*** ในที่สุดเกมที่เจ๊เมาธ์เคยแอบคิดเอาไว้ว่าจะถูกนำมาใช้พลิกสถานการณ์ของ EA ก็เริ่มมีความชัดเจนมากขึ้นตามลำดับ เริ่มต้นจากการแปลงหนี้ตั๋ว B/E มูลค่า 1,160 ล้านบาท ไปเป็นสัญญาสินเชื่อ (Credit Facility) หรือจะพูดง่ายๆ ก็คือเปลี่ยนเป็นหนี้ตั๋ว B/E เป็นหนี้ธนาคาร
ส่วนหนี้หุ้นกู้ ไม่ว่าจะเป็นเงินต้น หรือ ดอกเบี้ย เจ๊เมาธ์ก็เคยบอกไปแล้วว่า เจ้าหนี้จะให้ความร่วมมือในการเลื่อนเวลาการจ่ายหนี้ ซึ่งอีกไม่นานคงชัดเจน ขณะที่เรื่องการตัดขายสินทรัพย์บางส่วนเพื่อรักษาชีวิตในวงเงินราวหมื่นล้านบาท ให้กลุ่มทุนใหม่ซึ่งน่าจะเป็นทุนจากญี่ปุ่น ในเวลาไม่นานก็คงชัดเจนเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม หากใครยังคิดว่าเพียงเรื่องของบริหารหนี้ทั้งหนี้ตั๋ว B/E และหนี้หุ้นกู้ รวมไปถึงการตัดขายสินทรัพย์บางส่วนออกมายังทำเงินได้ไม่พอ เจ๊เมาธ์ก็ขอนำเสนอทฤษฎีการตั้งกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure Fund) หรือการตั้ง “อินฟราฟันด์” เพิ่มเข้ามาเสริมเพื่อเป็นทางออกใหม่ของ EA อีกหนึ่งทฤษฎี
การตั้ง “อินฟราฟันด์” ที่ว่าจะเริ่มจากการยื่นข้อมูลขอจัดตั้งกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) โดยมีวัตถุประสงค์หลักคือ การนำสินทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับการนำธุรกิจโรงไฟฟ้าของ EA มาขายเข้ากองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน ที่จัดตั้งขึ้นใหม่ ขณะที่ทาง EA ก็ยังคงจะทำหน้าที่เป็นผู้บริหารและผู้ถือหน่วยลงทุนหลักของกองทุน
ขณะเดียวกัน เจ๊เมาธ์ยังแอบคิดว่าระยะเวลาในการจัดตั้ง “อินฟราฟันด์” ได้สำเร็จก็จะเป็นช่วงเวลาเดียวกัน กับระยะเวลากำหนดชำระหนี้หุ้นกู้ที่เลื่อนออกไปพอดี โดยเงินที่ได้รับจากการจัดตั้งกองทุนดังกล่าว จะถูกนำไปชำระคืนหนี้ที่ว่า รวมไปถึงเพื่อรองรับการขยายงานทั้งในประเทศและต่างประเทศของ EA ในอนาคต
ก็อย่างที่เจ๊เมาธ์เคยบอก ทุกอย่างมีทางออก เพียงแต่อย่าไปคิดวนอยู่แค่ในกรอบแคบๆ ส่วนจะออกได้ตอนไหน หรือ เมื่อไหร่ ก็เพียงขึ้นอยู่กับเวลาและปัจจัยแวดล้อม ในเมื่อมีสินทรัพย์อยู่เต็มมือ ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องเป็นกังวลมากเกินเหตุ
ทุกอย่างขึ้นอยู่กับการมองให้เป็นบวก หรือ ว่าจะมองให้เป็นลบ...เรื่องมันก็เท่านี้เองค่ะ
*** ถือว่า MGI ทำได้ดีกว่าที่คิด ภายหลังแจ้งผลการดำเนินงาน 2/67 ออกมาสูงถึง 58.92 ล้านบาท โตขึ้น 32.61% โดยรายได้ที่ว่านี้ มาจากการจัดกิจกรรมให้ผู้ประกวดมิสแกรนด์ ขายสินค้าของบริษัทฯ ผ่านช่องทาง TIkTok บริษัทฯ ได้รับการ ตอบรับจากการขายสินค้าได้เป็นอย่างดี รวมถึงธุรกิจสื่อและบันเทิง และธุรกิจบริหารจัดการ ศิลปิน มีการเติบโตขึ้น เนื่องจากการประกวดมิสแกรนด์ไทยแลน ปี 2024 เสร็จสิ้น
ทั้งหมดที่ว่ามา...เจ๊เมาธ์มองว่า หากไม่คิดอะไรมาก หรือหากไม่ลงลึกในข้อมูลมากเกินไปทุกอย่างก็ถือว่ายังดูดี!!!
อย่างหนึ่งก็คือ ปัญหาที่เป็นระเบิดเวลาเรื่องการด้อยค่าเงินลงทุนใน SABUY จำนวนรวม 30 ล้านหุ้น ราคาหุ้นละ 4.5 บาท คิดเป็นจำนวนเงิน 135 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้ราคาหุ้นหน้ากระดานปรับราคาลงไปเหลือเพียง 0.51 บาท/หุ้น และยังหมายความว่าในตอนนี้ MGI ได้ขาดทุนทางบัญชีกับหุ้น SABUY ไปแล้วกว่า 120 ล้านบาท
ส่วนเรื่องที่เป็นเรื่องของการเล่น “กระแส” มากไปซึ่งถือว่าเป็นความเสี่ยงที่แท้จริงของการดำเนินธุรกิจ แน่นอนว่า ตัวเลขยอดสินค้าของ MGI อาจจะดูเหมือนสูง แต่ใครจะรับประกันได้ว่าจะดีได้ตลอดไป
พร้อมกันนี้ ยังเป็นเรื่องของการที่เจ๊เมาธ์เคยตั้งคำถามเอาไว้เมื่อนานมาแล้วว่า การที่ “ณวัฒน์ อิสรไกรศีล” พยายามสร้างกระแสให้กับบริษัทอยู่ตลอด เช่นเดียวกับที่ “จักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์” เคยทำให้ JKN ของเจ๊แอน ก็มีปัญหาฟองสบู่ของสินทรัพย์ที่จับต้องไม่ได้ในที่สุด
อย่างไรก็ตาม ในเมื่อเหรียญก็ยังมีสองด้าน ใครจะไปรู้ว่า MGI ของ “ณวัฒน์” อาจจะก้าวผ่านธุรกิจเดิมที่หลายคนอาจมองว่ามีปัญหาไปสู่ “อนาคตใหม่” ก็เป็นได้ ของแบบนี้มันไม่แน่...อีกไม่นานก็คงจะได้รู้กัน
*** ในที่สุดราคาหุ้นมือถืออย่าง TRUE ก็สามารถก้าวผ่านแนวต้านที่ 10 บาท แน่นอนว่าส่วนหนึ่งมีสาเหตุมาจากการที่ผู้เล่นในตลาด (คู่แข่ง) เหลือเพียงแค่ TRUE และ AIS จนอาจทำให้ผู้บริโภคเหลือทางเลือกไม่มาก ในการที่จะเลือกซื้อหรือไม่ซื้อบริการของ TRUE จนเป็นเหตุให้รายได้และกำไรที่มาจากผลการดำเนินงานของ TRUE โตขึ้นมาอย่างมีนัยสำคัญ
แต่อีกส่วนหนึ่งก็ทำให้เจ๊เมาธ์อดที่จะเป็นห่วงไม่ได้ ว่า การที่ราคาหุ้นของ TRUE ปรับขึ้นมาแบบนี้ได้จะเป็นความยั่งยืนที่แท้จริงหรือไม่
แน่นอนว่า ส่วนหนึ่งเป็นเพราะภาพรวมที่ถึงแม้ว่า TRUE จะมีกำไรจากผลการดำเนินงาน แต่ยังคงขาดทุนอยู่ในส่วนของงบรวม ขณะเดียวกันอีกเรื่องก็คือ การที่ธุรกิจของ TRUE เริ่มเข้าสู่ตัวเลขการเติบโตของผู้ใช้บริการ ที่เริ่มจะไม่ขยับ อาจเป็นอุปสรรคของการเติบโตในระยะยาวของบริษัท
เมื่อรวมประเด็นแล้วทำให้เจ๊เมาธ์มอง ว่า มีความเป็นไปได้ที่ราคาหุ้นของ TRUE อาจเข้าสู่ช่วงเวลาของการพักตัว หลังจาที่ทะลุแนวต้านก็เป็นได้ รอดูได้เลย...ของแบบนี้มันไม่แน่ อีกไม่นานเวลาก็จะเฉลยให้รู้ว่าจริงหรือไม่เองเจ้าค่ะ