“นอนกรน” เป็นปัญหาที่ส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันและการทำงาน เพราะบางรายขณะที่ “กรน” อาจมีการหยุดหายใจ ทำให้ต้องสะดุ้งตื่นขึ้นมาตอนกลางคืน ทำให้พักผ่อนไม่เพียงพอ ไม่สดชื่น ง่วงนอนในช่วงกลางวัน เป็นอุปสรรคต่อการทำงาน หรืออาจจะเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุขณะขับรถได้ และยังทำให้เกิดโรคอื่นๆ ตามมา
“เสียงกรน เกิดจากการที่ลมหายใจไหลผ่านช่องคอที่ตีบแคบ โดยเป็นเสียงของการสั่นพลิ้วสะบัดของลิ้นไก่ เนื้อเยื้อบริเวณเพดานอ่อน และช่องคอส่วนบน โดยการกรนนี้จะทำให้เกิดภาวะอุดกั้นของทางเดินหายใจส่วนบน พบบ่อยในวัยกลางคนอายุระหว่าง 30-60 ปี โดยมักพบภาวะอุดกั้นทางเดินหายใจประมาณ 4% ในผู้ชาย และ 2% ในผู้หญิง” พญ. เพชรรัตน์ แสงทอง แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้าน โสต ศอ นาสิกวิทยาและเวชศาสตร์การนอนหลับ ศูนย์นิทรารมณ์ (Sleep center) โรงพยาบาลพระรามเก้า บอกอีกว่า
การนอนกรน แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ
การนอนกรนเกิดได้จากหลายสาเหตุ คือ
ปัจจุบันมีวีธีรักษาอาการนอนกรนได้ คือ “การร้อยไหมที่เพดานอ่อน” (barbed suspension pharyngoplasty) เป็นเทคนิคใหม่ และเป็นทางเลือกสำหรับการรักษาการนอนกรนแบบที่มีการอุดกั้นทางเดินหายในส่วนบนและมีภาวะหยุดหายใจร่วมด้วย ซึ่งปัจจุบันได้รับความนิยมมากขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยแพทย์จะใช้ไหมทางการแพทย์เย็บตกแต่งลิ้นไก่ เพดานอ่อนและคอหอย เพื่อปรับให้โครงสร้างของทางเดินหายใจส่วนต้น แก้ปัญหาการตีบแคบของทางเดินหายใจ
คล้ายกับการร้อยไหมยกกระชับที่ใบหน้า ด้วยส่วนที่พบว่าทำให้เกิดเสียงกรนและภาวะหยุดหายใจขณะหลับได้มาก คือ เพดานอ่อน วิธีที่ใช้ผ่าตัดจึงมีหลายวิธี และวิธีที่พัฒนามาจนถึงปัจจุบัน คือ วิธีร้อยไหมที่เพดานอ่อน มีข้อดีคือ ใช้เวลาผ่าตัดไม่นาน เจ็บน้อย แผลหายไว ไม่มีปมไหมให้รู้สึกรำคาญเมื่อเทียบกับวิธีดั้งเดิม และผลข้างเคียงจากการรักษาน้อยกว่า
สำหรับ “ไหม” ที่ใช้ จะเป็นไหมละลายที่มีเงี่ยงตลอดเส้น เพื่อเย็บตรึงเพดานอ่อนให้ยกขึ้น เพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อเพดานอ่อน และแพทย์จะใช้เทคนิคการซ่อนปมให้อยู่ในเพดานอ่อนทำให้ผู้ป่วยจะไม่รู้สึกรำคาญ อาจต้องทำร่วมกับการผ่าตัดทอนซิลออกเพื่อให้ทางเดินหายใจเปิดกว้างขึ้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของผู้ป่วย ซึ่งแพทย์จะพิจารณาวางแผนการรักษาให้เหมาะสมเป็นรายๆ ไป
นอกจากนี้ วิธีแก้และรักษานอนกรนและหยุดหายใจขณะหลับ ยังมีทางเลือกอีกหลากหลายวิธี อาทิ การรักษาแบบไม่ผ่าตัด เช่น การใส่เครื่องอัดอากาศแรงดันบวก CPAP การลดน้ำหนัก นอนตะแคง การใช้ยา การใส่ทันตอุปกรณ์ เป็นต้น
หน้า 15 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 43 ฉบับที่ 3,917 วันที่ 27 - 30 สิงหาคม พ.ศ. 2566