ครอบครัว 6.0 ฉากที่ 13

สหาย สายวัด เล่าว่า “ลูกชายผมหัวไว ถ้าชิ่งไม่ทัน แต่งงานกับสาวคอลเซ็นเตอร์ คงแย่แน่ๆ เลย!" มิตร สายโลก เล่าว่า “ลูกสาวผมเขาสมบูรณ์แบบ ไม่สูบบุหรี่ วิสกี้ไม่จิบ เขาเป็นแม่บ้านได้แน่ เพราะเขาเฮฮากับคนในบ้านตลอดวัน ไม่ทะเลาะกับครู ไม่อยู่กับแว๊นซ์ขี้ยา ไม่ตามใครเข้าในโรงแรมม่านรูด เธออยู่ในระดับยืนหนึ่ง"

สหาย สายวัด คิดแทนลูกชายว่า ลูกเรายังพอจะมีหวังได้ภรรยาระดับ ยืนหนึ่ง จึงรีบเปิดอกถามว่า “ลูกสาวคุณอายุเท่าไหร่?" มิตร สายโลก ถอยสองก้าวแล้วตอบว่า “พุธหน้าอายุจะครบหกเดือน!" (ฮา)

คนยุคไหนที่คิดเช่นนี้ หวังจะหาคู่ให้พ้นเคราะห์แบบขอไปที แล้วเราจะเอาอะไรมาประกอบให้ครอบครัวผาสุก

ผมขออนุญาต “หัวล้านนอกตำรา" บัญญัติเรื่องขำขันเหล่านี้ว่า “มุกมุมมอง" เนื่องด้วย ตอนจบ จะ “ปิดฉากด้วยความเฮง" หรือ “รูดม่านด้วยความซวย" ล้วนแล้วแต่สะท้อนให้ ขบคิด และ ขบขัน ตามรอย เหตุ กับ ผล ปกติมักจะยกประโยชน์ให้ “จำ (เอาไว้) เลย" ว่า “มุกคือศิลปะ" และ “มุกมีคติพจน์" ในมุมใดมุมหนึ่งซึ่งสามารถจะนำไปขยายความให้เข้าใจง่าย อย่างเช่น “คุยกันให้ได้ศัพท์ก่อนจะจับไปกระเดียด" 

มุกนี้คงจะซาดิสม์ คิดเสียว่ากำลังนั่งอยู่ในโซนคาเฟ่ คือ คอนโดแห่งหนึ่งถูกไฟไหม้ รถดับเพลิงมาช้า ชาวบ้านตะโกนดังลั่นว่า “แม่เขาอยู่ชั้น 8 ยืนอุ้มลูกพิงอยู่ตรงหน้าต่าง มีใครช่วยรับเด็กให้หน่อยได้ไหม?” 

นักกีฬารักบี้สมัครเล่น เดินผ่านมาเห็น จึงชูมืออาสาตะโกนเสียงดังลั่นเช่นกันว่า “ผมพร้อมแล้ว โยนมาเลย!” แม่ทิ้งทารกลงมา นักกีฬารักบี้ รับได้  “จึ้ง” คือ ตะลึงพรึงเพริด สุดที่จะ “โจ๋ง” คือ โพนทะนากันครึกโครม ตลกร้ายรายนี้ หลังจากรับเด็กได้แล้ว ก็จับเด็กหมุนตัวเอาหัวแทงลงไปในดิน ตะโกนลั่นว่า “ทัชดาวน์!" (ฮา)

นักเทศน์ลัทธิอิสระประจำวันอาทิตย์ดูญาติโกโหติกา นั่งหันหน้าฟังเทศน์กันอย่างเคร่งขรึม ก็รู้สึกปลื้มจิต ครั้นเมื่อกวาดสายตาเจอชายหนุ่มวัยฟิต นั่งอ้าปากยิ้มแป้นอยู่แถวหลังสุด ท่านก็ตั้งใจเทศน์ส่งเสียงดังเป็นพิเศษส่งซิกส์เตือนว่า “สมาชิกลัทธิอิสระต้องสำรวม ถ้าไม่ให้เกียรติสถานที่ อาจจะถูกฟ้าดินลงทัณฑ์สิ้นลมในเร็ววัน" 

หนุ่มวัยฟิตยังคงนั่งอ้าปากยิ้มแป้นเหมือนเดิม นักเทศน์ลงจากแท่นเดินเข้ามาตำหนิว่า “เธอน่าจะเข้าใจในสิ่งที่ฉันเตือนว่า สมาชิกของโบสถ์ลัทธิอิสระที่ไม่สำรวม มักจะตายไม่สวย เธอยังยิ้มอ้าปากกว้างขวางไม่แยแสเลย!" 

หนุ่มวัยฟิตยังยิ้มไม่หุบ เขาพูดช้าๆ กับนักเทศน์ว่า “ผมไม่ได้ยิ้ม ปากผมมันอักเสบ (ฮา) ผมเข้ามานั่งแช่แอร์ในโบสถ์เพื่อจะดับร้อน มันดีกว่านั่งที่บ้าน เพราะว่าช่วงนี้ค่าไฟแพง!" (ฮา) ที่ท่านเป็นห่วงว่า ฟ้าดินจะลงโทษ สมาชิกลัทธิอิสระ อย่าห่วงเลยครับ เพราะว่า ผมไม่ได้เป็นสมาชิกของโบสถ์นี้ (ฮา)

จริตไม่ใช่โรคระบาด ผู้หญิงไม่ได้ผูกขาด “มโนจริต" การพูดทึกทักก่อนจะถามไถ่ในทำนองกล่าวหา ไม่ใช่นิสัยของเพศใดเพศหนึ่ง การให้ร้ายเดาสุ่มเกิดขึ้นได้จากหลาย แผลใจ หรือ คะนอง หรือ คนขี้คุยเป่าหู 

อย่างเช่น คน Gen Z บางคน นินทาหักหน้า ผู้เฒ่า ในทำนองที่ว่า รู้น้อยกว่าเด็กยุคจึ้ง อยากรู้เหมือนกันว่าเด็กสมัยนี้ ลอกการบ้าน ตามรอย ท่านผู้มีอายุยืน หรือเปล่า (ฮา) 

จะอะไรก็ช่าง ผมตั้งใจจะเขย่าความทรงจำซึ่งทำให้ สามี กับ ภรรยา ยังอาศัยอยู่ในครอบครัวเดียวกันนานกว่ายุคนี้ เพราะว่า ผู้เฒ่า ท่านเตือนบ่าวสาวว่า สามีกับภรรยาจะอยู่เย็นถ้าอยู่เป็น คือ ทำเป็น หูหนวกข้างหนึ่ง ตาบอดข้างหนึ่ง ไม่รู้ไม่ชี้ อย่าไปจู้จี้ปัญหาจิ๊บๆ

อาชีพ พ่อ เป็น ทนาย ท้าทาย ลูกสาว และ ลูกชาย แบบ กันเอ๊ง กันเอง ว่า ถ้าใครคิดคติพจน์ชวนหัวได้เฉียบจะได้รางวัล คือ เสื้อสไตล์ลำลอง ราคาต้องไม่เกินหลักพอเพียง อาชีพ แม่ เป็น ผู้พิพากไปตามประสา หน้าที่ของเธอ คือ ตัดสินซะดีๆ (ฮา) 

ลูกสาว วัยใสไม่รอกรรมการนับ หนึ่ง… สอง… เธอล้วง รอยหยักในสมอง เอามาใช้แทน ใบมีดโกนโยน “คำคม" ลงใน A4 ว่า “รักฉาบฉวย คือ การฉวยคำว่ารักมาตีให้มันกระหึ่มแทนฉาบ วันที่นัดออกเดทขับรถ Pichup มารับ “เต็มที่!" จูบกอดผ่านไปไม่ถึงปี ขับ Benz ซิ่งหนีอ้างว่า “ที่เต็ม!" (ฮา) 
ลูกชาย ออกลีลาทำท่า งมเข็มในมหาสมุทร จุดพลุ

“คติพจน์" ผลิดอกออกโรงน่าสนใจไม่น้อยเลยว่า “ถือสาอะไรกับ ปัญหา เพราะว่า ปัญหา กับ ปัญหา เขายังแย่งชิงกันเองไม่เกรง หน้า IN หน้า OUT ปัญหา ไร้มารยาทตรงที่เขาไม่สนใจการเข้าคิว โชคลาภ มีมารยาทมากกว่า ปัญหา จะเอาความเฮงมาส่งให้แต่ละที ไม่มีคำว่า แซงคิว ลาภลอย ใช่ว่าจะลอยโลดลิ่ว เขาลอยชิวๆเหมือนเดินอยู่ในทุ่งกุลาร้องให้!" (ฮา)

พ่อ นี่แหละอีหลีขนานแท้ คิดมุกแซวแม่แบบไม่กลัวข้อหา ละเมิดอำนาจใต้เท้า เขียนมุกสุดกริ๊บไว้ว่า

แม่ถามพ่อว่า “พรุ่งนี้วันพระใหญ่ เราปล่อยปลาคางเหลืองกันดีไหมคะ" พ่อก็บอกแม่ว่า “ปล่อยพี่เป็นอิสระทุกวันพระ ได้บุญดีกว่าเยอะ!" (ฮา)

กิจกรรมครอบครัวหรรษาในรอบนี้ ลูกสาว กับ ลูกชาย แม่ซื้อ เสื้อและกางเกงห่านคู่ ให้คนละหนึ่งชุดลูกๆ สงสัยว่า พ่อ คงจะได้ของขวัญพิเศษ เห็นกราบงามๆ อยู่ในห้องพระชั้นสอง แวะชะโงกดู กลายเป็นว่า พ่อ กำลังกราบขอขมา แม่ โทษฐาน พ่อ ไม่สำนึกว่าสุขภาพแข็งแรงเพราะ “แม่นม!" เป็นผู้เลี้ยงดู (ฮา)

สามีภรรยาอย่าลืมนะครับว่า เราทั้งสองหาคู่ไว้เป็นกัลยาณมิตร เหตุผลที่คนโบราณขอให้ ลูกชาย บวชก่อนเบียด เพราะว่า เวลาโกรธกันก็จะลดลาวาศอก ข้อแรก เราไม่ได้หาแฟนมาเป็นกระสอบทราย! ข้อสอง คนที่บวชแล้วสึกเขาเรียกกันว่า ไอ้ทิด! ถ้าเขาลือกัน “โจ๋ง" ว่า “ไอ้ทิดเตะเมีย! ... ไอ้ทิดเตะเมีย!" ประเดี๋ยวปัญหา : มันจะแห่กันมาแซงคิว  ยับยั้งชั่งใจ ไม่ช้าไม่นาน ลาภลอย : เขาจะเข้าคิวเอามาส่งให้เราถึงมือ