แม้วันนี้จะมีเทคโนโลยีมากมาย มีนวัตกรรมสิ่งใหม่ๆ มากมาย ด้านวัตถุ แต่ไม่ได้ติดใจแล้ว ความรู้และข้อปฏิบัติ ในพุทธศาสนายังมีความจำเป็นยิ่งกับผู้คน เพราะสามารถขัดเกลาจิตใจ ให้รู้จัก ความสุขความสงบ และการสร้างบุญสร้างกุศล ให้กับตัวเองอีกด้วย
หลายคนปรารถนาอยากทำบุญกับพระอรหันต์ แต่ก็ไม่อาจทราบได้เลยว่าพระสงฆ์รูปใดองค์ไหนเป็นพระอรหันต์บ้าง จึงเกิดคำถามขึ้นมาว่าพระอรหันต์ยังมีอยู่ในโลกนี้ไหม...
ตามหลักแห่งความเป็นจริง ไม่มี ผู้ใหญ่ทราบได้เลย วัดพระรูปไหนเป็น พระอรหันต์ ยกเว้นแต่พระอรหันต์ด้วยกัน เมื่อได้สนทนาธรรมกันย่อมจะทราบกันดี ว่าได้ผ่านประสบการณ์การปฏิบัติมาเหมือนกัน และกัน
พระอรหันต์โดยเนื้อแท้แล้ว จะไม่เป่าประกาศทั้งทางตรงและทางอ้อม หรือแสดง อย่างใดอย่างหนึ่งเพื่อให้ผู้ใดได้รับรู้ว่าตนเป็นอะไรกันแล้ว มิใช่เพราะเกรงกลัวอาบัติ อย่างที่หลายคนเข้าใจแต่เป็นเพราะว่า ความยึดมั่นถือมั่นในตัวตนไม่มีแล้ว จึงไม่มีความรู้สึกอยากที่จะบอกใคร บอกเรื่องอะไร มีแต่ความรู้สึกเฉยๆ ด้วยสติสัมปชัญญะในการใช้ชีวิต แล้วก็มองเห็นว่าทุกอย่าง มันก็เป็นเช่นนั้นเอง ยึดถือไม่ได้ สุดท้ายมันก็ปล่อยวางโดยอัตโนมัติแบบที่ไม่ต้องไปบังคับให้ปล่อย
ดังนั้นจึงเป็นการยากเหลือเกินที่จะทราบได้ว่า พระภิกษุรูปใดสำเร็จเป็นพระอรหันต์บ้าง บางคน ได้ยึดตามแนวคัมภีร์ว่า ตราบใดยังมีการประพฤติปฏิบัติธรรมอยู่ โลกก็จะไม่ว่างพระอรหันต์ด้วยเหตุนั้น ซึ่งก็เป็นคำ ที่ให้กำลังใจ ต่อศรัทธาชาวพุทธทั้งหลายได้อย่างดี
ด้วยความศรัทธาที่แก่กล้า กี่ครั้งแล้วที่ชาวพุทธเราต้องผิดหวังกับบุคคลที่ถูกยกย่องว่าบรรลุเป็นพระอะไรแล้ว นั่นอาจเป็นเพราะเราใช้ความเชื่อนำความศรัทธาที่ถูกต้อง อันประกอบไปด้วยปัญญา จึงทำให้เกิดช่องว่าง และเราเป็นผู้ปรารถนา พระอรหันต์อยู่แล้วยิ่งเกิดความเชื่ออย่างง่ายดาย
เคยมีบางตำราบอกว่า เมื่อโลกผ่านพ้นมาแล้ว 2500 ปีหรือกึ่งศตวรรษ โลกนี้ก็จะว่างจากพระอรหันต์ แต่ไม่ว่างซึ่งพระอนาคามี พระสกิทาคามี พระโสดาบัน ซึ่งเรื่องนี้ก็ดู น่าจะพอมีมูลความจริงอยู่บ้าง
ดังนั้น สำหรับผู้ที่แสวงหาพระอรหันต์ เพื่อที่จะได้ทำบุญถวายทานท่าน อยากให้เปลี่ยนความคิด มีจิตอยากทำทาน ถวายทานแด่พระภิกษุ ขอจงถวายไปเถอะ วัดไหน ก็ย่อมได้อานิสงส์ พระรูปไหน ก็มีอานิสงส์เช่นกัน
ส่วนคำกล่าวที่ว่ามาแต่ต้นพระอรหันต์ยังมีอยู่หรือไม่นั้น ก็ต้องค่อยๆ เรียนรู้กันไป
พระอรหันต์หมดความโกรธ หมดความโลภและความหลงแล้วลอยบุญลอยบาปแล้วทั้งปวง จึงกล่าวได้ว่าเป็นเนื้อนาบุญแห่งโลกอย่างแท้จริง พระอรหันต์แท้จะไม่ค่อยเหมือนพระป่าธรรมดาทั่วไป อย่างน้อยก็ไม่ป้วนน้ำหมากคากน้ำมนต์ เจิม และอื่นๆ ท่านก็ไม่ทำเพราะมันเป็นการลูบคลำเสกศีลเท่านั้นเอง
ลองสังเกตดูถ้ารูปใดท่านว่าเป็นพระอรหันต์ จะต้องไม่มีการทำพิธีกรรมใดๆทั้งสิ้นที่ไม่เกี่ยวกับประเพณีของชาวพุทธใดๆทั้งสิ้นเลย