ซัคเซสมอร์ ชู 5 กลยุทธ์นำธุรกิจสู่เป้าหมาย 2,700 ล้านบาท ติดท็อป 5 ธุรกิจขายตรงไทย เดินหน้าพาองค์กรลุยตลาดเออีซี พร้อมเทงบ 30-35 ล้านบาทขยายสาขาต่อเนื่อง
น.พ.สิทธวีร์ เกียรติชวนันต์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ซัคเซสมอร์ บีอิ้งค์ จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจขายตรงแบรนด์ ซัคเซสมอร์ เปิดเผยถึงทิศทางการดำเนินธุรกิจในปี 2560 ว่า ได้วางกลยุทธ์สร้างการเติบโตของธุรกิจไว้ 5 กลยุทธ์ ได้แก่ 1. สร้างแบรนด์ระดับจิตวิญญาณ 2. ส่งเสริมนักธุรกิจให้เติบโตอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน 3.สร้างวัฒนธรรมองค์กรแห่งความสำเร็จที่ยั่งยืน 4.การบริหารสายสัมพันธ์และสร้างประสบการณ์ที่ดีของสมาชิก และ 5. สร้างความเป็นมืออาชีพของทีมงานบริหารและทีมนักธุรกิจ
ทั้งนี้ บริษัทได้วางเป้าหมายด้านยอดขายไว้ 2,700 ล้านบาท แบ่งเป็นยอดขายภายในประเทศไทย 1,500 ล้านบาท และยอดขายในกลุ่มประเทศอาเซียนอีก 1,200 ล้านบาท จากการเข้าดำเนินธุรกิจในประเทศเมียนมา สปป.ลาว กัมพูชา และเวียดนาม โดยปีที่ผ่านมาบริษัทมียอดขาย 2,124 ล้านบาท แบ่งเป็นยอดขายในประเทศไทย 1,202 ล้านบาท และยอดขายในต่างประเทศอีก 922 ล้านบาท
น.พ.สิทธิวีร์ กล่าวว่า นับตั้งแต่บริษัทได้เริ่มดำเนินธุรกิจมาตั้งแต่ปี 2556 จนถึงปัจจุบัน ผลประกอบการเติบโตกว่าเป้าหมายทุกปี ซึ่งในปีแรกบริษัทมียอดขาย 41 ล้านบาท ปี 2557 ตั้งเป้าหมายยอดขาย 300 ล้านบาท แต่ทำยอดขายได้ 334 ล้านบาท ปี 2558 ตั้งเป้าหมายยอดขาย 1,000 ล้านบาท แต่ทำได้ 1,304 ล้านบาท ส่วนปีที่ผ่านมาตั้งเป้าหมายยอดขาย 1,800 ล้านบาท แต่ทำได้ 2,124 ล้านบาท ซึ่งในปีนี้ยังมีความหวังว่าจะสามารถทำยอดขายได้มากกว่าเป้าหมาย และอาจจะส่งผลให้ติดอันดับ 1 ใน 5 ของอุตสาหกรรมขายตรงไทยด้วย
"ปีที่ผ่านมายอดขายเติบโตถึง 62.8% จากปี 2558 และในปี้นี้ตั้งเป้าเติบโต 30% คงต้องมาดูกันอีกครั้งว่าจะทำผลประกอบการเติบโตกว่าเป้าหมายหรือไม่ ซึ่งปีนี้ได้วางคอนเซ็ปต์การดำเนินธุรกิจด้วยแนวคิด จากจิตวิญญาณองค์กรสู่จิตวิญญาณของตัวคุณ หรือ From Corporate Spirit to Your Spirit ที่สร้างค่านยิมขององค์กรไว้ 5 ประการ ได้แก่ 1.การมุ่งมั่นสู่ความสำเร็จ 2.มุ่งเน้นการพัฒนาคนอย่างต่อเนื่อง 3.มีหัวใจเป็นธรรมกับผู้คน 4.สามารถทำงานเป็นทีม และ5.หัวใจของการเป็นผู้ให้ เพื่อให้สมาชิกใช้เป็นแนวทางการดำเนินธุรกิจร่วมกัน"
โดยปัจจุบันบริษัทมียอดสมาชิกกว่า 4.85 แสนรหัส เป็นสมาชิกในประเทศไทย 3.02 แสนรหัส และในกลุ่มประเทศอาเซียนอีกกว่า 1.83 รหัส ซึ่งที่ผ่านมามีจำนวนสมาชิกใหม่เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 2 หมื่นรหัสต่อเดือน ขณะที่แผนการลงทุนขยายสาขาในปีนี้ บริษัทเตรียมงบประมาณไว้ 35-50 ล้านบาท ซึ่งจะใช้ขยายสาขาในเมียนมา 2-3 แห่ง เวียดนาม 1 แห่ง และในประเทศไทยยังอยู่ระหว่างการศึกษาพื้นที่และจำนวน แต่เบื้องต้นจะเน้นในเขตกรุงเทพฯ จำนวน 2-4 แห่ง โดยงบลงทุนการขยายสาขาเฉลี่ย 2-3 ล้านบาทต่อแห่ง ปัจจุบันบริษัทมีสาขารวมทั้งหมด 28 แห่ง ในไทยมี 20 แห่งและในประเทศอาเซียนอีก 8 แห่ง
"ปีนี้บริษัทไม่มีแผนขยายการลงทุนไปในประเทศใหม่ แต่จะมุ่งเน้นการทำตลาดในประเทศเดิม โดยโฟกัสที่เมียนมา สปป.ลาว และกัมพูชา ซึ่งตลาดในอาเซียนมีโอกาสเติบโตได้มากกว่าเป้าหมาย 1,200 ล้านบาท ขึ้นอยู่กับการเข้าไปทำตลาดว่าจะทำได้มากน้อยแค่ไหน โดยเฉพาะประเทศเวียดนามและกัมพูชา ที่บริษัทเพิ่มเริ่มเข้าไปทำตลาด แต่แบรนด์สินค้าไทยถือว่าได้รับความนิยมและได้รักการยอมรับจากประเทศเหล่านี้อยู่แล้ว ทำให้ที่ผ่านมาบริษัทมียอดขายเติบโตอย่างต่อเนื่อง"
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,229 วันที่ 22 - 25 มกราคม 2560