เอ็นทูน่า และ ก้างปลาย่าง

25 ส.ค. 2566 | 23:38 น.

เอ็นทูน่า และ ก้างปลาย่าง คอลัมน์อิ่ม_โอชาฯ โดย Joie de La Cuisine

ยามนี้ศรีราชาพัฒนาก้าวหน้าทันสมัย เชื่อมต่อกับแหลมฉบังในฐานะท่าเรือสากลสากลอย่างไร้รอยต่อ
 
มาตรฐานคุณภาพชีวิต ชาวอุตสาหกรรมศรีราชาก้าวหน้าทั้งบ้านเดี่ยวจัดสรรยี่ห้อดังๆจากเมืองหลวง ซุปเปอร์มาเก็ตญี่ปุ่นแท้ อย่าง ด็องกิ แลละม้ายจะกลายเปน โอซาก้าเข้าไปทุกวัน
 
วันนี้ชวนท่านมาหาของญี่ปุ่นรับประทาน ย่านด็องกิศรีราชาเปิดร้านอาหารสายพานแบบมิดชิด (รับมือโควิด) ใช้รถไฟด่วนไฟฟ้าขนาดเล็กวิ่งปรู๊ดปร๊าดลำเลียงอาหารถึงโต๊ะ

นอกจากประดากุ้งหวานโบตัน (สดและเนื้อใสหวาน) ทำข้าวปั้น ยังมีปลาแปลกๆหนังแวววามอย่างปลากุแร แล่มาสดๆบั้งนิดแล้วป้ายขิงแก่ขูดรับประทานกับโชวยุ น้ำปลาถั่วเจือพอนสึรสหอมเปรี้ยว แหม่_ เข้ากันดี๊ดี
 
ซุปมิโสะของเขาใส่หอยลายสดหนึบหวานเนื้อ กินชื่นใจคล่องคอ  มันปูเอาไปปรุงรสกินแนมกับแตงกวากรอบๆ 
 
ปลาเนื้อขาว ไม่ทราบชื่อเอาดองสาหร่ายแล้วลนไฟพอหอม ก้างปลาขนาดใหญ่ๆชิ้นโตๆ ทำย่างเกลือมาบีบมะนาวนมยานนิด แหม่ อร่อยเอร็ดมันย่อง

เด็ดดวงคือ เอ็นปลาทูน่าตัวโตๆ เอาไปลูบซีอิ้วปรุงรส แล้วย่างไฟ โรยเกสรดอกไม้แห้ง กินหนุบกินหนึบหอมอ่อนๆ 
 
แก้มปลาบุรีก็มี ย่างแล้วโรยซอสเพสโต้โหระพาฝรั่งก็ไม่เลว ย่างเกลือแบบดั้งเดิมก็อร่อย หอมไฟและมันเนื้อปลา
 
ชวนให้นึกถึงเครื่องดื่มวัฒนธรรมอย่างสาเกแท้ๆที่ต้องเอาครีบกระเบนย่างไฟใส่ในถ้วยไม้อุ่นร้อนๆก่อนรับประทาน


นสพ.ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 43 หน้า 18 ฉบับที่ 3,917 วันที่ 27 - 30 สิงหาคม พ.ศ. 2566