สมุดบันทึกสูตรอาหาร หม่อมเจ้าจงจิตรถนอม ดิศกุล ทรงเขียนด้วยลายพระหัตถ์
เป็นพระธิดาพระองค์ใหญ่ในสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ประสูติแต่หม่อมนวม ดิศกุล ณ อยุธยา (สกุลเดิม โรจนดิศ) มีพระนามลำลองว่า ท่านหญิงใหญ่เมื่อเยาว์วัยประทับอยู่ในพระราชสำนักของสมเด็จพระปิตุจฉาเจ้า สุขุมาลมารศรี พระอัครราชเทวี และมีความสามารถในการทำอาหารเป็นอย่างดี
หม่อมเจ้าจงจิตรถนอม ดิศกุล ฝีพระหัตถ์ในการปรุงอาหารและพระโอษฐ์ในการชิมของท่านไม่ด้อยกว่าของคนอื่น ๆ แต่ท่านมัก โปรดรับสั่งอยู่เสมอว่าท่านไม่ได้เป็นผู้เชี่ยวชาญในการครัว ไม่ได้คิดทำอาหารและให้ชื่ออาหารแปลก ๆ ใหม่ ไม่เคยเขียนตำรับตำรา ที่ทำอยู่ก็จำมาจากคนอื่น ไปเห็นเขาทำแล้วก็จำมาบ้าง ไปเสวยแล้วอร่อยจึงขอตำราเขามาบ้าง เพราะฉะนั้นจึงไม่ประสงค์จะอวดอ้างในเรื่องนี้
ผู้ที่เคยได้รับเลี้ยงอาหารจากหม่อมเจ้าหญิงจงจิตรถนอมมาแล้ว คงจะเห็นพ้องกันว่า ฝีพระหัตถ์ในการปรุงอาหาร และพระโอษฐ์ในการชิมของท่านไม่ด้อยกว่าของคนอื่น ๆ ได้เคยมีคนมาทูลแนะนำและขอร้องท่านหลายครั้งให้ทรงเปิดโรงเรียนสอนทำกับข้าวบ้าง ให้ทรงเขียนตำราอาหารขายและเป็นวิทยาทานบ้าง เพราะเป็นที่รู้กันในหมู่ญาติมิตรว่าท่านโปรดทำอาหารต่าง ๆ ทั้งของไทยและต่างประเทศ แต่ท่านทรงปฏิเสธไปทุกครั้ง โดยถ่อมองค์ว่า “คนอื่น ๆ ที่ทำดีกว่ามีถมไป ให้เขาทำเถอะ”
ฝีพระหัตถ์ในการปรุงอาหารเป็นที่กล่าวขาน มีหลักฐานที่เป็นประจักษ์พยานเป็น #ลายพระราชหัตถ์สมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า ประทานหม่อมเจ้าหญิงจงจิตรถนอม
ถึงหญิงจงจิตรถนอม
ได้รับขนมของเธอแล้ว ขอบใจมาก รู้ว่าชอบก็ทำมาให้ ทำให้อยากกับข้าวรสฝีมือเธออีก ทำอร่อยดีนัก
วันที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2473
หญิงจงฯ หลานรักของอาว์
ขนมของเธอที่ส่งมาให้ อร่อยดีทุกอย่าง แต่ฉันก็อดที่จะติไม่ได้ เพราะฉันไม่ใช่คอหวาน แต่ใครๆ เขาก็ว่าอร่อยดีทุกคน จะบอกให้ทำอะไร ก็ได้ทันความประสงค์ทุกอย่าง ดีจริงๆ แต่ถ้าเธอทำกับเข้ามาให้ฉัน จะถูกใจมากกว่า เพราะเหตุว่ากับเข้าของเธอทุกอย่างที่ทำมา อร่อยทุกสิ่ง สำหรับกับเข้าฉันเลียมือเธอทีเดียวว่าอร่อยหนัก แม้แต่กะปิพล่าซึ่งเป็นของที่ทำอย่างง่ายที่สุด เธอก็ปรุงอร่อยกลมกล่อมดี ถูกปากฉันนัก ฉันลองทำดูบ้าง กว่าจะปรุงได้ที่เหมือนมือเธอ ชิมไปชิมมากว่าจะได้ที่ ก็อิ่มพอดี แต่อย่างนั้นก็ยังไม่อร่อยเหมือนเธอทำ
เมื่อครั้งทูนหม่อมกรมหลวงสุทธาทิพย์ฯ ไปประชวรอยู่ที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ฉันไปเยี่ยมประชวร เธอทำน้ำพริกส้มมะขามผัดมาเลี้ยง นั่นก็อร่อยอีก ฉันลองให้มาทำที่นี่ ทำไม่ดี กากขยาก ไม่อร่อยเหมือนของเธอทำเลย เคยอย่างเดียวที่ไม่สู้จะอร่อย คือห่อหมก ที่ทำมาให้ เพราะออกจะมันมากไปสักหน่อย ฉันต้องกินแต่ข้างบนเท่านั้น สำหรับกับเข้าฉันต้องขอเลียมือเธอทีเดียว ว่าอร่อยดีวิเศษนัก ปรุงรสกลมกล่อมสม่ำเสมอดีมาก
ฉันขอบอกเสียให้ทราบว่าหวานมาก มันมาก เผ็ดมาก 3 อย่างนี้กินไม่ได้ แตะได้แต่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ไม่ถูกกับท้อง ลองสำแดงปลาร้ามาให้กินบ้างที หรือปลาเจ่าก็ได้
สว่างวัฒนา
หม่อมเจ้าหญิงจงจิตรถนอมพอพระทัยเล่าให้น้อง ๆ ฟังถึงสมัยที่เคยทรงทำกับข้าวตั้งเครื่องพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เวลานั้นท่านทรงอยู่ในพระอุปถัมภ์ของพระนางเจ้า สุขุมาลมารศรีพระราชเทวี (ในรัชกาลที่ 7 โปรดเกล้าฯ ให้เลื่อนพระอิสริยยศเป็นสมเด็จพระปิตุจฉาเจ้าฯ พระอัครราชเทวี) และสมเด็จเจ้าฟ้ากรมหลวงศรีรัตนโกสินทร์ ทั้งสองพระองค์โปรดให้ท่านฝึกหัดทำกับข้าว แล้วทำตั้งเครื่องต้น ด้วยในตอนนั้นทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระมเหสีทรงผลัดเวรกันทำเครื่องเสวย กับข้าวจานแรกที่หม่อมเจ้าหญิงจงจิตรถนอมทรงทำตั้งเครื่องต้น
คือ กะปิพล่า พระเจ้าอยู่หัวเสวยแล้วพอพระราชหฤทัยมาก ถึงมีลายพระราชหัตถ์ทรงชมพระราชทานมายังพระนางเจ้าฯ และทรงขอเสวยอีกครั้งในวันรุ่งขึ้น ต่อมาพระเจ้าอยู่หัวเสด็จมาเสวยพระกระยาหารค่ำที่พระที่นั่งอุดร ซึ่งเป็นที่ประทับของพระนางเจ้าฯ สัปดาห์ละ 2 ครั้ง หม่อมเจ้าหญิงจงจิตรถนอมจึงได้ทรงทำเครื่องจิ้มต่างๆ ตั้งเครื่องพระเจ้าอยู่หัวตลอดมา เป็นที่พอพระราชหฤทัยจนได้พระราชทานรางวัลสร้อยข้อมือ 1 เส้น พร้อมด้วยพระราชดำรัสว่า
“ข้าได้กินน้ำพริกของเจ้า ทำให้ข้ารอดตายไปได้” ในรัชกาลที่ 7 หม่อมเจ้าหญิงจงจิตรถนอม ก็ทรงมีโอกาสได้ตั้งเครื่องต้นหลายครั้ง ส่วนมากเป็นเครื่องว่างน้ำชา เพราะทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้กำหนดเวลาเสด็จพระราชดำเนินพระราชทานน้ำสงกรานต์สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพตรงกับเวลาเครื่องว่างเป็นประจำ ครั้งหนึ่งเสด็จพระราชดำเนิมมาเสวยพระกระยาหารค่ำที่วังวรดิศ พอประทับโต๊ะเสวยแล้วก็มีพระราชดำรัสว่า
“วันนี้ไม่ได้กินน้ำชา เพราะตั้งใจจะมากินข้าวที่นี่ให้เต็มที่”
ข้อความที่เล่ามานี้ หม่อมเจ้าหญิงจงจิตรถนอมทรงสั่งไว้ให้ลงในประวัติของท่านเมื่อไม่มีพระชนม์แล้ว เพราะท่านทรงถือเป็นสิริมงคลและเป็นเกียรติอย่างสูง อีกทั้งเป็นสิ่งที่ทำให้ท่านภาคภูมิพระทัยที่ได้มีโอกาสสนองพระเดชพระคุณพระเจ้าอยู่หัวทั้งสองพระองค์ตามความสามารถของท่าน
หม่อมเจ้าจงจิตรถนอม ดิศกุล สิ้นชีพิตักษัยเมื่อวันที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2521 สิริชันษา 92 ปี มีพิธีพระราชทานเพลิงศพเมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2521 ณ เมรุหลวงหน้าพลับพลาอิศริยาภรณ์ วัดเทพศิรินทราวาส