วัยเรียน เต็มไปด้วยสีสัน ทั้ง ความสนุก ความท้าทาย และความกดดัน หลายครั้งความเครียดจาก การเรียน อาจบั่นทอน พลังใจ ของเด็กๆ จนนำไปสู่ภาวะ "หมดไฟในการเรียน" โดยไม่รู้ตัว
พญ.อริยาภรณ์ ตั้งชีวินศิริกูล จิตแพทย์จากโรงพยาบาล BMHH- Bangkok Mental Health Hospital กล่าวว่า ภาวะ "หมดไฟในการเรียน" (Academic Burnout) เกิดขึ้นเมื่อนักเรียนเผชิญกับ ความเครียด และ ความกดดัน จากการเรียน การสอบ เป็นเวลานาน ส่งผลให้รู้สึกเบื่อ ไม่มีสมาธิ ไม่อยากอ่านหนังสือ ไม่อยากไปโรงเรียน
สำหรับสัญญาณเตือนภาวะหมดไฟในการเรียน ได้แก่
หมดไฟในการเรียน เกิดจากหลายสาเหตุ เช่น มีปริมาณการบ้านหรือเนื้อหาที่ต้องเรียนมากเกินไป, สั่งงานในเวลากระชั้นชิด, เกิดความกดดัน ความคาดหวังสูง, ความยากของเนื้อหาในการเรียน, ต้องเรียนในวิชาที่ไม่ชอบไม่ถนัด และมีปัญหาความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมชั้น หรือคุณครู อาจารย์
การป้องกันภาวะหมดไฟในการเรียน อาจจะเริ่มต้นด้วยการคุยกับเพื่อนเวลารู้สึกเครียดกับเรื่องการเรียนเพื่อสร้างความผ่อนคลาย จัดสัดส่วนเวลาเรียน กับการพักผ่อนให้ชัดเจน เพื่อช่วยลดความเครียด จัดสภาพแวดล้อมบนโต๊ะเรียนให้เหมาะสมน่าเรียน และนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อให้ร่างกายได้หลั่ง Growth Hormone ในการซ่อมแซมร่างกายตัวเอง และจะได้ตื่นมากระปรี้กระเปร่าต้อนรับเช้าวันใหม่
อย่างไรก็ตามภาวะหมดไฟในการเรียนอาจดูเหมือนไม่ร้ายแรง แต่ถ้าปล่อยไว้นานอาจทำให้เป็นโรคซึมเศร้าตามมาได้ หากสังเกตอาการตัวเองและคนรอบข้างได้เร็ว ก็สามารถปรับเปลี่ยนมุมมองต่อตัวเองและการเรียนได้ทัน แต่ถ้าหากอาการไม่ดีขึ้นควรเข้ามาปรึกษาจิตแพทย์เพื่อประเมินอาการและเข้ารับการรักษาที่เหมาะสม จำไว้ว่า ภาวะหมดไฟในการเรียนเป็นปัญหาที่สามารถแก้ไขได้ อย่าปล่อยให้มันส่งผลต่ออนาคต ลุกขึ้นสู้และเอาชนะมัน