ช่วงระยะนี้ เรามักจะได้ยินข่าวการจับกุมผู้ต้องหาที่ทำผิดกฎหมายเป็นประจำ ทั้งในประเทศไทยและประเทศเมียนมา ข่าวใหญ่ๆ ที่โด่งดังในประเทศไทย มีทั้งข่าวของผู้ต้องหาที่เป็นชาวเมียนมาเอง กับข่าวชาวจีนที่สร้างเมืองใหม่ชเวก๊กโก่ ใกล้เมืองเมียววดี อีกทั้งทำการค้าอยู่ในประเทศเมียนมา ซึ่งมักจะมีผู้คนในแวดวงสังคมชั้นสูง ที่เราเคยได้ยินชื่อเสียงของเขา จะปรากฎให้เห็นอยู่ในหน้าข่าวอย่างไม่น่าเชื่อถึงเบื้องหลังของเขา พอเขาถูกจับกุมแล้ว เราถึงจะรู้ว่าแท้ที่จริงเบื้องหลังของเขานั้นน่ากลัวมากๆ ชาวจีนบางคนที่ถูกจับกุมที่ถูกดำเนินการส่งตัวผู้ร้ายกลับประเทศ แน่นอนว่ากฎหมายที่ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีนเขาแรงมาก ผู้กระทำความผิดต้องถูกประหารชีวิตอย่างไม่ต้องสงสัยเลยครับ
ในขณะที่ประเทศไทยเราเอง ก็มีข่าวเรื่องการซื้อ-ขายเงินตราต่างประเทศ (Forex) ที่มีคนในวงการบันเทิงเข้าไปพัวพันอยู่หลายราย ผมเองก็เคยพบเห็นเหตุการณ์ที่มีลักษณะเช่นนี้ในประเทศเมียนมาด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะในยุคที่เริ่มจะเป็นประชาธิปไตยใหม่ๆ
ในยุคนั้นจะมีการเปิดตลาดหลักทรัพย์ขึ้นมาที่ประเทศเมียนมา (Yangon Stock Exchange ชื่อย่อ YSX) ซึ่งตลาดดังกล่าวได้จัดตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม พ.ศ.2558 โดยได้มีการทำสัญญาร่วมทุนระหว่าง Myanmar Economic Bank (51.00%) กับบริษัท Daiwa Institute of Research (30.25%) ซึ่งเป็นบริษัทจากประเทศญี่ปุ่น และกลุ่มตลาดหลักทรัพย์ญี่ปุ่น (18.75%) และเริ่มทำการซื้อขายเมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2559
ในการเปิดตลาดครั้งแรก ได้มีการเข้าจดทะเบียนของ First Myanmar Investment (FMI) ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนแห่งแรกใน YSX ในช่วงแรกๆ ก็เป็นที่ฮือฮากันมากในกลุ่มคนชั้นสูงของที่ประเทศเมียนมา เพื่อนผมหลายคนก็มาชักชวนผม ไห้ไปลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ของเขา ต่อมาผมได้ส่งคนที่ผมไว้ใจคนหนึ่ง เข้าไปดูและหาข้อมูลในการลงทุน เขากลับมาเล่าให้ผมฟัง หลังจากที่เข้าไปศึกษาแล้ว พบว่าจากหลายๆ ปัจจัย ทำให้เขาคิดว่ายังไม่น่าสนใจลงทุน จึงแนะนำให้ผมควรจะรอดูไปก่อน เพราะบริษัทหลักทรัพย์ที่เข้าจดทะเบียนยังไม่เยอะ
ณ วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2561 มีจำนวนบริษัทจดทะเบียน 6 บริษัทเท่านั้น ซึ่งได้แก่ 1. First Myanmar Investment Co., Ltd. 2. Myanmar Thilawa 3. SEZ Holdings Public Ltd. 4. Myanmar Citizens Bank Ltd. 5. First Private Bank Ltd.และ 6. TMH Telecom Public Co.,Ltd เท่านั้น ผมจึงไม่ได้ไปลงทุนกับเขา เลยไม่ต้องเจ็บตัว
หลังจากที่ตลาดหลักทรัพย์เปิดได้ไม่นาน ก็มีบริษัทต่างชาติอีกบริษัทหนึ่ง ที่อยู่ด้านใต้ของประเทศไทยเรานี่แหละ เขาก็เข้ามาเปิดบริษัทซึ้อ-ขายเงินตราต่างประเทศ (Forex) อยู่ที่อาคารสำนักงานใหญ่ธนาคารใหญ่ธนาคารหนึ่ง การดำเนินงานของบริษัทนี้ เขาเริ่มด้วยการระดมรับพนักงานใหม่เข้ามาเยอะมาก ด้วยการให้ผลตอบแทนที่สูงมาก ช่วงนั้นมีลูกน้องที่ใกล้ชิดผมมากๆ คนหนึ่ง เขาได้หายตัวไปไม่เข้ามาทำงานที่บริษัทผม ทำให้ผมต้องตามหาตัวจนเจอ จึงทราบว่าก็ถูกดึงไปเช่นกัน
เขาเล่าให้ฟังว่า ทางบริษัทนั้นให้เงินเดือนเขาสูงมากกว่าบริษัทผมหลายเท่าตัว ทั้งยังมอบหมายตำแหน่งที่สูงมากให้แก่เขา และพยายามหว่านล้อมเรื่องของอนาคตให้เขาฟัง เป็นการสร้างแรงจูงใจสารพัดวิธี จากนั้นก็ให้พนักงานทุกคน พยายามเร่งหาคนมาลงทุนการซื้อ-ขายเงินตราต่างประเทศ ผมจึงเล่าให้เขาฟังถึงผลที่จะตามมา คือถ้าไม่ติดคุกติดตาราง ก็คงต้องล้มละลายแน่นอน เพราะโลกนี้ไม่มีอาชีพอะไรที่ทำเงินหรือให้ผลตอบแทนได้สูงขนาดนั้นได้ครับ สุดท้ายเขาจึงยอมที่จะลาออกจากที่นั่น กลับมาทำงานที่บริษัทผมต่อไปครับ
ในขณะที่สังคมประเทศเมียนมากำลังอยู่ในช่วงของการเปลี่ยนผ่าน หลากหลายอาชีพที่ชาวเมียนมาเองไม่เคยพบไม่เคยเห็น ก็หลั่งไหลเข้าไป ยังมีอีกหลายรูปแบบ ที่คนในเมียนมาในชีวิตนี้ไม่เคยได้พบเห็นมาก่อน ก็ได้เห็นในประเทศเมียนมา เล่ากันสามวันสามคืนก็ไม่หมดครับ มีทั้งหลอกผู้คนด้วยการซื้อ-ขาย ด้วยการให้ผลประโยชน์ ด้วยการให้ความหวัง
การหลอกลวงคนที่สามารถทำให้คนหลงเชื่อได้นั้น ถ้าเราสังเกตุให้ดี เราจะทราบว่าเขามักจะนำเอาจุดอ่อนของมนุษย์มาใช้เสมอ ที่สำคัญที่สุดคือความโลภของมนุษย์ มักจะเป็นจุดที่อ่อนไหวและง่ายต่อการหว่านล้อม ดังนั้นเราต้องระมัดระวังตัวเรา อย่าให้ความโลภเข้ามาครอบงำจิตใจเราเป็นอันขาด
ต้องระลึกเสมอว่า ไม่มีอะไรในโลกนี้ ที่ได้มาอย่างง่ายๆ ทุกคนที่ประสบความสำเร็จในอาชีพการงานของตนเองมา ย่อมต้องแลกมาด้วยหยาดเหงื่อและแรงกายด้วยกันทั้งนั้น ดังนั้นต้องระมัดระวังด้วยความไม่ให้ความโลภเข้ามาสู่จิตใจเราเป็นอันขาดครับ