LLOY Bistro กับข้าวปากพนัง

28 ต.ค. 2566 | 23:22 น.
อัปเดตล่าสุด :30 ต.ค. 2566 | 08:31 น.

LLOY Bistro กับข้าวปากพนัง คอลัมน์อิ่ม_โอชาฯ โดย Joie de La Cuisine

ปากพนังเป็นเมืองรุ่งเรืองมาแต่ไหนแต่ไร เพราะชัยภูมิเป็นพื้นที่สามเหลี่ยมปากแม่น้ำ (Delta) มีแต่ความอุดมสมบูรณ์ภักษาหาร ธัญญาหาร มาแต่โบราณกาล
 
พระบาทสมเด็จพระชนกาธิเบศรฯ เสด็จปากพนังมีพระมหากรุณาธิคุณไพศาล ทรงวางระบบชลประทานน้ำเค็มแยกน้ำจืดที่ปากพนัง เพื่อชุมชนประมง, ชุมชนเกษตร อยู่ร่วมกันอย่างผาสุกไพบูลย์
 
พระราชทานนามประตูน้ำสำคัญแห่งนี้ว่า “อุทกวิภาชประสิทธิ์” แปลว่า คุม/สามารถแบ่งแยก(วิภาช) น้ำ (อุทก) ได้สำเร็จดี (ประสิทธิ) ทำหน้าที่กั้นน้ำเค็มมิให้เข้ามาน้ำจืด, กักน้ำจืดไว้ให้ดำรงชีพได้โดยสมบูรณ์ เปนความสำคัญทางวิศวกรรมภูมิศาสตร์โดยแท้
 
ดินปากพนังก็มีความเค็มกร่อยกำลังเหมาะ เกษตรกรปลูกส้มโอผลโตๆ ได้รสหวานอมเปรี้ยว สีสันแดงก่ำงามงดในนาม “ส้มโอทับทิมสยาม” ปลากระบอกปากพนังตัวโตๆเนื้อแน่นไข่เต่งรัดเต็มท้อง ทำปลาร้าแห้งๆแบบปักษ์ใต้ก็ได้ ทำแกงส้ม (แต่สีเหลือง) ใส่คูน(ออ)ดิบ ยิ่งอร่อย ขาดไม่ได้เลยคือหมี่ผัดปากพนัง เป็นสไตล์งานผัดเส้นหมี่เส้นเล็กโดยละเลงเครื่องพริกแห้งหอมแดงเข้ากับกะทิคั้นสดๆข้นๆมันๆ อันจะทำให้เส้นอันเหนียวนุ่มนั้นซับดูดความโอชะไว้ได้เต็มอัตรา แถมยังส่งประกายวาววาบสวยงามน่าพิศวง 


 

วันนี้คิดถึงปากพนังไม่ต้องไปไกลที่ชานกรุงเทพ ละแวกนวมินทร์24 ใกล้กับสวนนวมินทร์ภิรมย์บึงน้ำกว้างใส ยังมีคนครัวปากพนังแท้ๆยืนหยัดเปิดร้านสวยใสติดแอร์ให้บริการกับข้าวปากพนังอย่างเต็มรสฝีมือ ส้มโอทับทิมสยามของดีปากพนังนั้นมาสดๆจากสวนที่บ้านเขาปลูกเอง เอาแกะกลีบยำแห้งๆกับกุ้งสดลวกสะเด็ดน้ำ ซอยหอมแดงเจียว เข้าเม็ดมะม่วงหิมพานต์ พริกขี้หนูสับบีบมะนาว รสชาติสดชื่นวาบวาวปาก 
 
หมูฮ้องซึ่งควรออกเสียงว่าฆ้อง หั่นชิ้นโตๆทั้งหนัง ทำกรรมวิธีปักษ์ใต้ใส่เหล้าจีนตอนหมักนุ่มเนียน กินแนมแกงเหลืองปลากะพงสดใส่ออดิบซึ่งซับน้ำแกงเสียชุ่ม ได้รสได้ชาติเข้ากันดี๊ดีเป็นปี่ขลุ่ย 
 
ปลาทรายตัวย่อมๆ เอาทอดขมิ้นกรอบกร๊วบกินได้ทั้งก้างไม่ระคายปาก ข้างผัดหมี่สกุลปากพนังทำมาถูกต้องเงางามตามตำรับตำรา ลอยเรือมาเสิร์ฟอย่างน่าสนใจ รับประทานกับกุ้งเล็กรวนน้ำพริกผัดหมี่ใส่กะทิ จะกินก็บีบมะนาวเล็กน้อยพริกป่นไม่ต้องเขาใส่ละเอียดมาให้เเล้ว

นอกนี้ยังมีกุ้งผัดกะปิใส่สะตอรสชาติคมคาย รวมถึงแกงใต้อื่นๆอีกมาก ส่วนท่านที่มึนๆซึมๆง่วงๆไม่แจ่มใส ขอให้สั่งใบชะมวงต้มขาหมูมาสักหม้อไฟ ซดโฮกเข้าไปได้รสเปรี้ยวสุขุมของชะมวงใบอ่อน-สดชื่น หายล้าได้ทันควันของจานเดียวจำพวกราดหน้าก็มีรสชาติเข้าทีมีไข่ไก่ตอกใส่น้ำราดหน้าเป็นสายๆด้วย_สวย
 
ของหวานล้างคอมีเครื่องดื่มฟองๆเจือหวานเจือขมทั้งไทยเทศ บางคราวยังมีวงดนตรีสดมาเล่นเพลงขับกล่อมให้อีก แหม..น่าไปนั่งยามลมหนาวพัดมาปลายปีนี้..

 

นสพ.ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 43 หน้า 18 ฉบับที่ 3,935 วันที่ 29 ตุลาคม - 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566