีไร ภรรยาก็จะด่าทับถมสามีบ่อยครั้งว่า “มึงมัน…ไอ้โง่!”

ท่านพ่อ บางสายพันธุ์ก็ใช่ย่อย ดอดไปซื้อ เครื่องจับศรีธนญชัย มันจะส่งเสียงดัง บี๊บ ทุกครั้งที่มีคนพูดโกหก ติดตั้งเข้าที่ก็ประเดิม ท่านลูกชาย กลับบ้านตอนบ่าย พ่อถามทันทีว่า “วันนี้ปักหลักอยู่ที่โรงเรียนไม่ได้ไปไหนใช่ไหม?” ท่านลูกชาย บอกว่า  “ใช่ครับ” เครื่องจับศรีธนญชัย ไม่รอช้า ส่งเสียง  “บี๊บ” ฉับพลัน ท่านลูกชาย รีบสารภาพว่า  “โอ.เค. โอ.เค. ผมอยู่ในโรงหนัง” เครื่องจับศรีธนญชัย ยังคงส่งเสียง  “บี๊บ” เช่นเคย ท่านลูกชาย รีบสารภาพอีกครั้งว่า  “เอาล่ะ ผมไปดื่มเบียร์กับเพื่อนๆ”

ท่านพ่อ ขยี้ซ้ำ “สมัยที่พ่ออายุเท่าแก ไม่เคยแยแสที่จะซด!” เครื่องจับศรีธนญชัย ส่งเสียง “บี๊บ”

ท่านแม่ ชอบใจ “ฮ่าๆ! สมกับเป็นลูกของคุณจริงๆ!” เครื่องจับศรีธนญชัย ส่งเสียง “บี๊บ..บ..บ” (ฮา)

“ชุดความใช่!” เหล่านี้จะมีท่านใดเชื่อหรือไม่เชื่อก็ไม่ว่า ผมวาสนาดี ที่มีธรรมะเป็นกล้องส่องถูกจุดจึงจำไว้ในจิตว่า ควรจะจับผิดผู้อื่นให้จับผิดตนเองก่อน ชนะตัวเองก่อนแล้วค่อยย้อนไปชนะสิ่งอื่นใด คนที่คิดดูแคลนใครต่อใคร นั่นก็เพราะไม่รู้ไม่เข้าใจว่าตนเองก็เคยเป็นเช่นนั้นมาแล้วเช่นกัน