ครอบครัว 6.O ฉากที่ 10
ครอบครัว 6.O ฉากที่ 10 : คอลัมน์เปิดมุกปลุกหมอง โดย...ดร.สุรวงศ์ วัฒนกูล หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 4009
ครูถามศิษย์ว่า “ถ้าเธอมีเงินอยู่หนึ่งดอลลาร์ เธอขอจากพ่ออีกหนึ่งดอลลาร์ เธอจะมีเงินเท่าไหร่?”ศิษย์ตอบครูว่า “หนึ่งดอลลาร์ครับ!” ครูติงศิษย์ว่า “อาการหนักนะเธอ โจทย์ง่ายแค่นี้ คำนวณไม่เป็น!” ศิษย์แซวครูว่า “ครูใช้สูตรคำนวณทิพย์นะครับ ขอตังค์พ่อยากกว่าขอหวย ขอตังค์แม่ได้แน่ครับครู” (ฮา)
ไลฟ์สไตล์ของครอบครัวตัวอย่างที่ต้องใส่ใจ คือ ความเป็นมา ความเป็นอยู่ และ ความเป็นไป เพื่อความเข้าใจง่ายในความเป็นมา ขอยกตัวอย่างเทียบเคียงในกรณีที่เศรษฐกิจผันผวน จึงมีผลตัดรอนทำให้สภาพการเงินผันผวน ผู้เฒ่า Gen X พูดถูก “ควบรวมกิจการ” คือ คนเดียวหัวหาย สองคนเพื่อนตาย
แซ่เป็ด จะตกลงเป็นทองแผ่นเดียวกับ แซ่ไก่ มันจะเกิดขึ้นได้หลังจาก อ้าปากเห็นไส้ติ่ง ใครจริงใครเท็จ ต้องขอดเกล็ดเช็คเนื้อ ทัศนคติ ก่อนที่จะลงนามเห็นชอบ เนื่องจาก “ทัศนคติ!” คือ “ธงฉลองชัย!" เป็ด กับ ไก่ นิสัยแตกต่าง ผู้ใดเอาอะไรโยนลงกลางฝูงเป็ด สะเก็ดข่าวรายงานว่าอย่างเก่งคงจะขยับ หรือ เขยิบ แต่จะไม่ขยายวง
ใครเอาอะไรโยนลงกลางฝูงไก่ก็จะเห็นได้ชัด จะไก่บ้าน หรือ ไก่วัดถ้าสมาธิแตก ฮือวิ่งกระพือปีกแบบตัวใครตัวมัน สงสัยจะต้องขอแรงนักวิจัยให้ช่วยไปสัมภาษณ์ดูเชิงไก่สิว่า พี่ไก่ เคยอยู่พรรคไหน! (ฮา)
ดังนั้น ธนาคารเป็ด กับ ธนาคารไก่ ก่อนจะตัดสินใจเซ็นอนุมัติ ต้องส่ง แม่สื่อ ไปล้วงดู DNA กันก่อน
เจ้านาย “คุณเชื่อเรื่องชีวิตหลังความตายไหม?
ลูกน้อง “ไม่เชื่อ มันไม่มีหลักฐานยืนยันอ่ะครับ
เจ้านาย “เฮ้ย! มีสิ ทำไมจะไม่มี
ลูกน้อง “ยังไงเหรอครับ
เจ้านาย “เมื่อวาน คุณบอกผมตอนเที่ยงว่า จะรีบไปงานศพลุง ตอนแรกผมเองก็ไม่เชื่อนะ ตอนเย็นหลังจากคุณออกไปแล้ว ลุงของคุณมาตามหาคุณ ผมก็บอกลุงคุณไปว่า คุณคงจะรดน้ำศพลุงอยู่มั้ง” (ฮา!)
ต้องดูกันอีกนะว่า ความเป็นอยู่ เริ่มมีปฏิกิริยาเป็น เวไนยเป็ด เวไนยไก่ หรือ เวไนยสัตว์ปีก
หากทุกสาขาทุกแผนกพร้อมใจกันวางตัวเป็น เวไนยสัตว์ปีก แสดงว่า ไม่แบ่งพรรคแบ่งพวก โอกาสใดจัดงานสังสรรค์ควรจะสลับไปนั่งให้ครบทุกโต๊ะ ใครนั่งติดหนึบเกาะโต๊ะ แซ่เป็ด จะโดนตั้งฉายาว่า ไอ้เป็ดหลงฝูง
ลูกที่ไปสังสรรค์กับสาวสวย ก็นับว่าเป็นวาสนา แต่ถ้าไม่เคยซื้อทุเรียนไปให้แม่โดยมีข้ออ้าง นี่ นั่น โน่น นู้น ว่า “แม่มีตังค์เยอะ ให้ผู้ช่วยงานบ้านไปซื้อเองก็ได้” คงจะต้องถามกลับว่า เราเคยซื้อของฝากจากเมืองนอกมาให้เพื่อนตั้งหลายครั้ง แต่เขาไปเมืองนอกไม่เคยซื้ออะไรมาให้เราบ้างเลย ชีวิตจิตใจจะเป็นหนึ่งเดียวกันได้อย่างไร
การออกเดทจึงเป็นหนึ่งในยุทธวิธี ที่อยากจะดูไต๋เพื่อพิสูจน์ว่า เป็ด กับ ไก่ จะครองใจกันได้สักกี่น้ำ
• นู๋เป็ด “ทานข้าวเที่ยงแล้วหรือยัง”
• ไอ้ไก่ “นั่นสิ กินข้าวเที่ยงหรือยัง”
• นู๋เป็ด “ฉันถามคุณ?”
• ไอ้ไก่ “ผมถามคุณ?”
• นู๋เป็ด “เลียนแบบฉันเหรอ”
• ไอ้ไก่ “ผมเลียนแบบเหรอ”
• นู๋เป็ด “งั้นไปชอปปิ้งกันเถอะ!”
•ไอ้ไก่ “กินขนมจนเดินไม่ไหว!”
• นู๋เป็ด “เป็ดหิ้วปีกไก่ให้นะคะ!”
• ไอ้ไก่ “หิ้วพี่ไปส่งที่เล้านะจ๊ะ!” (ฮา)
เป็นไปได้อยู่แล้วที่ทุกคนในหมู่คณะ จะต้องหวานอมขมกลืน สำคัญตรงที่ ถ้าทุกคนยังเห็นความสำคัญ ให้ร้องเพลงปลุกใจ “หาก พี่ไก่ ยังอยู่ เป็ด ยืนยง ต่างไม่แตกมั่นคง กล้วย…กล้วย หาก-อ๊งค์-กร พินาศลง ครอบครัวอยู่ ได้ฤา เป็ดและไก่ มอดม้วย หมด…สิ้น อดกินไข่” (ฮา) ดังนั้น เราต้องเร่งช่วยกันพัฒนา ให้เส้นทาง ความเป็นไป ทุกจุดสามารถยกระดับสมดุลกันแบบต่างฝ่ายได้
ร้านขายของชำที่เปิด 24 ชั่วโมง เมื่อเราไปถึงหน้าร้าน คนเฝ้าร้านกำลังล็อคประตูปิดร้าน เราก็ท้วงติงว่า “ป้ายระบุว่า เปิด 24 ชั่วโมง ไม่ใช่เหรอ” เขาพูดหน้าตาเฉยว่า “ใช่ แต่ไม่ให้ผมพักเลยเรอะ" (ฮา)
“ครัว” ของใครไม่มี
“จิตสำนึก” มา “ครอบ” มันไม่ต่างอะไรไปจาก “โซนโคลนดูด”
บินเกศ เข้าไปใน ร้านขาย Apple เขาเผลอตัวผายลม สิ้นเสียงเขาก็พูดราวกับเรียนจบกฎหมายอย่างเชี่ยวชาญว่า “เป็นความผิดของ ร้านขาย Apple เพราะว่า ไม่มี WINDOWS!" (ฮา)